ไลฟ์สไตล์

'หมากเม่า'ผลไม้พื้นบ้านสู่ผลิตภัณฑ์สปา

'หมากเม่า'ผลไม้พื้นบ้านสู่ผลิตภัณฑ์สปา

20 มี.ค. 2556

'หมากเม่า' จากผลไม้พื้นบ้าน สู่ผลิตภัณฑ์สปาระดับสากล : โดย...กวินทรา ใจซื่อ

 

                            "หมากเม่า" หรือเม่าหลวง ผลไม้พื้นบ้านอีสานพบมากที่สุดบนเทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร เดิมทีชาวบ้านนิยมนำมารับประทานผลสด จนมีงานวิจัยบ่งชี้ว่ามีสารประกอบฟินอลิก สารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเสี่ยงในโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับอาหาร เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน หัวใจ อัลไซเมอร์ รวมทั้งช่วยชะลอความแก่ได้ อีกทั้งมีสรรพคุณครบถ้วนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่รากถึงใบ 

                            จากประโยชน์ที่ว่านี้ ดร.สุดารัตน์ สกุลคู หัวหน้างานวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร  จึงนำองค์ความรู้ที่มีอยู่มาแปรรูปต่อยอดเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งน้ำเม่าพร้อมดื่ม แยม ไวน์ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่เกษตรกร และได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้รักสุขภาพ            

                            “งานวิจัยและพัฒนาเริ่มปี 2538 โดยคณะทำงานได้สำรวจพันธุ์ไม้ในชุมชนตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช โดยร่วมกับเครือข่ายอินแปง พบว่าป่าเทือกเขาภูพานมีต้นหมากเม่าหลวงขึ้นอยู่ทั่วไป จากการศึกษาวิจัยพบว่าทุกส่วนของพืชชนิดนี้ ตั้งแต่รากถึงใบมีคุณค่าทางอาหารสูง โดยเฉพาะพบว่ามีแคลเซียมและธาตุเหล็ก อีกทั้งผลสุกมี 3 รส ทั้งหวาน เปรี้ยว ฝาด จึงเริ่มอนุรักษ์สายพันธุ์ และเริ่มพัฒนาเป็นน้ำหมากเม่า ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นในการแปรรูปผลไม้พื้นเมืองของไทย”            

                            ตลอด 18 ปี การพัฒนาการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ทำให้ผลไม้พื้นเมืองที่ไม่มีคนรู้จักกลายเป็นที่นิยม ขณะที่ ดร.สุดารัตน์ พร้อมทีมวิจัยยังดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชพื้นบ้าน ไปพร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกหลากหลายรูปแบบ จนปัจจุบันได้นำหมากเม่ามาต่อยอดจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หมากเม่าสำหรับใช้ในสปา บางส่วนถ่ายทอดให้แก่ชาวบ้านได้นำไปใช้ประกอบอาชีพแล้ว ในรูปของสบู่ก้อน       

                            “การลงพื้นที่ศึกษาความเข้มของสีหมากเม่า นักวิจัยต้องกรีดน้ำหมากเม่าทดสอบสีบนหลังมือและสังเกตเห็นว่าผิวหนังบริเวณนั้นผิวตึงเรียบและใสขึ้น จึงทดสอบอยู่หลายครั้ง ประกอบกับงานวิจัยระบุว่า หมากเม่าจะมีสารช่วยชะลอความชราได้ จึงเป็นแนวคิดนำน้ำหมากเม่ามาเป็นส่วนผสมของสบู่ เมื่อมาลองใช้เองได้ผลดี จึงนำองค์ความรู้นี้ไปถ่ายทอดสู่ชุมชน”            

                            ส่วนผสมและขั้นตอนการทำสบู่หมากเม่า ประกอบด้วย กรีเซอรีนเม็ด น้ำหมากเม่า 100 เปอร์เซ็นต์ น้ำหอม น้ำสะอาด หม้อ เครื่องชั่งน้ำหนักและแม่พิมพ์สบู่ เริ่มจากนำน้ำหมากเม่า 1 กรัม ผสมกลีเซอรีน 1 กก. จากนั้นนำไปตั้งไฟอ่อนจนส่วนผสมละลาย แล้วเติมกลิ่นน้ำหอมตามต้องการ เทสบู่ลงในแม่พิมพ์ทิ้งไว้ข้ามคืนให้สบู่แข็งตัว

                            ปัจจุบันสบู่หมากเม่ามี 3 สูตร คือสบู่น้ำหมากเม่า สบู่ใบชาหมากเม่า และสบู่จากเอนไซม์หมากเม่า ซึ่งมีสรรพคุณคล้ายกันคือทำให้ผิวพรรณกระชับเต่งตึง เนียน ใส นอกจากสบู่ก้อนแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามอื่นๆ ที่จะนำไปใช้ในกิจการสปาทั้งสบู่เหลว โลชั่น สครับ ทั้งนี้ สบู่หมากเม่ามีวางจำหน่ายที่ร้านค้าสวัสดิการมหาวิทยาลัย ร้านพลังบุญ จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมา ราคาก้อนละ 30-50 บาท ตามขนาด

                            การพัฒนาผลิตภัณฑ์หมากเม่ามาเป็นเครื่องสำอางสำหรับใช้ในสปานั้น นับเป็นการยกระดับไปอีกก้าว ที่ถือว่าสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลไม้พื้นบ้านให้สูงขึ้น ซึ่งในอนาคต ดร.สุดารัตน์ สกุลคู ยืนยันว่ามีแนวโน้มที่จะมีการนำหมากเม่ามาใช้เป็นวัตถุดิบมากขึ้นทั้งการผลิตเป็นน้ำเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์สปา อีกทั้งเพื่อใช้ในงานอุตสาหกรรมอาหารมากยิ่งขึ้น

 

 

--------------------

('หมากเม่า' จากผลไม้พื้นบ้าน สู่ผลิตภัณฑ์สปาระดับสากล : โดย...กวินทรา ใจซื่อ)