เปิดโลกการศึกษามุสลิม:31ม.ค.56 | คมชัดลึก

               เกือบ 20 ปี ที่อยู่ ณ ประเทศอียิปต์ ทำงานเพื่อสังคม คือ สิ่งที่เติมเต็มให้ชีวิตได้เผื่อความรักกลับไปสู่ประเทศไทย ดินแดนบ้านเกิด แม้วันนี้ผมกลายเป็นอดีตนายกสมาคมนักเรียนไทยในกรุงไคโรไปแล้ว แต่ยังระวังเฝ้าดูการทำงานของคณะกรรมการทุกรุ่น และเป็นกำลังใจให้กับสมาคมเงียบๆ ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา มีชมรมนักศึกษาไทยในอียิปต์ประมาณ 40 ชมรม แต่ละชมรมจะมีการคัดเลือกผู้เข้ามาบริหารสมาคมในตำแหน่งต่างๆ มีหลายชมรมทั้งในกรุงเทพฯ และภาคใต้ ที่ส่งนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมตลอดมาอย่างน่าชื่นชม 

                หนึ่งในนั้นคือ ชมรมดารุสสาลามในประเทศอียิปต์ ซึ่งชมรมนี้มีนายกมาแล้วถึง 2 คนด้วยกัน นั่นคือ นายกซาบูเลาะ มามะ อดีตนายกเมื่อปี 2010-2011 และนายกยะยา เซะ ซึ่งเป็นนายกสมาคมในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีน้องๆ นักศึกษาในชมรมเข้ามาเป็นตัวช่วยเสริมกิจกรรมด้วยตลอดเวลา ล่าสุดผมได้มอบทุนการศึกษาจำนวนหนึ่งที่ได้จากการจำหน่ายหนังสือ “นับหนึ่งจนถึงวันนี้ชีวิตของผู้ชายดีๆ” ให้ต้นน้ำของการศึกษาที่สร้างนักศึกษาให้มีคุณภาพออกมาสู่สังคมในต่างแดนได้อย่างน่าชื่นชม

                โดยมอบทุนการศึกษาให้นักศึกษาเรียนดี กิจกรรมเด่นของโรงเรียนดารุสสาลาม ทั้งหมด 16 ทุน ทุนละ 1,000 บาท และไอแพดหนึ่งเครื่อง ให้แก่นักศึกษาที่มีกิจกรรมเด่น น้องอาราฟัต สามะยะซา ผู้ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนนี้มาโดยตลอด โดยมี เกสรา จันทร์เกตุ ผู้จัดการส่วนตัวที่เดินทางไปมอบถึงโรงเรียนคุณภาพโดยการต้อนรับที่ดีและเป็นกันเอง

                ที่มาของโรงเรียนแห่งนี้ มีอยู่ว่า เมื่อปี 2494 นายหะยีดาโอะ เบ็ญหะยียูโซฟ บอตอ (โต๊ะครูปัจจุบัน) ได้เดินทางกลับบ้านหลังจากได้เดินทางไปศึกษาต่อวิชาศาสนาจากนครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นเวลา 17 ปี และได้ก่อตั้งโรงเรียนดารุสสาลามขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2504 ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจ ที่เรียนศาสนาในหมู่บ้าน จัดการเรียนการสอนแบบปอเนาะ (เรียนศาสนาอย่างเดียว) และมีการพัฒนาขึ้นเป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน มี นายฟัครุดดีน บอตอ เป็นผู้จัดการโรงเรียน นายมูหามะรอสดี บอตอ รองผู้จัดการ และนางนูรีฮัน เร็งมา ผู้อำนวยการโรงเรียนดารุสสาลามเปิดสอนทั้งระบบศาสนาและสามัญโดยครูและอาจารย์ที่มีคุณภาพทั้งสองระบบทำให้ดารุสสาลามกลายเป็นโรงเรียนอันดับต้นๆ ของจังหวัดนราธิวาส

                ปัจจุบันนี้มีนักศึกษากว่า 5,000 กว่าคนทั้งผู้หญิงและชาย โดยเฉพาะการเน้นกิจกรรมทั้งศาสนาและสามัญ การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมายกับโรงเรียนในจังหวัดอื่น การแนะแนวการศึกษา การตอบปัญหาระดับประเทศ การเข้าค่ายๆ ในด้านวิชาการต่างๆ และในยุคปัจจุบันนี้มีการเปิดการท่องจำอัลกุรอ่านอีกและวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญมีงานกองทุนสงเคราะห์นักเรียนกำพร้าและยากจน และโครงการดารุลอัยน์ ซึ่งเกี่ยวกับเด็กกำพร้า ซึ่งเป็นโครงการเพื่อเด็กกำพร้าโดยเฉพาะ สร้างให้นักศึกษามีความเก่งในด้านวิชาการ ในการใช้ภาษาไทย ภาษามาลายู ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นฐานชีวิตที่สำคัญสำหรับเยาวชนของชาติไทยเราดูข้อมูลโรงเรียนดารุสสาลามได้ที่ http://www.facebook.com/daruss.ac.th  และ www.daruss.ca.th

                ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับนายกสมาคม รวมถึงน้องๆ ของโรงเรียนดารุสสาลาม ทำให้ได้รับรู้เรื่องรายละเอียดถึงการพัฒนานักศึกษาจากเด็กบ้านๆ ที่ใช้ภาษามลายู ให้อยู่หน้าเวทีแข่งกับโรงเรียนอื่นๆ ที่ใช้ภาษาไทยได้อย่างน่าชื่นชม ทำให้นักศึกษาหลายพันคนที่จบจากโรงเรียนนี้มีความพร้อมในการกลับสู่โลกภายนอกได้ โดยเฉพาะนายกสมาคม นายยะยา เซะ ฝากขอบคุณคณาจาย์ อุสตาส และอุสตาซะห์ ที่เคยสั่งสอนทำให้ตัวเองมายืนอยู่ ณ จุดนี้ได้ และขอเป็นกำลังใจให้คณะครูต่างๆ ช่วยกันพัฒนาโรงเรียนดารุสสาลามให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนให้น้องๆนักศึกษาทำกิจกรรมที่ดีๆ ต่อสังคมเพื่อเกิดประโยชน์ต่อสังคมตลอดไป ขอบคุณแฟนคลับเฟซบุ๊ก “หนุ่มช่างฝัน” และผู้อุปการคุณที่ช่วยส่งกำลังใจ กำลังทรัพย์เพื่อนักศึกษาที่จะกลายเป็นคนคุณภาพต่อไปในอนาคต ที่ควบคู่ไปด้วยคุณธรรม ศีลธรรมนำพาไปสู่ความสงบและการเป็นหนึ่งเดียว  

..............................................

(คอลัมน์เปิดโลกการศึกษามุสลิม ตอน : โรงเรียนดารุสสาลาม เมืองพิกุลทอง แห่งตันหยงมัส)