ศุกร์กับเซ็กส์ - เอาน้ำอสุจิใส่ไปในทวารหนักตนเอง | คมชัดลึก

  ตอบ 

อันที่จริงยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งทวารหนัก ทราบแต่ว่าปัจจัยต่อไปนี้ ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทวารหนัก
 - อายุมาก คนไข้ที่เป็นมะเร็งทวารหนักส่วนใหญ่ อายุมากกว่า 50-60 ปี
 - เป็นเพศหญิง หรือเป็นชายรักชาย
 - ภูมิต้านทานต่ำ เช่น ติดเชื้อเอชไอวี (เอดส์) ได้รับยากดภูมิต้านทาน เช่น เป็นโรคภูมิต้านทานร่างกายบกพร่อง
 - มีการระคายเคืองที่ทวารหนักบ่อยๆ ทวารหนักมีแผลเรื้อรัง เช่น เป็นริดสีดวงทวารหนัก เป็นโรคฝีคัณฑสูตร(Fistula in ano ) (เป็นฝีที่มีรูเปิดของฝีระหว่างทวารหนักและผิวหนัง)
 - การร่วมเพศทางทวารหนัก (ทั้งชายและหญิง)
 - สูบบุหรี่
 - มีคู่นอนมาก
 - ติดเชื้อเอชพีวี

 คนทั่วไปมีโอกาสเป็นมะเร็งทวารหนัก 1 คนในประชากรแสนคน พบเพศหญิงมากกว่าเพศชาย  แต่สำหรับชายรักชายที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก โอกาสเป็นมะเร็งทวารหนัก 35 คนในประชากรแสนคน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเอชพีวี เพราะพบการติดเชื้อเอชพีวีได้สูงในชายรักชาย เชื้อเอชพีวีก่อมะเร็งที่ทวารหนัก โดยทำให้เซลล์ปกติของทวารหนัก กลายเป็นเซลล์มะเร็งโดยพบเอชพีวีชนิดที่ 16 มากที่สุด

 อาการของมะเร็งทวารหนัก คือ มีเลือดออก เจ็บคันที่ทวารหนัก มีก้อนที่ทวารหนัก มีอาการระคายเคืองทวารหนัก อุจจาระไม่ปกติ เช่น เป็นก้อนลีบ เหลว มีเลือดปน

 การวินิจฉัยมะเร็งทวารหนัก เมื่อมีอาการผิดปกติควรไปพบแพทย์ แพทย์อาศัยการตรวจทางทวารหนัก โดยการส่องกล้อง หรือคลำ ขริบเนื้องอกที่ทวารหนักไปตรวจทางพยาธิวิทยา

 หากไม่มีอาการ แต่อยากตรวจหามะเร็งทวารหนัก เพราะมีความเสี่ยง เช่น มีการร่วมเพศทางทวารหนัก แพทย์อาจใช้วิธีตรวจหาเซลล์มะเร็งที่ทวารหนัก โดยการทำแพ็ปสเมียร์ เหมือนการตรวจหามะเร็งปากมดลูก
สำหรับผู้ที่ถามมา เนื่องจากการติดเชื้อเอชพีวีจนเกิดมะเร็งทวารหนัก ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อผ่านเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นทางทวารหนัก ดังนั้นในกรณีที่คุณไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักกับใคร แต่เอาน้ำอสุจิตนใส่ไปในทวารหนักตนเอง โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งทวารหนักจากการติดเชื้อเอชพีวีนั้นน้อยมาก อย่างไรก็ตาม การกระทำแบบนี้ไม่ค่อยปกติ หากหมกมุ่นกระทำบ่อยๆ ควรพบจิตแพทย์

"พญ.ชัญวลี ศรีสุโข"
([email protected]
<mailto:[email protected]>)