
เขาแหลมหญ้า ทะเลและโขดหิน
เขาแหลมหญ้า ทะเลและโขดหิน : คอลัมน์ชวนเที่ยว
บางครั้งบางคราว เราก็อยากพักผ่อนสบายๆ อยู่นิ่งๆ เฉยๆ ซะบ้าง สลับกับการเดินป่าแบบเทรกกิ้ง รายชื่อของท้องทะเล เกาะแก่งทั้งใกล้และไกลทยอยลำดับเข้ามาในความคิด แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ "เขาแหลมหญ้า" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด จ.ระยอง นี่เอง
จำได้ว่า รู้จักชื่อของเขาแหลมหญ้า ก็จากการเข้าค่ายรับน้อง เมื่อสมัยเรียน รุ่นพี่พาเดินขึ้นเขา เป็นดูทุ่งหญ้าริมหน้าผา เห็นท้องทะเลกว้าง เกาะเสม็ดเหมือนอยู่ไม่ไกล แต่ครั้งนั้นเราไม่ได้เข้าไปพักในบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จนมาตอนนี้ที่มีเวลาพักผ่อนวันเสาร์-อาทิตย์ หมุนไป หมุนมา ก็ขับรถออกสู่ภาคตะวันออก ไปนอนเล่นริมทะเลดีกว่า
การเดินทางก็สบายๆ กรุงเทพ-ระยอง ใช้เส้นเลี่ยงเมืองสาย 36 ไปเรื่อยๆ ถึงสามแยกที่จะเข้าตัวเมืองระยอง เราก็ฉีกออกซ้าย ไปทางบ้านเพ ก่อนถึงบ้านเพ จะเห็นป้ายบอกทางเข้าหาดแม่รำพึง ก็เลี้ยวขวาไฟแดงไปตามป้ายบอกนั่นแหล่ะ ขับรถเส้นเลียบทะเลไปถึงบ้านก้นอ่าว แทบจะสุดหาด ก็จะเห็น
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าฯ เสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานคนละ 40 บาท รถอีก 30 ตรงหน้าด่าน แล้วก็ขับเข้าไปตามเส้นทางวกวนขึ้นเขา อ้อ... ถ้าเลย 18.00 น. เขาห้ามเข้าแล้วนะคะ
อุทยานแห่งชาติเขาเเหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทยในท้องที่อำเภอแกลง และอำเภอเมือง จังหวดระยอง ครอบคลุมพื้นที่บนฝั่งและในท้องทะเล ตลอดจนเกาะต่างๆ ที่ขึ้นชื่อโดดเด่นก็คือเกาะเสม็ด แต่วันนี้ฉันเลือกไปนอนตามเกาะ แต่ขอมานอนเล่นริมทะเลเงียบสงบ ที่เขาแหลมหญ้านี่แหละ
เป้าหมายของฉันอยู่เลยตัวที่ทำการฯ ลงไปกางเตนท์ นอนเล่นริมทะเล ถนนสู่ชายทะเลลาดยางอย่างดี โค้งวัดใจของฉันก็อยู่ตรงทางลงสู่ชายทะเล และท่าเทียบเรือนั่นแหล่ะ โค้งแทบจะเป็นตัวยูแคบๆ ใครมาเร็วๆ แรงๆ อาจจะพลาดได้ง่ายๆ ยิ่งถ้ามีรถสวนมาด้วยยิ่งต้องระวัง พอผ่านโค้งนี้ ก็ถึงแนวชายทะเล แยกซ้ายก็ไปลานกางเต็นท์ แยกขวา ก็ไปลานกางเต็นท์ และจุดชมวิว รวมถึงร้านสวัสดิการ ใครไม่ไปแต่ตัวก็ไม่ต้องกลัวอด แถมรสชาติอาหารที่นี่ก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียว เว้นแต่ตอนนักท่องเที่ยวสั่งกันเยอะๆ ก็รอคิวนานเหมือนกัน(แฮะ)
แต่คนส่วนใหญ่ที่ไป มักจะซื้ออาหารไปปิ้งย่าง กางเต็นท์นอน เพราะสถานที่สะดวกสบาย มีห้องน้ำสะอาด ส่วนบานพักก็มีอยู่ไม่กี่หลัง ตามลักษณะของอุทยานแห่งชาติทั่วๆ ไป
เอาเป็นว่าสำรวจว่าจะกางเต็นท์ตรงไหนดีที่คนไม่เยอะ ฉันเลือกเลี้ยวรถไปทางซ้าย ห่างจากร้านค้า ที่มีคนพลุกพล่าน ลานสนามหญ้ามี 2 สเต็ป กับหาดทรายเล็กๆ ด้านหน้า ที่เมื่อก่อนจะมีผักบุ้งทะเลขึ้นเป็นแพใหญ่ เวลาออกดอกพร้อมกันที สวยงามอย่าบอกใคร แต่น่าเสียดายไปอีกครั้ง แพผักบุ้งนี้ก็หายไปซะแล้ว เหลือแค่ไม่กี่ต้นให้พอตื่นเต้น
