ไลฟ์สไตล์

ไขปัญหาฯ : ภัยของการไม่กินมื้อเช้า

ไขปัญหาฯ : ภัยของการไม่กินมื้อเช้า

22 มี.ค. 2556

ไขปัญหาสุขภาพแผนจีน : ภัยของการไม่กินอาหารมื้อเช้า : โดย...หมอไพร

 

                      พอถึงเวลาอาหาร น้ำย่อยของกระเพาะต้องออกมารอทำงานตามหน้าที่ของมัน เมื่อไม่มีอาหารจะให้ย่อย มันก็จะบาดเอาเยื่อบุกระเพาะ ทำให้เรารู้สึกแสบท้อง เป็นเช่นนี้ครั้งสองครั้งไม่เป็นไร ถ้าเป็นประจำจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอักเสบ กระเพาะเป็นแผล ปวดท้องเป็นประจำ นั่นคือ เบาะๆ ได้โรคกระเพาะ โรคกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะ เป็นต้น แต่ที่ไม่พึงปรารถนาก็คือ ได้มะเร็งกระเพาะอาหาร

                      สามีเพื่อนของผู้เขียนท่านหนึ่ง อายุ 70 ปี ตรวจพบมะเร็งกระเพาะขั้นรุนแรง ต้องผ่าตัดกระเพาะออก 4ใน5 คือตัดกระเพาะออก 4 ส่วนเหลือ 1 ส่วน หลังผ่าตัดกินอาหาได้ 2-3คำก็อืดแน่น อ่อนเพลียมาก ย้อนมองการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยชินกับการกินอาหารเช้า จึงไม่ค่อยได้กินป็นชิ้นเป็นอัน อย่างมากเป็นขนมปัง 1 ชิ้น กาแฟ 1 ถ้วย กลางวันก็กินตรงเวลาบ้างไม่ตรงบ้าง ส่วนมื้อเย็น มักมีกินเลี้ยงสังสรรเพื่อนฝูงบ่อยๆตามประสาคนเป็นข้าราชการ พออายุ 30 กว่าเริ่มมีอาการปวดกระเพาะ ไปหาหมอให้ยากระเพาะมากินหาย พอปวดอีกไปซื้อยาตามร้านขายยาตามตัวอย่างที่คุณหมอให้มา อาการทุเลาลงทุกครั้งที่ไดกินยา จึงไม่ใส่ใจ เพราะโรคกระเพาะอาหารใครๆก็เป็นกัน จวบจนอายุย่างเข้า 60กว่าๆ เริ่มปวดมากขึ้น ยังตรวจไม่พบว่าเป็นมะเร็ง จนกระทั่งปวดมาก กินข้าวไม่ได้ น้ำหนักลดลงมาก หมอให้ส่องกล้องจึงพบว่ามีก้อนมะเร็งที่กระเพาะอาหาร ต้องผ่าตัดออก4ใน 5 ส่วนดังที่กล่าวมา

                      อีกท่านหนึ่งเป็นสตรี อายุ 40 กว่า เธอเป็นคนขยัน รักความสะอาดมาก ตื่นเข้าขึ้นมาต้องเป็นแจ๋วเอง ทั้งปัดกวาด เช็ดถูบ้านทุกวัน หากงานบ้านไม่เสร็จจะไม่กินข้าว บางวันทำจนถึงเวลาอาหารกลางวันจึงกินข้าว ต่อมาเลยกินอาหารวันละ 2 มื้อ กลางวันกับเย็นเท่านั้น เนื่องจากสามีเธอขับรถรับจ้าง กว่าจะกลับบ้านเวลาก็ปาเข้าไป 4-5ทุ่มแล้ว หรือเร็วช้ากว่านั้นแล้วแต่งานจะเสร็จ เธอกับสามีดูแลกันดี เธอจะรอกินข้าวพร้อมกับสามีทุกวัน

                      ไม่นานเธอมีอาการปวดกระเพาะ ไปหาหมอเอายากระเพาะมากิน ช่วงที่กินก็หาย แต่ไม่นานปวดอีก เป็นๆหายๆเช่นนี้เป็นประจำ เธอไม่คิดว่าจะมีอาการร้ายแรงขึ้นแต่อย่างใด พออายุ 46 อยู่มาวันหนึ่ง ปวดท้องมาก อาเจียนด้วย ไปตรวจ พบว่าเป็นมะเร็งขั้น 3 หมอผ่าตัดเอากระเพาะออก3 ใน 4 ส่วน

                      เพราะอะไรเธอจึงเป็นเช่นนั้น ได้กล่าวมาแล้วว่า เวลา 7-9โมงเช้าเป็นเวลาของเส้นลมปราณกระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้า น้ำย่อยที่กระเพาะขับออกมาจะได้มีอาหารย่อย ไม่ไปย่อยเอาผนังกระเพาะ เมื่อไม่กินอาหาร ผนังกระเพาะถูกกรดในน้ำย่อยบาดเอาอยู่บ่อยๆ ทำให้อักเสบ จนก่อตัวเป็นมะเร็งขึ้น อีกอย่างหนึ่ง เวลา 5ทุ่ม -ถึงตี 3เป็นเวลานอนพักผ่อน กระเพาะอาหารต้องพักซ่อมแซมตัวเอง แต่กลับกินอาหารให้มันทำงานหนัก เวลาของนาฬิกาชีวิตจึงกลับกัน ทำให้เป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารอย่างที่เธอเป็น หลังผ่าตัดแล้ว เธอปรับชีวิตตัวเองใหม่ โดยกินอาหารเป็นเวลา กินอาหารเช้า ถึงมื้อเที่ยงกินข้าว ข้าวเย็นกินก่อน 1 ทุ่ม ทั้งยังทำเมนูอาหารสำหรับมะเร็งกระเพาะอาหารด้วย

                      ส่วนประกอบเมนู มี หน่อไม้ฝรั่ง 100 กรัม หัวไชท้าว 50กรัม ถั่วแขก 50 กรัม เห็ดหอม 50 กรัม หอมใหญ่ 50 กรัม กระเทียม 30 กรัม

                      หน่อไม่ฝรั่ง เป็นพืชที่เป็นอาหารสุขภาพที่ดีมาก ช่วยขับพิษ ช่วยให้เซลล์แข็งแรง ไม่แปรเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็ง ,กระเทียม มีสารต้านมะเร็งได้ดี ,หอมใหญ่ มีสารปิดกั้นการเกิดสารมะเร็งได้ดี ถ้ากินหอมใหญ่บ่อยๆ จะเป็นผลดีต่อร่างกาย

                      นอกจากไม่กินมื้อเช้าทำให้เกิดโรคกระเพาะแล้ว ยังกระทบไปถึงสมองด้วย หากสมองขาดสารอาหารบ่อย เราจะรู้สึกว่าตัวเองทำไมช่วงนี้ขี้หลงขี้ลืมบ่อย พอแก่ตัวลง อัลไซเมอร์จะไปไหนถ้าไม่อยู่กับเรา

                      ชีวิตของคนเราเกี่ยวข้องกับการกิน กินอย่างไรไม่ให้เกิดโรคจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องให้ความใส่ใจ มื้อเช้าจึงมีความสำคัญต่อร่างกายและชีวิตของเราเหลือคณา