มหากาพย์'อัสสัมชัญ' | คมชัดลึก

               ความไม่ลงรอยกันระหว่าง "ครู-ผู้ปกครอง" กับ "ผู้บริหารโรงเรียนอัสสัมชัญ" ส่อเค้าบานปลายจนน่าจะกลายเป็นมหากาพย์เรื่องยาว

                ยิ่งมีคำประกาศจาก ภราดา ดร.อานันท์ ปรีชาวุฒิ ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ สั่งปิดโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก ระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึง 1 กุมภาพันธ์นี้ โดยอ้างเหตุผล "มีผู้ไม่ประสงค์ดีต่อโรงเรียน วางแผน และนัดหมายจะเข้ามาก่อความวุ่นวาย จึงขอประกาศหยุดการเรียนการสอนเป็นกรณีพิเศษ" ยิ่งมีคำถามผุดขึ้นในหลายประเด็น ?

                กำลังเกิดอะไรขึ้นในสถาบันการศึกษาเก่าแก่แห่งนี้ ซึ่งผลิตลูกศิษย์รุ่นแล้วรุ่นเล่าสู่สังคมไทย อีกทั้งก่อนหน้านี้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขายโรงเรียน บังคับให้ลาออก และเงินเดือน เหมือนจะได้รับการคลี่คลายในระดับที่น่าพอใจของทั้งสองฝ่ายแล้ว

                ปมร้าวในวงการศึกษาครั้งนี้ คงต้องย้อนไปที่ "ปฐมเหตุ" ช่วงปลายเดือนธันวาคม 2555 กระแส "อัสสัมชัญแต่งดำ" ประท้วงฝ่ายบริหาร ก่อตัวขึ้นช้าๆ กระทั่งลามไปสู่โลกโซเชียลมีเดีย โดยหัวเรือใหญ่อย่าง ศ.ดร.เกื้อ วงศ์บุญสิน รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะนายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอัสสัมชัญ อธิบายว่า ครูโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก แต่งชุดดำ เพราะนโยบายยุบรวมโรงเรียนอัสสัมชัญ ฝ่ายมัธยม ที่บางรัก และฝ่ายประถม ที่ซอยเซนต์หลุยส์

                คำถามคือ เมื่อยุบรวมแล้ว ครูจะทำงานต่อเนื่องได้หรือไม่ สถานภาพครู เงินเดือนครูที่จะได้รับเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาไม่มีคำอธิบาย หากครูไม่ได้ทำงาน การเซ็นลาออกอาจจะทำให้เสียสิทธิในหลายเรื่อง ดังนั้นครูจึงแต่งชุดดำเพื่อขอความความชัดเจนที่เป็น "ลายลักษณ์อักษร" บ่งบอกว่า ครูจะเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ใช่มาบอกว่าให้เซ็นลาออก ครูรับไม่ได้ !!!

                จากนั้นเมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา ภราดา ดร.อานันท์ ได้จัดประชุมนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ยืนยันว่า มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ไม่มีความคิดที่จะขายโรงเรียนอัสสัมชัญ หรือแม้แต่จะโอนกิจการให้แก่ผู้ใด ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของครูและบุคลากร ตลอดจนแนวทางการจัดการเรียนการสอน ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม และไม่เคยมีนโยบายบังคับให้ครูลาออก

                ผ่านไปไม่ถึง 10 วัน สัญญาณความขัดแย้งยกที่สอง ก็ส่อเค้าขึ้นอีกครั้ง เมื่อสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอัสสัมชัญ นัดประชุมในวันที่ 17 มกราคม เพื่อทวง "คำมั่นสัญญา" ที่เป็นรูปธรรมจากฝ่ายบริหาร

                ทว่าก่อนถึงวันนัดหมายเพียงวันเดียว ภราดา ดร.ศิริชัย ฟอนซีกา ประธานมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนอัสสัมชัญ พร้อมด้วย ภราดา ดร.อานันท์ ได้แถลงข่าวต่อหน้าครู ผู้ปกครอง และนักเรียน โดยย้ำว่า เรื่องที่โรงเรียนจะมีการยุบรวมแผนกประถมและมัธยมเข้าด้วยกัน จนมีความกังวลว่าจะถูกเลิกจ้างนั้น ไม่เกิดกับครูอย่างแน่นอน ที่ผ่านมาโรงเรียนอัสสัมชัญให้ความสำคัญกับครูมาตลอด

                "ยืนยันว่าผู้บริหารทุกคนไม่เคยคิดจะขายโรงเรียน ยุบโรงเรียน โอนกิจการ โอนใบอนุญาตไปให้บุคคลใด กลุ่มคณะบุคคลใด หรือหน่วยงานใดของรัฐเลย และขอยืนยันว่าจะไม่มีการเลิกจ้างครู ไม่มีการบังคับให้ครูเขียนใบลาออก เพราะเราเป็นโรงเรียนศาสนา ได้ชี้แจงกับครูแล้วว่า โรงเรียนรับครูทุกคนแล้ว ต่อไปจะไม่มีครูโรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม หรือแผนกมัธยม แต่จะกลายเป็นครูโรงเรียนอัสสัมชัญเท่านั้น"

