2W 3P ที่ร.ร.บ้านธารปราสาท | คมชัดลึก

               "คำศัพท์เป็นพื้นฐานสำคัญที่เด็กต้องมี ดังนั้น 20 นาทีแรกก่อนเริ่มต้นบทเรียน ผมจะให้เด็กเรียนรู้คำศัพท์ เช่น ออกเสียง รู้ความหมาย จากนั้นจะนำเข้าสู่บทเรียน ซึ่งการเรียน มีทั้งเรียนจากหนังสือ เกม กิจกรรมสนุกๆ ให้เด็กคลายเครียด เพราะภาษาอังกฤษต้องทำให้เด็กสนุกไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นเด็กจะเบื่อเอาได้ครับ" ครูใหญ่ อรุณ เรืองตนนอก ครูชำนาญการพิเศษภาษาต่างประเทศ โรงเรียนบ้านธารปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา กล่าว

               โรงเรียนบ้านธารปราสาท ตั้งอยู่หมู่ 7 บ้านปราสาทใต้ ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียน 203 คน ภายใต้การบริหารของผอ.ปรีชา ทองปาน ได้รับการสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หนึ่งในนั้นคือ โปรแกรมอิงลิช ดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยสอนของครู และเป็นตัวต่อยอดทางภาษาให้แก่เด็กนักเรียนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการส่งเสริม และพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอย่างรอบด้าน ทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน เพื่อเตรียมพร้อมสู่ยุคเปิดเสรีอาเซียนในปี 2558

               ครูใหญ่บอกว่า ภาษาอังกฤษคือหน้าต่างของโอกาส ยิ่งประเทศกำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีกไม่กี่ปีด้วยแล้ว ยิ่งมีความสำคัญ ครูต้องเข้ามามีบทบาท โดยเข้ามาช่วยเหลือเด็กนักเรียนด้วยการทลายกำแพงความยาก และน่าเบื่อให้กลายเป็นเรื่องเข้าใจง่าย แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในชั้นเรียน เน้นให้อยู่ในกรอบ 2W 3P เริ่มจากวอร์มอัพ (Warm up) เตรียมพร้อมก่อนเข้าบทเรียนด้วยคำศัพท์ เน้นการออกเสียง รู้ความหมาย ตามมาด้วย การนำเสนอเนื้อหาในบทเรียน (Present) ฝึกฝน (Practice) ประมวลผลการเรียนรู้ (Production) และจบท้ายด้วยการขมวดพร้อมสรุปบทเรียน (Wrap up) โดยครูและนักเรียนช่วยกันสรุป"

               "เรามีศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในระดับประถมศึกษา (Peer Center) ซึ่งเป็นศูนย์ประจำเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 มีสื่อการเรียนการสอนจำนวนมาก รวมไปถึงคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งโปรแกรมสอนภาษาอังกฤษไว้สำหรับเด็กและครูในโรงเรียนอีกจำนวน 20 เครื่อง นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์ที่เปิดให้โรงเรียนภายในเขตอื่นๆ ที่ขาดแคลนสื่อเข้ามาขอใช้ได้อีกด้วย" ครูใหญ่บอก

                นอกจากนั้นยังมีการปั้นเด็กให้เป็นไกด์อาสา ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมฝึกภาษาอังกฤษแก่เด็กนักเรียกน ทำให้เด็กกล้าที่จะพูดกับชาวต่างชาติได้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันมียุวมัคคุเทศก์จำนวน 50 คน ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้น ป.5 และ ป.6 ทั้งๆ ที่กำลังจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน แต่กลับมีชั่วโมงเรียนที่น้อย สัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง อยากให้เด็กพูดได้ สื่อสารได้ ทางที่ดีควรมีการทบทวน หรือไม่ก็อาจเพิ่มชั่วโมงเรียนให้มากขึ้น จากโครงสร้างหลักสูตรเดิมที่กำหนดเอาไว้ 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อย่างน้อยๆ ควรเพิ่มเป็น 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพราะ 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์น้อยไป

               ด.ญ.ประกายดาว สุขแก้ว หรือน้องแบม นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านธารปราสาท บอกว่า ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าหมั่นท่องศัพท์ และฝึกฝนทักษะการพูด การฟังอยู่บ่อยๆ และการที่ครูมีสื่อต่างๆ เข้ามาช่วยสอน ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษดูน่าสนุกขึ้น

               ด้าน ด.ญ.ดวงเดือน เตโพธิ์ หรือน้องยุ้ย เพื่อนร่วมชั้นเดียวกัน พูดถึงห้องเรียนภาษาอังกฤษที่อยากเรียนว่า ต้องมีการสร้างบรรยากาศการเรียนที่ดีในชั้นเรียน มีการพูดคุยอย่างสนุกสนาน เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และความตื่นเต้นเร้าใจผ่านเกม และกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมสนทนาโต้ตอบ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สนุก และช่วยพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี

               "ครูที่นี่จะสอนสนุกค่ะ สอนแบบตลกๆ ทำให้หนูไม่เครียด ชอบเวลาที่ครูให้ออกไปพูดบทสนทนาโต้ตอบกัน ช่วยให้ได้ฝึกความกล้า และพัฒนาภาษาอังกฤษไปในตัวด้วย นอกจากนั้นคำศัพท์ก็สำคัญ ถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษต้องหมั่นท่องศัพท์ พร้อมกับฟังให้เยอะๆ ค่ะ" ยุ้ยเผย พร้อมกับทิ้งท้ายว่า อีกไม่กี่ปีก็จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว หากไม่ให้ความสำคัญกับภาษาอังกฤษ คงยากที่จะหางานดีๆ ทำได้ในอนาคตนั่นเอง

......................................

(2W 3P ที่ร.ร.บ้านธารปราสาท เปลี่ยนอิงลิชจากเบื่อเป็นสนุก : โดย...หทัยรัตน์  ดีประเสริฐ)