
ตามล่าเกาะน่าเที่ยว ชื่อ'มอริเชียส'
ตามล่าเกาะน่าเที่ยว ชื่อ'มอริเชียส' : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง
ประกาศตัวไปแล้วว่าเป็น ”นักล่าเกาะน่าเที่ยว” เลยเป็นเหมือนภารกิจยังไงไม่ทราบ ชาวบ้านจะไปเกาะมัลดีฟส์ เกาะซานโตรินี หรือเกาะบาหลีก็ช่าง แต่ข้าพเจ้ายังมุ่งมั่นสแกนบนแผนที่โลกยังไม่ลดละ เพื่อตามล่าหาเกาะน่าเที่ยว
สแกนไปสแกนมา ก็พบว่า แถวมหาสมุทรอินเดียค่อนลงไปทางใต้ จะเรียกว่าเป็นโซนแอฟริกาตะวันออก นอกจากเกาะซานซิบาร์แห่งแทนซาเนีย ที่เพิ่งทำให้ฉันตกหลุมรักมาหมาดๆ ยังมีอีก 2-3 เกาะที่หมายมั่นจะไปแช่น้ำทะเลแถวนั้นให้ได้
นั่นก็คือเกาะซีเชลส์และเกาะมอริเชียส หลังจากนั่งนับนิ้ววันหยุดประจำปีดูแล้ว จะไปพร้อมกัน 2 เกาะเลยก็ได้ แต่คงไปพร้อมกับซองขาว
เมื่อต้องเลือกระหว่างเกาะใดเกาะหนึ่ง ฉันจึงตัดสินใจเลือกทำความรู้จักกับ เกาะมอริเชียส ก่อน อดเปรี้ยวไว้กินหวาน เก็บซีเชลส์ไว้เป็นจุดหมายที่ปักหมุดไว้ รออีก 3-4 เดือนจะนั่งเรือบินไปหย่อนลงที่ซีเชลส์ให้ได้
จากนั้นเริ่มทำการบ้านด้วยการค่อยๆ ทำความรู้จักกับมอริเชียส เกาะที่เป็นประเทศกลางมหาสมุทรอินเดีย จุดหมายที่คอโรแมนซ์ไม่มีใครปล่อยให้ลอยนวล
เสียงร่ำลือถึงความโรแมนซ์ของมอริเชียส ว่าเป็นมุมที่หลายคู่นิยมใช้เป็นที่ฮันนีมูน ที่นี่จึงถูกโหวตจากหลายสำนักให้เป็นหนึ่งในมุมโรแมนติกของโลก คู่ไหนที่น้ำต้มผักเริ่มไม่หวาน เขาแนะให้จูงมือคนรักไปที่นั่น
มาถึงการบ้านเรื่องการเดินทาง หลังจากค้นดูซักพัก จึงพบว่าจากกรุงเทพจะไปมอริเชียส สะดวกสุดคือสายการบินเอมิเรตส์ (0-2664-1040-5) มีเที่ยวบินไปมอริเชียสทุกวัน โดยเขาพาบินไปแวะดูไบก่อน ระยะบินประมาณ 6 ชั่วโมงนั้นแสนสะดวกสบาย เพราะโดยสารไปกับเที่ยวบินแอร์บัส A380 เครื่องบิน 2 ชั้นที่จุผู้โดยสารได้เกือบ 500 คน ที่นั่งกว้างขวางและบริการอันยอดเยี่ยมทำให้ช่วยคลายเหนื่อย จากนั้นบินต่อไปอีก 6 ชั่วโมงจึงถึงเกาะมอริเชียส
มอริเชียสต้อนรับฉันด้วยอากาศแบบคุ้มดีคุ้มร้าย เดี๋ยวแดดเดี๋ยวฝน สลับกันจนเซเลบจากทุ่งบางนาเริ่มงงกับดินฟ้าอากาศของเกาะใต้เส้นศูนย์สูตร
ผลจากการนั่งรถไปบนถนนแคบๆ (ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเป็นแบบนี้ทั้งเกาะ) ก็พบว่ามอริเชียสเป็นเกาะสีเขียว ต้นไม้เยอะ มีเทือกเขาโอบเมืองอยู่อย่างหลวมๆ