                ส่วนความวิตกเรื่องเวลาและค่าตอบแทน ที่ผ่านมาโรงเรียนอัสสัมชัญมีการเลี้ยงครูอย่างดี โดยเฉพาะการจัดสวัสดิการให้แก่ครู การจัดงบประมาณ 45 ล้านบาท เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของครู ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหารกลางวัน ค่าเสื้อผ้า หรือแม้แต่วันเกิด ส่วนเรื่องการเพิ่มเงินเดือนนั้น ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ทางโรงเรียนจะต้องปรับเพิ่มเงินเดือนให้แก่บุคลากรทางการศึกษาระดับปริญญาตรี ให้เพิ่มเป็น 11,680 บาท แต่ครู 450 คนของโรงเรียนอัสสัมชัญ ไม่มีใครได้เงินเดือนต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาท ดังนั้นจึงไม่ต้องปรับเพิ่มเงินเดือนให้แก่ครู

                วันนั้น ครูโรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถมศึกษา โอดครวญว่า อยากได้คำชี้แจงจากผู้บริหารเป็นลายลักษณ์อักษรว่า การรวมโรงเรียนจะไม่มีผลกระทบต่อครูโรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม ทั้งเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของครู และบุคลากร ตลอดจนแนวทางการจัดการเรียนการสอน ยังอยู่เหมือนเดิม

                ไม่ใช่การชี้แจงแบบลอยๆ เพราะไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการในทางปฏิบัติได้จริง

                กระทั่งถึงวันนัดหมายของฝ่ายครูและผู้ปกครอง ศ.ดร.เกื้อ ยอมรับว่า การประชุมเป็นไปอย่างขลุกขลัก เนื่องจาก ภราดา ดร.อานันท์ ไม่อนุญาตให้ใช้อาคารอัสสัมชัญ 2003 ในการจัดการประชุมเหมือนทุกครั้ง

                อย่างไรก็ตาม การประชุมได้ข้อสรุปว่า ต้องทำหนังสือต่อผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญว่า ทางมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยได้ตีความประกาศ ศอสช.ที่ 14/2555 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน หรือเรื่องการปรับเพิ่มเงินเดือนให้แก่บุคลากรตามการศึกษาเสร็จแล้วหรือไม่ และครูจะได้รับการปรับฐานเงินเดือนตามที่ สช.กำหนดหรือไม่ ส่วนเรื่องการควบรวมแผนกประถมกับมัธยม ที่ประชุมได้พิจารณาคำชี้แจงต่อสื่อของผู้อำนวยการ เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร หลังจากนี้จะมีการรวบรวมรายชื่อครูที่ได้รับความเดือดร้อนจากการไม่ปรับขึ้นเงินเดือน เพื่อเสนอ สช.ต่อไป

                ดูเหมือนสิ้นเสียงระฆังหมดยกที่สอง ยังไม่มีสัญญาณใดที่บ่งบอกว่ามรสุมกำลังก่อตัว ในที่สุดยกที่สามก็เปิดฉากขึ้น เข้มข้นขึ้น และส่อเค้ารุนแรงขึ้น !!!

                เมื่อกลุ่มครูโรงเรียนอัสสัมชัญ ทั้งฝ่ายประถมและมัธยม กลุ่มศิษย์เก่า พร้อมใจกันสวมชุดดำเดินทางไปรวมตัวที่บริเวณหน้าโรงเรียนและลานบริเวณในโรงเรียนเพื่อยื่นหนังสือต่อ ภราดา ดร.อานันท์ เรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งตัดค่าครองชีพ และขอให้ปรับฐานเงินเดือน

                นอกจากนี้เว็บไซต์เฟซบุ๊ก แฟนเพจกลุ่ม "กู้อัสสัมชัญ" โพสต์แถลงการณ์ข้อเรียกร้องของกลุ่มกู้อัสสัมชัญ ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 25 มกราคม 2556 สาระสำคัญข้อหนึ่ง ระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นจากสาเหตุของการบริหารงานที่ผิดพลาด ผิดกฎหมาย และไร้คุณธรรมจริยธรรมนักบวชของผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญ ที่ทำให้เกิดวิกฤติการณ์ทั้งครู คุณภาพนักเรียน การเงิน และชื่อเสียงของโรงเรียนอัสสัมชัญ ดังนั้นขอให้ ภราดา ดร.อานันท์ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญโดยทันที เพื่อยุติวิกฤติความขัดแย้ง ไม่ให้นักเรียนและครูลาออกไปมากกว่านี้

                เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ หลายฝ่ายอาจมองว่าความขัดแย้งกำลังจะได้ข้อยุติ ทว่าแท้จริงแล้วปมปัญหาที่ถูกซุกไว้ใต้พรมเพิ่งถูกหยิบยกขึ้นมาสะสางเท่านั้น ส่วนตอนจบของ "มหากาพย์อัสสัมชัญ" จะเป็นอย่างไร บอกได้คำเดียว "เดายากจริงๆ"

 

......................................

ข่าวเกี่ยวข้อง

- ปิด!'อัสสัมชัญบางรัก'หนีม็อบ'ครู-นร.' : http://www.komchadluek.net/detail/20130125/150206/ปิด!อัสสัมชัญบางรักหนีม็อบครูนร..html

- 'พงศ์เทพ'สั่งสอบอัสสัมชัญปิดกะทันหัน : http://www.komchadluek.net/detail/20130125/150241/พงศ์เทพสั่งสอบอัสสัมชัญปิดกะทันหัน.html#source_video