ไลฟ์สไตล์

สปสช.-ปิยะเวทอุ้มผู้ป่วยโรคหัวใจเน้นกรณีส่งต่อ-ฉุกเฉินเริ่ม15 มิ.ย.

สปสช.-ปิยะเวทอุ้มผู้ป่วยโรคหัวใจเน้นกรณีส่งต่อ-ฉุกเฉินเริ่ม15 มิ.ย.

03 มิ.ย. 2552

สปสช.จับมือรพ.ปิยะเวทรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ เริ่ม 15 มิถุนายนนี้รับเฉพาะกรณีส่งต่อ-ฉุกเฉินหวังช่วยผู้ป่วยบัตรทองไม่ต้องรอคิวรักษานานเป็นปี โรงพยาบาลเอกชนรายได้เพิ่มเดือนละ 10-20 ล้านบาท

ที่โรงพยาบาลปิยะเวทนพ.สุดเดชวลีอิทธิกุล ผอ.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขตพื้นที่กรุงเทพมหานครลงนามในสัญญาให้บริการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าร่วมกับ ศ.นพ.นิธิมหานนท์ ประธานกรรมการบริหาร รพ.ปิยะเวท

นพ.สุรเดชกล่าวว่า สปสช. ได้ขยายสิทธิการบริการรักษาโรคหัวใจให้ผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองสามารถรักษาที่รพ.ปิยะเวทได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนนี้เป็นต้นไปเน้นกรณีผู้ป่วยส่งต่อและกรณีฉุกเฉินเพื่อช่วยผู้ป่วยบัตรทองไม่ต้องรอคิวในการรักษาเป็นเวลานาน เพราะปัจจุบันผู้ป่วยโรคหัวใจต้องรอคิวผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ หรือบอลลูนหัวใจ ฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจและจี้ไฟฟ้าหัวใจเป็นเวลานาน บางคนต้องรอ 3 เดือนบางคนรอถึง 2 ปีและมีหลายรายที่เสียชีวิตระหว่างที่ยังรอคิวขณะที่สปสช.จะจ่ายในอัตราเดียวกับโรงพยาบาลรัฐ เช่น ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ 1.2 แสนบาททั้งที่ปกติโรงพยาบาลเอกชนจะคิดค่ารักษา 4-5 แสนบาท

ศ.นพ.นิธิกล่าวว่า รพ.ปิยะเวท มีความเชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคหัวใจ และมีศักยภาพจึงร่วมโครงการกับสปสช. โดยค่ารักษาจากผู้ป่วยบัตรทองถูกกว่าผู้ป่วยทั่วไปถึง70% แต่ไม่ขาดทุนเพราะคาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มและคาดจะเพิ่มรายได้เดือนละ 10-20 ล้านบาทและในอนาคตจะเข้าร่วมโครงการกับสปสช.เพื่อรักษาโรคอื่นๆเช่น กระดูก สมอง และกายภาพบำบัด

ด้านพญ.ธัญรัตน์อร่ามเสรีวงศ์ อายุรแพทย์หัวใจ สถาบันหัวใจเพอร์เฟคฮาร์ท รพ.ปิยะเวท กล่าวว่า รพ.รองรับผู้ป่วยโรคหัวใจได้เดือนละ 320 คนและรองรับผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจได้ เดือนละ 100 รายปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคหัวใจเดือนละ 50-60 คนในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยชาวต่างชาติร้อยละ50