ตรงลานกางเต็นท์ส่วนนี้ต้องขนของเดินไกลหน่อย แต่ก็ดีกว่าให้รถเข้าไปจอดถึงที่ มันจะเสียหายได้ วันนั้นคนไม่เยอะมาก ท้องฟ้าเดี๋ยวดี เดี๋ยวครึ้ม เดาใจไม่ค่อยจะถูกซะจริง เพราะจะว่าไป เห็นอากาศกำลังดีอย่างธันวาคม-มีนาคม แต่ก็มีโอกาสเจอฝน บางวันคลื่นลมแรงขนาดออกเรือ ออกทะเลไม่ได้ก็มี
กางเต็นท์เสร็จ ก็หาที่เดินเล่น ไปแถวจุดชมวิว สะพานท่าเทียบเรือ(เก่า) เห็นถนนที่ยื่นไปในทะเล สุดปลายทางเป็นศาลาเล็กๆ กลายเป็นถนนลาดยางอย่างดี มีเสาไฟฟ้าข้างทางด้วย แดดยังเปรี้ยงๆ เย็นนี้ น่าจะเห็นดวงอาทิตย์ตกสวยแน่ๆ แต่พอเอาเข้าจริง ยังไม่ทันไร ฝนก็ตั้งเค้ามาซะแล้ว ก่อนจะโปรยปรายลงมาหนักหน่วง คลื่นก็ซัดแรง ความหวังจะได้เห็นดวงอาทิตย์ตกหายวับไปกับตา
เอาแค่ว่า เย็นๆ แดดร่มลมตก ไปนั่งมองเกาะใหญ่ๆ ที่เห็นใกล้ๆ อยู่ปลายสะพานสบายๆ เกาะเสม็ดในอีกมุมมองที่เห็น ฝั่งนี้เป็นด้านผาหิน มีเวิ้งอ่าวเล็กๆ คืออ่าวพร้าว ส่วนอ่าวยอดฮิตอื่นๆ จะอยู่อีกด้านของเกาะ
จริงๆ ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ยังมีอีกหลายเกาะทั้งที่ไปมาแล้ว และยังไม่ได้ไป นอกเหนือจากเกาะเสม็ด ยังมีเกาะกุฎี ที่เป็นเกาะเล็กๆ เงียบสงบ โดยมากนักท่องเที่ยวจะนั่งเรือเร็วไปดำน้ำ หรือไม่ก็นอนเล่นอาบแดด ตกเย็นก็กลับที่พักที่เกาะเสม็ด หรือ ฝั่งระยอง ฉันเคยไปค้างคืนมา แต่เมื่อหลายปีก่อน บร๊ะเจ้า...ตกค่ำ มีแต่ฉันกับเกาะ ถ้าไม่นับเจ้าหน้าที่ มันเหือนเป็นบ้านส่วนตัวของฉันซะจริงๆ มีโอกาสจะเปิดบ้านหลังนี้ มาอวดแฟนๆ คอลัมน์นะคะ
พลบค่ำที่เขาแหลมหญ้า ถ้าเป็นค่ำคืนวันศุกร์ และเสาร์ อาจจะคึกคัก ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่หนาตา บางช่วงไม่มีที่จอดรถและที่กางเตนท์เต็มบริเวณไปหมด แต่พอแค่คืนวันอาทิตย์ ที่นี่ก็แทบจะร้างผู้คนเหมือนกัน เหลือแต่เจ้าหน้าที่ ร้านค้า และนักท่องเที่ยวไม่กี่คน
วันรุ่งขึ้น อากาศสดใสแต่เช้า หลังฝนตก ท้องฟ้ามักสดใส แสงแรกแห่งวันทักทายจากปลายขอบฟ้า ฉันต้องโผล่หน้าออกมาเก็บภาพความสวยงามไว้ซะหน่อย ก่อนจะต้มน้ำ จิบกาแฟ รับลมเย็นๆ ริมทะเล จนท้องหิวถึงออกไปที่ร้านสวัสดิการ แล้วก็ออกไปเดินเล่นตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จุดเดินขึ้นก็อยู่ตรงโค้งวัดใจรูปตัวยูแคบๆ นั่นเอง ระยะทางไม่ไกล แต่หลากหลายตรงที่ผ่านป่า ต้นไม้ร่มครึ้ม ก่อนจะทะลุออกไปสุดปลายแหลม ถ้าเจอป้ายบอก "แหลมหญ้า" ก็แสดงว่า ไม่ผิดทางแน่ๆ ความจริงเส้นทางนี้ชัด และมีป้ายสื่อความหมายตลอด ไม่ต้องกลัวหลง
ลมทะเลพัดแรงจัด ถาโถมเข้าสู่หน้าผาอยู่ตลอดนี่เอง ทำให้ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น บริเวณนี้จึงมีแต่ต้นหญ้า และนี่กระมั่งเลยได้ชื่อว่า เขาแหลมหญ้า จากจุดนี้ก็จะมองย้อนกลับไปเห็นสะพาน ตรงจุดชมวิวชายทะเล พักหายเหนื่อย ค่อยเดินกลับ มาไต่หินริมทะเลเล่นบ้าง ที่นี่หาดทรายมีเป็นเวิ้งเล็กๆ อยู่ตรงลานกางเต็นท์ฝั่งซ้ายมือ
เขาแหลมหญ้า แม้ไม่หวือหวาเหมือนเกาะเสม็ด แต่ก็ไม่ขี้เหร่จนไม่อยากไปอีก ยามใดที่คิดถึงทะเลฝั่งตะวันออก ชื่อนี้ก็มักผุดขึ้นมาเป็นตัวเลือกซะทุกทีไป
.....................................
(เขาแหลมหญ้า ทะเลและโขดหิน : คอลัมน์ชวนเที่ยว )