ไลฟ์สไตล์

สัมผัสสุขด้วยใจ ในเมืองสามหมอก

สัมผัสสุขด้วยใจ ในเมืองสามหมอก

17 ก.พ. 2556

สัมผัสสุขด้วยใจ ในเมืองสามหมอก : คอลัมน์ชวนเที่ยว : โดย...ภาพ/เรื่อง โดย Blogger: Tanthainium (สุจิรา แก้วเกิดเกษ)

สัมผัสสุขด้วยใจ ในเมืองสามหมอก

 

                เช้าแล้ว...เสียงไก่บ้านตีปีกพึ่บพับก่อนขันรับกันเป็นจังหวะจะโคน ฉันตื่นขึ้นจากภวังค์ฝัน ต่อสู้กับไออุ่นใต้ผ้าห่มหนาก่อนคว้าเสื้อกันหนาวบางๆ แล้วย่างก้าวเดินออกจากเกสต์เฮ้าส์บ้านไม้สักหลังนั้น ม่านหมอกเกาะกุมถนน ลอยเรื่อยระคนปะปนคลุมหนทาง ก่อนเจือจางหายไปในชั้นบรรยากาศอย่างไม่ทันสังเกต “เมืองสามหมอก” ฉันบอกตัวเองอีกครั้งว่ายังดีใจเป็นยิ่งนัก ที่ได้กลับมาทักทาย ใจกลางตัวเมือง จ.แม่ฮ่องสอน อันสงบและสมถะแห่งนี้

                แม่ฮ่องสอน...แม้มีหุบเขาน้อยใหญ่ใช้หลบหลีกปลีกวิเวกอยู่ไกลถึงขอบตะเข็บแห่งชายแดนไทย-พม่า ทว่า หากว่าใครสามารถฝ่าฟันโค้งนับพัน เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร ในการทนฝืนความคลื่นเหียนมาได้ ความสุขใจจากที่นี่ คงมีแจกให้เป็นของรางวัลกับผู้มาเยือนอย่างสาสม

                ฉันเช่ามอเตอร์ไซค์ในเมืองด้วยราคาย่อมเยา ก่อนกระชับกล้องคล้องความมั่นใจว่า อย่างไรเสีย เที่ยวเมืองแม่ฮ่องสอน คงไม่มีหลงเป็นแน่

                “จะหลงไปไหนได้ ก็เมืองมันเล็กเสียขนาดนี้” เสียงเพื่อนซี้กระเซ้าเย้าแหย่ให้น่าหัวร่อ

                แม่ฮ่องสอน ไม่เพียงแต่จะมีขนาดตัวเมืองเล็กกะทัดรัดเท่านั้น แต่ผู้คนเฉลี่ยแล้วมีอยู่ไม่ถึง 20 คนต่อ 1 ตร.กม. ซึ่งถือว่ามีประชากรเบาบางมากที่สุดในประเทศไทย ในทางตรงกันข้าม ที่นี่กลับมีพื้นที่กว้างใหญ่ขนาดติดอันดับ 8 ของประเทศเลยทีเดียว งานนี้เล่นเอาฉันเกรงว่าจะไม่มีผู้คนผ่านมาให้ถามทางในยามที่หลงไปเสียแล้วนะสิ

                รถเล็กสองล้อพาฉันห้อตะบึงทะลุผ่านม่านไม้ใหญ่แห่งป่าอุดม ฉันเลือกเส้นทางยอดนิยมที่ผู้คนมักใช้ขับไปปางอุ๋ง หรือบ้างก็มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองปาย  การมาเยือนแม่ฮ่องสอนของฉัน ไม่ได้มีการตั้งจุดหมายว่าจะไปที่ใดเป็นพิเศษ แต่การขับรถเที่ยวเล่นนี่แหละคือเป้าหมายสำคัญเพราะมันคือวิธีลดหย่อนผ่อนความตึงเครียดได้ดีอีกทางหนึ่ง บนท้องถนนสวยในวันนั้น ฉันจึงได้มีโอกาสหยุดจอดทอดสายตามองท้องทุ่งนา เพื่อชมความงามที่ถูกบรรจงสร้างแล้วไปต่อยังถ้ำปลาก่อนย้อนกลับมานั่งเล่น ณ ริมสายน้ำปายที่หลากไหลผ่านอย่างระรื่นเรื่อย

 

สัมผัสสุขด้วยใจ ในเมืองสามหมอก

 

                อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจคือหมู่บ้านชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว ที่บ้านห้วยเสือเฒ่า ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองประมาณ 12 กม. แค่เพียงขับรถกินลมชมวิวไปตามทาง ก็ถือว่าคุ้มและกินขาดกับบรรยากาศที่อัดแน่นไปด้วยโอโซนบริสุทธิ์แล้ว ชาวกะเหรี่ยงคอยาว มีอยู่หลายแห่งในแม่ฮ่องสอน ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านห้วยเสือเฒ่า บ้านน้ำเพียงดินและบ้านในสอย ซึ่งคงนับเป็นเรื่องดี หากมีเวลาได้ไปศึกษาและทำความรู้จักกับวิถีชีวิตของคนชนเผ่าเหล่านั้น

                ส่วนภายในเมืองเล็กๆ อย่างแม่ฮ่องสอนเอง ก็ทำให้คนไปเยือนได้เห็นความแตกต่างทางวัฒนธรรมความเป็นอยู่เพราะผู้คนที่นี่ ส่วนมากมีเชื้อสายไทยใหญ่ อันทำให้สินค้าอาหารทั้งแห้งและคาว ล้วนแล้วแต่น่าลิ้มลองเป็นของแปลกใหม่ให้ชีวิตคนต่างถิ่นเป็นอย่างยิ่ง

                ใบตองตึงสีเขียวสด ยังคงถูกนำมาใช้ใส่ห่ออาหารให้เห็นที่แม่ฮ่องสอน อาหารไทยใหญ่อันเป็นมื้อเช้าของวันนั้น ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงสะนาบ, จิ้นลุง, จิ้นตำ ฉันก็กระหน่ำสาวใส่ปากกับข้าวเหนียวนึ่ง ได้เจริญอาหารมากกว่าปกติ

                คนไทยใหญ่ที่นี่ ยังคงมีวัฒนธรรมใส่เสื้อผ้าท้องถิ่น จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้เห็นร้านขายเสื้อผ้าของไทยใหญ่หรือแม้แต่หมวกกุบไต แบบพื้นเมืองก็ยังมีคนใส่ให้เห็นอยู่เสมอๆ

 

สัมผัสสุขด้วยใจ ในเมืองสามหมอก

 

                หลายคนกล่าวว่า นาฬิกาที่แม่ฮ่องสอน เดินช้ากว่านาฬิกาในเมืองหลวง ฉันเองก็แอบคิดเข้าข้างเพราะทุกสิ่งอย่างดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ทว่า มันทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายสบายตัวเป็นยิ่งนัก

                ใกล้ค่ำแล้ว...ฉันขึ้นดอยเล็กๆ ที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเพื่อไปยังวัดพระธาตุดอยกองมู อันอยู่คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอนมาช้านาน เมื่อส่งตะวันลาลับขอบฟ้าไปแล้ว จึงมาสักการบูชาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์

                ณ บนยอดดอยกองมู ฉันเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของวินาทีที่ดำเนินไป ลมหนาวเริ่มย่างกรายอีกครั้ง พระจันทร์นวลแสง ค่อยๆ เปล่งประกายเฉิดฉายส่อง หมู่ดาวทยอยตัวผุดขึ้น แล้วซอกแซกแหวกม่านเมฆออกมาเจิดจรัส กลางเมืองด้านล่างที่ฉันเห็น เป็นหนองน้ำกว้างผืนใหญ่ อันมีวัดสง่าตามลักษณะไทใหญ่อย่างวัดหนองจองคำ ตั้งตระหง่านประหนึ่งพระเอกแห่งเมือง

                ความสุขที่ได้รับจากการมาเยือนเมืองเล็กน่ารักแห่งนี้ เห็นทีจะบอกยากว่า สุขนั้นอยู่ตรงไหนเพราะสุขที่นี่มีแทรกอยู่ในทุกอณูของสรรพสิ่ง สุขจากธรรมชาติ จากวัฒนธรรมและสุขกับความพอใจที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเมืองอย่างเชื่องช้า

                เป็นเรื่องน่ายินดีที่คนที่นี่ยังคงร่วมกันอนุรักษ์ไว้ ฉันจึงเอาสุขมาแบ่งปัน ณ วันเวลาและสถานที่อันสงบสุขแห่งแม่ฮ่องสอน...

 

สัมผัสสุขด้วยใจ ในเมืองสามหมอก

 

 ......................................
(สัมผัสสุขด้วยใจ ในเมืองสามหมอก : คอลัมน์ชวนเที่ยว : โดย...ภาพ/เรื่อง โดย Blogger: Tanthainium (สุจิรา แก้วเกิดเกษ)