ไลฟ์สไตล์

หลงเสน่ห์บรรยากาศย้อนยุคในงานโปโล

หลงเสน่ห์บรรยากาศย้อนยุคในงานโปโล

30 ม.ค. 2556

หลงเสน่ห์บรรยากาศย้อนยุคในงานโปโล

                     ฤดูกาลแห่งการแข่งขันขี่ม้าโปโลมาเยือนอีกครั้ง อดที่จับตามองไม่ได้ว่างานสังคมประจำปีที่ใครๆ ต่างตั้งตารอคอยที่จะไปร่วมงานนั้นจะมีความพิเศษและแปลกใหม่แค่ไหน วันก่อนสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย ได้จัดการแข่งขันโปโลชิงถ้วยพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 8 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างทีม คิงเพาเวอร์ กับ ทีมสิงห์ ที่จัดขึ้นแวดล้อมด้วยบรรยากาศย้อนยุคที่คงความงดงามและคลาสสิกในสถาปัตยกรรมแบบ “1920’s อาร์ตเดคโค” ให้ผู้มาร่วมงานรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศแบบใหม่ในการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลที่จัดขึ้น ที่สนามวีอาร์ สปอร์ตคลับ บางบ่อ จ. สมุทรปราการ โดยมี ฯพณฯ พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ และมอบถ้วยรางวัลแก่นักกีฬา

                     นอกจากการแข่งขันในแมทช์ที่สุดลุ้นระทึกแล้ว บรรดาผู้ที่มีใจรักในกีฬาประเภทนี้ยังแต่งกายสวยงามในแบบย้อนยุคในสไตส์อาร์ตเดคโคมาประชันชนิดที่ไม่มีใครยอมใครร่วมสร้างสีสันกันมากมาย อาทิ ร.ท.ม.ร.ว.จุลรังษี ยุคล, ท่านผู้หญิงพึงใจ สินธวานนท์, พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์, เอมอร ศรีวัฒนประภา พร้อมลูกสาว วรมาศ-อรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา, รพีพรรณ เหลืองอร่ามรัตน์, วิชัย สุรพงษ์ชัย, รัญชา บริบาลบุรีภัณฑ์, ม.ร.ว.จุลรังสี ยุคล, ม.ล.สมรดา ชุมพล, พนิตนุช บุนนาค, รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา, สุวรา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา โดยมีพ่องานคนสำคัญ วิชัย ศรีวัฒนประภา นายกสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทยและครอบครัว ให้การต้อนรับอย่างแข่งขัน

                     ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันนัดสำคัญ เริ่มด้วยการแสดงเปิดงานแบบ Tap Jazz Dance หลังจากนั้นกิจกรรมเริ่มมีความเร้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ กับการโชว์การชักเย่อระหว่างนักมวยจากเวทีไทยไฟต์, นักเพาะกลาย กับม้า โดยรอบแรกนักมวยเป็นฝ่ายชนะม้า และรอบที่สอง นักเพาะกลายสามารถชนะพละกำลังของม้าได้ ทำให้บรรยากาศของผู้ร่วมงานที่ลุ้นกันอย่างสนุกสนาน หลังจากนั้นก็เป็นพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการด้วยขบวนพาเหรดของวงโยธวาทิต หลังจากจบการแข่งขันโปโลคู่ชิงชนะเลิศครึ่งแรก ก่อนที่จะรู้ผลการแข่งขัน คั่นกลางความลุ้นระทึกด้วยประเพณีสวยๆ ของการแข่งขันโปโลกับการย่ำสนาม หรือสตอมปิ้ง ดิวอทส์ (Stomping Divots) ของบรรดาแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมชมการแข่งขัน เพื่อกลบดินและหญ้าให้เรียบและแน่นขึ้น ซึ่งจะช่วยลดอันตรายแก่ผู้แข่งขัน จากนั้นการแข่งขันในครึ่งหลังก็ได้ดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้นจนจบการแข่งขัน ซึ่งทีมคิงเพาเวอร์ ก็ยังสามารถรักษาถ้วยพระราชทานอันทรงเกียรติ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้ได้ติดต่อกันเป็นสมัยที่ 8 ด้วยคะแนน 6 ต่อ 4

                     จนเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการจัดงานมีการประกาศผลรางวัลการแต่งกายยอดเยี่ยมเบสท์ เดรส อวอร์ด ประจำการแข่งขัน สร้างความฮือฮาและร่วมลุ้นกับ  4 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลโมสท์ เมสเมอไรซิ่ง แต่งกายได้สวยตรึงใจที่สุด ได้แก่ "หรีด" รพีพรรณ เหลืองอร่ามรัตน์  รางวัลโมสท์ สไตลิสต์ แต่งการได้มีสไตล์ที่สุด ได้แก่ พินญา คุณานนท์ และ ปัญรัตน์ แสงสุวรรณ์  รางวัลโมสท์ เมมโมเรเบิล แต่งกายได้น่าประทับใจที่สุด ได้แก่ ศศิวิมล ดารารัตนโรจน์ และรางวัลโมสท์ แดชชิ่ง แต่งกายได้สมาร์ทและมีเสน่ห์ที่สุด ได้แก่ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ และ เมทนี บุรณศิริ