ไลฟ์สไตล์

บ่าว-สาวออกเหย้าขนบ'แห่ขันหมาก'รากประเพณี

บ่าว-สาวออกเหย้าขนบ'แห่ขันหมาก'รากประเพณี

21 ก.พ. 2556

ศิลปวัฒนธรรม : บ่าว-สาว ออกเหย้า ขนบ 'แห่ขันหมาก' รากประเพณี : เรื่อง/ภาพ : รุ่งวชิรา ทับทิมทอง

                    ประเพณี "การยกขันหมาก" เป็นการสู่ขอความรักของชายหนุ่มต่อหญิงสาว อันเป็นขนบธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งสมัยโบราณ จวบจนรุ่นลูก รุ่นหลานในปัจจุบัน แต่หากสมัยนี้กลับลางเลือนจนเหมือนผู้สืบทอดจะจางหายไป ดังนั้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดความรักในแผ่นดิน วัฒนธรรม และประเพณีการออกเรือนแบบไทยแท้ให้คงอยู่สืบไป โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เนรมิตพื้นที่ภายในโรงพยาบาลให้ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของสมุนไพรท่ามกลางบรรยากาศความหวานของคู่บ่าวสาวในพิธีแห่ขันหมากแบบดั้งเดิม ด้วยการจัดงาน "รักนิรันดร์ ผูกพันแผ่นดิน"

                    ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดขบวนแห่ขันหมาก ชาวจังหวัดปราจีนบุรี ไขศรี ขุมทอง เล่าว่า "การยกขันหมาก" พิธีสู่ขออันเป็นสิริมงคล โดยมี "หมาก" เป็นสื่อกลางของมนต์คาถาความศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ "การยกขันหมาก" ยังเป็นการบอกกล่าวและขออนุญาต ที่เจ้าบ่าวจะสู่ขอเจ้าสาวไปเป็นภรรยา ซึ่งนับเป็นกระบวนการประกาศให้สังคมได้รับรู้และเป็นหลักประกันให้แก่เด็กที่จะมาเกิดอีกด้วย สำหรับในขบวนขันหมากนั้นจะประกอบไปด้วย 2 ส่วนสำคัญ ที่เรียกกันว่า "ขันหมากเอก" และ "ขันหมากโท"

                    "ขันหมากเอก" ประกอบไปด้วย "พานขันหมาก" หรือ "หมาก 3 ขัน" ขันที่ 1 ใช้พลู 9 เรียง เรียงละ 9 ใบ หมากแห้งหรือหมากสด 9 ลูก ขันที่ 2 ใช้พลู 7 เรียง เรียงละ 7 ใบ หมากแห้งหรือหมากสด 7 ลูก ขันที่ 3 ใช้พลู 5 เรียง เรียงละ 5 ใบ หมากแห้งหรือหมากสด 5 ลูก โดยแต่ละพานนอกจากจะมีพลูวางเรียงอย่างประณีต บรรจงไว้อย่างสวยงามแล้วแต่ละพานต้องมี ใบเงิน ใบทอง ใบนาค ใบรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดาวเรือง และดอกรัก ประกอบอยู่ในแต่ละพานด้วย โดยฝ่ายเจ้าบ่าวจะเป็นฝ่ายถือไปยังบ้านของเจ้าสาว ต่อมาเป็น "พานสินสอดทองหมั้น" เอาไว้ใส่เงิน ใส่ทองของหมั้น ตามที่ได้ตกลงกันระหว่างครอบครัวฝ่ายชาย และครอบครัวฝ่ายสาว ส่วน "พานธูปเทียนแพ" เจ้าบ่าวจะเป็นผู้ถือมาในระหว่างขบวนแห่ขันหมาก แสดงถึงการนอบน้อมต่อครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาว

                    ขณะเดียวกัน ข้างฝ่ายเจ้าสาวเองก็ต้องตระเตรียม "พานเชิญขันหมาก" เพื่อแสดงการต้อนรับขบวนฝ่ายเจ้าบ่าวเมื่อมาถึง โดยบนพานประกอบด้วยหมาก พลู ยามวน ยาเส้น สีผึ้ง และเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เครื่องเซ่นผี หรือเตียบ โดยการวางเครื่องเซ่นจะหันหน้าไปด้านทิศตะวันออก หรือทิศเหนือ 2 ทิศ นี้เท่านั้น

                    ส่วน "ขันหมากโท" ประกอบด้วยอาหารและขนม อันได้แก่ ต้นกล้วย ต้นอ้อย หมู ไก่ มะพร้าว กล้วย ส้ม ขนมต้มขาว ขนมต้มแดง ทั้งนี้ยังมีขนมนานาชนิด เช่น ขนมเปียก ขนมกวน กาละแม ข้าวเหนียวแดง เป็นต้น ซึ่งในแต่ละถาดนั้นตกแต่งด้วยกระดาษสีแผ่นเล็กๆ วางปะหน้าแสดงให้เห็นถึงความเป็นสิริมงคลแก่ความรัก เหนียวแน่นดุจลักษณะของขนมที่ได้ตระเตรียมมา ในส่วนขนมที่นำมาเตรียมใช้ในพิธีแต่งงาน ล้วนแต่มีชื่อที่มีความหมายที่ดี ไพเราะเสนาะหู อย่างเช่น จ่ามงกุฎ เสน่ห์จันทร์ ฝอยทอง ทองเอก ทองหยิบ ทองหยอด ขนมกง ถ้วยฟู เม็ดขนุน และขนมชั้น เป็นต้น

                    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดขบวนแห่ขันหมาก ได้แสดงความกังวลว่า ถึงประเพณีการจัดขบวนขันหมากในปัจจุบัน ยังคงมีให้เห็นอยู่ แต่จะเห็นได้ว่า การจัดข้าวของเครื่องใช้ตามแบบดั้งเดิมมีให้เห็นน้อยนัก ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผู้จัดงานไม่มีความรู้ หรือไม่อาจต้องการลดต้นทุนก็เป็นได้ อีกทั้งคนสมัยใหม่นิยมมีประเพณีแบบสากลกันมากขึ้น จึงทำให้การสืบทอด "การแห่ขบวนขันหมาก" จืดจางลงไป

                    "ถ้าถามความคิดเห็นป้าคงต้องบอกว่า ไม่อยากให้ประเพณีการแห่ขันหมากแบบดั้งเดิมนี้สูญหาย จืดจางไป คนที่จะสามารถทำพิธี ตระเตรียมข้าวของที่ต้องใช้ในวันที่เป็นสิริมงคลเช่นนี้ได้ ไม่ใช่เป็นใครก็ได้จะมาทำพิธี ต้องมีการ "ครอบครู" ผู้เป็นครูจะทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ หมายถึง ผู้ที่จะมาสืบทอดประเพณีนี้ไว้ให้อยู่คู่เป็นความรู้ชั่วลูกชั่วหลาน ครูจะต้องเป็นผู้เลือก ต้องดูคนว่าจะต้องเป็นคนดี มีความตั้งใจที่อยากจะอนุรักษ์สืบสานอย่างตั้งใจจริง" ผู้เชี่ยวชาญด้านพิธีการแห่ขันหมากกล่าวให้ความรู้ ทิ้งท้าย