ไลฟ์สไตล์

ดอยสุเทพ : พระธาตุสุกสกาว

ดอยสุเทพ : พระธาตุสุกสกาว

20 ม.ค. 2556

ดอยสุเทพ : พระธาตุสุกสกาว : คอลัมน์ถิ่นไทยงาม

               "แวะหน่อยมั้ย ไหนๆ ก็มาทางนี้" คุยกับเพื่อนร่วมทางระหว่างที่ผ่านลานจอดรถ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เพื่อมุ่งสู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน 

               "ก็ได้นะ ไม่ได้ขึ้นไปไหว้พระที่นี่นานมาก" คุณเพื่อนขานรับทันที

                ขากลับออกมา เลยพระตำหนักภูพิงคฯ ที่อุดมไปด้วยดอกไม้งาม ได้ไม่ไกลนัก ก็เริ่มเห็นรถจอดริมถนน ฉันเลยบอกให้เพื่อนจอดเลย เพราะเห็นแบบนี้ ลานจอดรถเต็มแน่ๆ ขนาดไปแทบจะกลางสัปดาห์แล้วนะเนี่ย

                 หลังจากได้ที่จอดริมถนน ไม่ไกลจากทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพมากนัก ก็ต้องตะลึงตึงตึง ร้านขายของที่ระลึก ขายเสื้อผ้า ขายของกินปิ้งย่าง และอีกสารพัดเมนูที่ไม่ต้องนั่งกับร้าน ตั้งแต่ขนมครก ยันสตรอเบอร์รี่คลุกพริกเกลือ ตั้งแต่ปากทางขึ้นวัดพระธาตุทีเดียว

                สิ่งที่ยังเหมือนเดิม เคยเห็นอยู่ยังไงก็อย่างงั้น ก็คือบันไดพญานาค แต่ที่เปลี่ยนไป...วันนี้พญานาคสีสวยสดใสขึ้น พลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนที่ขึ้นไปเที่ยว หรือกราบไหว้พระ ส่วนบันไดด้านล่างๆ ยังมีพวกขายของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ และเด็กน้อยชุดม้ง ที่แต่งตัวสวยมาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปโดยได้ค่าจ้างนิดหน่อย ซึ่งเธอบอกว่าตามแต่จะให้ อ้อ...พูดภาษาอังกฤษกับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยนะ ไม่ธรรมดา

                ฉันเดินตามคนอื่นๆ ขึ้นไปบนวัด ระหว่างผ่านบันไดนาค ความคิดคำนึงถึงวันเก่าๆ ย้อนมา สมัยที่เคยขึ้นไปเยือนเมื่อหลายสิบปีก่อน บันไดพญานาคยิ่งเก่ากว่ามากนัก ค้นข้อมูลดูเห็นว่า สร้างเมื่อปี พ.ศ.2100 โดยพระมหาญาณมงคลโพธิ์ วัดอโศการาม เมืองลำพูน และได้พระครูบาศรีวิชัย ตนบุญแห่งล้านนา ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันสร้างถนนขึ้นสู่วัด เพื่อให้คนขึ้นไปมนัสการพระธาตุได้สะดวกขึ้น

                ส่วนวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ...จากแผ่นจารึกด้านบนวัดพระธาตุฯ ระบุว่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1929 ในสมัยพระเจ้ากือนา แห่งราชวงศ์เม็งราย ซึ่งได้รับถวายพระบรมสารีริกธาตุ จากพระสุมนเถระ ที่ขุดได้จากเจดีย์ร้างเมืองศรีสัชนาลัย และพระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่มาบรรจุไว้ที่นี่ หลังจากทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคล 

                คราวก่อนที่ฉันได้ขึ้นไปกับเพื่อน เห็นยอดเจดีย์อยู่ระหว่างการซ่อมแซม แต่วันนี้เจดีย์สุกอร่าม ผู้คนขึ้นไปเยอะกว่ามาก บ้างกราบไหว้พระรูปต่างๆ บางส่วนก็เดินเวียนเทียนรอบองค์พระเจดีย์ ขณะที่บางส่วนมาเพื่อชมความสวยงาม เพราะมักจะพูดกันว่า ถ้าไปเชียงใหม่ แล้วไม่ได้ขึ้นไปที่วัดพระธาตุจะเหมือนไปไม่ถึงเชียงใหม่ วัดนี้เลยถูกบรรจุอยู่ในแพลนท่องเที่ยวไปด้วย เลยไม่แปลกใจที่จะเห็นกรุ๊ปทัวร์มาลง รถตู้มาจอดมากมาย และก็มีอีกอาชีพหนึ่งที่ทำรายได้ถึงบริเวณองค์พระเจดีย์ คือ รับจ้างถ่ายรูป กระจายอยู่ทั้ง 4 มุมขององค์พระธาตุ 

                บริเวณรอบเจดีย์ มีพระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานอยู่ นักท่องเที่ยวต่างยืนชม กราบไหว้พระ เดินเวียนเทียน เดินถ่ายรูป ดูขวักไขว่ แต่ขณะมององค์พระเจดีย์ กลับพบความสุกสกราว สงบนิ่ง เหมือนหลุดไปอีกโลกที่แสนสงบ

 

.........................................

(ดอยสุเทพ : พระธาตุสุกสกาว : คอลัมน์ถิ่นไทยงาม)