ถึงถนนจะโปร่งโล่ง รถราน้อย นานๆ จะสวนมาคันหนึ่ง แต่เมื่อความแคบคืออุปสรรค ทำให้ระดับความเร็วทำไม่ได้เต็มเหนี่ยวเท่าไหร่ ถึงแม้จะเป็นระยะทางไม่กี่กิโล แต่ก็นานทีเดียวกว่าจะพาตัวเองไปถึงเรือนพักของคลับเมด (0-2253-0108) ที่อยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ
พูดถึงคลับเมด ต้องเล่าว่าผลจากการทำการบ้านอย่างหนักหน่วงก่อนเดินทาง จึงพบว่า ย่านที่เป็นที่พักส่วนใหญ่อยู่แถว แกรนด์ เบย์ และ พอร์ต หลุยส์ ถ้าอยากสันโดษก็ไปมุมอื่น แต่ทั่วทั้งเกาะมอริเชียสมีที่พักให้เลือกเยอะมาก คลิกไปค้นมา จึงมาจบลงที่คลับเมดเพราะเขาเป็นที่พักที่มีเครื่องดื่มและอาหารการกินพร้อมพรั่ง และตั้งอยู่บนชายหาดที่สวยงาม บนเกาะมอริเชียสมีคลับเมดให้เลือกพัก 2 จุดคือ La Plantation d'Albion Club Med (www.clubmed.com) และ Club Med La Pointe aux Canonniers แต่ฉันมาลงเอยที่ La Plantation d'Albion Club Med
อบอุ่นตั้งแต่วินาทีแรกที่ย่างเท้าเข้าชายคา คงจะเป็นคอนเซ็ปต์ของคลับเมดทุกที่ในโลก เรียกว่าดูแลดีขนาดถ้ากระเตงเข้าเอวแล้วอุ้มไปส่งถึงห้องได้คงทำไปแล้ว
แค่ผลักประตูห้องเข้าไป ฉันก็พบว่า ไม่อยากพรากจากห้องหับไปไหนอีกแล้ว ถึงไม่ใช่ห้องแบบซีวิว แต่เป็นห้องแบบซีการ์เดนท์ เปิดประตูหลัง หย่อนตัวลงบนเก้าอี้ริมระเบียง นั่งฟังเสียงนกในดงแมกไม้ แค่นี้น้ำทะเลของเกาะมอริเชียสก็ดูเหมือนจืดไปสนิทใจ
โทนสีชมพูบานเย็นของห้อง ทำให้ด้านนอกที่ดูเรียบๆ กลายเป็นซ่อนความเก๋ เปรี้ยว และแอบโก้หรูเอาไว้ในตัว
หลังจากม้วนหน้าม้วนหลัง กลิ้งสิบตลบอยู่ในห้องอย่างสาแก่ใจ จึงได้เวลาออกไปสำรวจกิจกรรมและมุมต่างๆ ของคลับเมดดูบ้าง เพราะเท่าที่เคยไปคลับเมดมัลดีฟส์ บาหลี และภูเก็ต ก็พบว่าเขามีกิจกรรมให้ทำชนิดว่าแทบไม่ต้องออกไปนอกชายคาคลับเมด ก็อยู่ได้เป็นอาทิตย์แบบไม่เบื่อ
ฉบับหน้า เดี๋ยวไปดูกันว่าในรั้วรอบขอบชิดของคลับเมด มอริเชียส เขามีอะไรให้ทำสนุกๆ กันบ้าง ก่อนจะไปจิบน้ำทะเลสีสดของเกาะมอริเชียสรอบๆ เกาะกันอย่างจุใจ จะได้รู้ว่าทำไมมอริเชียสถึงถูกใจคอโรแมนซ์
....................................
(ตามล่าเกาะน่าเที่ยว ชื่อ'มอริเชียส' : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง)