
'ยูโร เอ็นแคป 'ทดสอบการชน
'ยูโร เอ็นแคป 'ทดสอบการชน'พิทักษ์มาตรฐาน'รถปลอดภัย' : คอลัมน์เปิดโลกยนตกรรม : โดย...ยุทธพงษ์ ภาษี
ยูโร เอ็นแคป( EuroNCAP) หน่วยงานที่ทดสอบเพื่อหาความผิดพลาดเกี่ยวกับรถยนต์เป็นหน่วยงานที่ให้ข้อมูลผู้บริโภคเพื่อเป็นคู่มือ เคสำหรับการพิจารณาเลือกรถของผู้บริโภค
ยูโร เอ็นแคป เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในยุโรปก่อนจะขยาย การรับรู้ออกไปทั่วโลก เนื่องจากมาตรฐานของการทดสอบได้รับการอ้างอิงไปใช้กับผู้ผลิตหลายยี่ห้อ ด้วยองค์กรนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในองค์กรที่ความพร้อมในด้านเครื่องไม้เครื่องมือมากที่สุดในการทดสอบรถยนต์และผลลัพธ์ของการประเมินความเป็นจริงที่เป็นอิสระ
ยูโร เอ็นแคป ก่อตั้งในปี 1997 ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของเหล่าสมาชิกอียู รวมถึงองค์กรที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ ทั้งองค์กรผู้บริโภคและบริษัทประกันภัยหลายแห่ง
บ่อยครั้งที่ผลการประเมินประสิทธิภาพความปลอดภัยของยูโรเอ็นแคป มักก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายส่วน เป็นเหมือนตัวเร่งปฏิกิริยา ก่อให้เกิดการส่งเสริมการปรับปรุงคุณภาพรถยนต์ในด้านความปลอดภัย กล่าวอีกประการหนึ่งคือ หากว่าผลการทดสอบของยูโร เอ็นแคปออกมาไม่ดี ก็หมายถึงภาพลักษณ์และยอดขายของรถยนต์นั้นๆ จะกระทบไปด้วย ยูโร เอ็นแคป จะจัดการทดสอบเป็นประจำ แต่ผลการทดสอบมีการเผยแพร่ออกมาเป็นรายไตรมาส
การให้คะแนนความปลอดภัยของยูโร เอ็นแคป จัดทำในรูปแบบการให้เรตติ้ง โดยให้คะแนนตั้งแต่ 1-5 มีหัวข้อการประเมินความปลอดภัยของเด็ก เด็กผู้ใหญ่ และผู้โดยสาร ส่วนรูปแบบการทดสอบเป็นการทดสอบการชนที่หลากหลายรูปแบบ เช่น ชนด้านข้าง การชนด้านหน้า การชนด้านหน้าแบบเฉียง ชนด้านหลังและการพลิกคว่ำ เป็นต้น
ยูโร เอ็นแคป พยายามเปิดกว้างในเรื่องของข้อมูล โดยมีแผน จะขยายการบริโภคข้อมูลเพิ่มขึ้น ปัจจุบันยูโร เอ็นแคป ได้เปิดตัวเว็บไซต์หลายภาษา จากเดิมที่มีภาษาอังกฤษเพียงภาษาเดียว ทั้งนี้ภาษาต่างๆ ที่เว็บไซต์ของยูโร เอ็นแคป ให้บริการ ได้แก่ ดัตช์และภาษาฝรั่งเศส และอนาคตก็จะเพิ่มภาษาเยอรมัน, อิตาลี, โปแลนด์, สเปน และสวีเดน
ขณะที่เมื่อไม่นานมานี้คณะกรรมการของยูโร เอ็นแคป ได้หยิบยกประเด็นเรื่องความปลอดภัยของเด็กขึ้นมาให้ความสำคัญ เพราะเล็งเห็นว่า รถรุ่นใหม่ๆ ที่ผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก เน้นสร้างความประทับใจและให้ความสำคัญแก่กลุ่มผู้ใหญ่ ในขณะที่ การคุ้มครองเด็กเป็นเรื่องรองลงมา รวมถึงการป้องกันคนเดินเท้าก็อยู่แถวหลังเรื่องของเด็กอีก
ดังนั้น ยูโร เอ็นแคป จึงได้ตั้งมาตรฐานการให้คะแนนในเรื่องการป้องกันคนเดินเท้ามากขึ้น ซึ่งทุกวันนี้ระบบความปลอดภัยชั้นสูงที่ตอบสนองคนเดินเท้า มีผู้ผลิตรถเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ผ่านการทดสอบ ทั้งนี้ ยูโร เอ็นแคป คาดหวังว่า การเพิ่มคะแนนจะทำให้ค่ายรถยนต์พัฒนาเทคโนโลยีออกมาตอบสนองเรื่องนี้มากขึ้นในอนาคต
การให้คะแนนหรือเรตติ้งของยูโร เอ็นแคป เกิดจากข้อกำหนดที่เข้มงวด โดยมีการนำข้อกำหนดต่างๆ เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมในการประเมินคุณภาพของรถ โดยเน้นที่ประสิทธิภาพความปลอดภัย รอบด้านและความต้องการระดับที่สูงขึ้น
หลักเกณฑ์การให้เรตติ้งของ ยูโร เอ็นแคป คือ การให้ 1-5 ดาว สำหรับรถที่มีความปลอดภัยสูงสุด โดยจำนวนดาวของยูโร เอ็นแคป มาจากการทดสอบความปลอดภัยด้วยการชนเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่รถยนต์ยุคใหม่นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ได้พัฒนา เทคโนโลยีป้องกันก่อนการเกิดอุบัติเหตุทำให้เรต 5 ดาวของยูโร เอ็นแคป ไม่ได้สะท้อนว่าเป็นรถที่ปลอดภัยที่สุดอีกต่อไป เนื่องจากยูโร เอ็นแคป ยังเน้นแค่การทดสอบการชนเท่านั้น ดังนั้น เพื่อตอบสนองค่ายรถที่เพิ่มความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถ แสดงให้เห็นถึงผลประโยชน์ด้านความปลอดภัยที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าได้ผลแล้ว ยูโร เอ็นแคป จึงมีการออกแบบคะแนน สำหรับความปลอดภัยขั้นสูง ที่ค่ายรถสามารถปรับปรุงความปลอดภัยที่เกินระดับของการจัดอันดับการทดสอบของยูโร เอ็นแคป สังเกตได้ว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกินความสามารถในการจัดอันดับของยูโร เอ็นแคป มุ่งเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงความผิดพลาด ของคนขับ และการให้คำปรึกษาหรือแจ้งเหตุเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เป็นอันตราย รวมถึงการช่วยเหลือเพื่อให้คนขับหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
..................................................
อาเซียนเอ็นแคป เสียดายไทยก้าวช้ากว่ามาเลเซีย
เครือข่ายของการทดสอบการชนระดับโลก หรือโกลบอล เอ็นแคป (GNCAP) ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ และสมาพันธ์แข่งขันรถนานาชาติ (FIA) โดยหน่วยงานมาตรฐานการชนนี้ ได้กระจายสาขาไปตามภูมิภาคต่างๆ และใช้แนวทางยูโร เอ็นแคป เป็นแม่แบบในการจัดตั้ง ปัจจุบันเครือข่ายของการทดสอบการชนที่ได้รับการสนับสนุนจาก โกลบอล เอ็นแคป กระจายไปทั่วภูมิภาคเช่น ลาติน เอ็นแคป, เอ เอ็นแคป (ออสเตรเลีย) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ "อาเซียน เอ็นแคป" (ASEAN NCAP) ซึ่งมีสำนักงานและห้องแล็บอยู่ที่มาเลเซีย ภายใต้การดำเนินงานของ สถาบันวิจัยความปลอดภัยบนท้องถนนของมาเลเซีย (The Malaysian Institute of Road Safety Research-MIROS)
เป็นที่น่าเสียดายว่า ไทยเป็นประเทศผลิตรถยนต์ใหญ่สุดในภูมิภาค แต่ห้องแล็บเอ็นแคปที่ได้รับการสนับสนุนทั้งเงินทุนและความรู้ทั้งหมดกลับไปอยู่ที่มาเลเซีย เพราะการก้าวช้ากว่าเพื่อนบ้าน ซึ่งหมายถึงมาเลเซียจะเป็นผู้ประเมินคุณภาพรถทั้งหมดที่ผ่านการผลิตต้องการผลการทดสอบจากอาเซียน เอ็นแคป
..............................................
(ยูโร เอ็นแคป 'ทดสอบการชน'พิทักษ์มาตรฐาน'รถปลอดภัย' : คอลัมน์เปิดโลกยนตกรรม : โดย...ยุทธพงษ์ ภาษี)