ไลฟ์สไตล์

ถนน..ตลาด..จัตุรัสแห่ง'ทบิลิซี'

ถนน..ตลาด..จัตุรัสแห่ง'ทบิลิซี'

30 ธ.ค. 2555

เที่ยวนี้ขอเล่า : ถนน..ตลาด..จัตุรัสแห่ง 'ทบิลิซี' : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง

                          ผลจากการซุ่มสังเกตพฤติกรรมตัวเอง ฉันพบว่า มีความผิดปกติบางประการ ไปเมืองไหนทำไมต้องคอยสอดส่องมองหาตลาดไม่ทราบ ราวกับว่าชีวิตมีปมบางอย่างที่ไม่อาจคลี่คลาย 

                          จากกรุงเทพฯ ไป ทบิลิซี ไม่ใช่ทุกสายการบินจะมีเที่ยวบินไปที่นั่น  แต่แอร์อัสตานา (0-2634-2552-3) มีเที่ยวบินไปที่นั่น ส่วนเรื่องที่พักเว็บไซต์อโกดา(www.agoda.com)ยังเป็นที่พึ่งพิงได้เสมอ

                          พอมาถึงเมืองหลวงของจอร์เจีย ฉันค่อยๆ เลียบเคียงถามหา ตลาดดราย บริดจ์ ที่ชาวเมืองบอกว่าคึกคักสุดๆ  

                          ฟังชาวเมืองพูด ทีแรกคิดว่าตลาดกลางแจ้งแห่งนี้ดูเหมือนจะเล็ก แต่ยิ่งเดินยิ่งรู้สึกว่าตลาดนัดแห่งนี้ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ  ตลาดดราย บริดจ์อยู่ข้างแม่น้ำ มีข้าวของสารพัดอย่าง แต่ที่น่าซื้อที่สุดก็เป็นพวกงานศิลปะ  ไม่น่าเชื่อ ว่าชาวจอร์เจียที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตมาตั้งนาน จะมีศิลปินฝีมือดีอยู่เต็มเมืองแบบนี้ บางร้านศิลปินมานั่งวาดโชว์กันเห็นๆ

                          ยิ่งเดินลึกเข้าไปในสวน ยิ่งพบว่ามีแผงขายงานศิลปะซ่อนอยู่กลางสวนอีกเพียบ แถมด้านบนไม่ได้มีแค่ภาพเขียน แต่มีศิลปะแขนงอื่นให้เลือกช้อปอีกหลากหลายมาก ทั้งงานปั้น งานพิมพ์ และงานพอทเทรท

                          อีกมุมหนึ่งของตลาด เขาวางแผงกันบนสะพานเลย มุมนั้นเป็นพวกของเก่าทุกชนิด มีหมดทั้งเข็มกลัด  โคมไฟ ของแต่งบ้าน โปสเตอร์ถ้วยชาม  ขนาดเครื่องพิมพ์ดีดยังมีขายเลย และดูเหมือนว่าจะคึกคักกว่ามุมอื่นๆ ด้วย วันหยุดแบบนี้มีแต่คนมาเดินหาของเก่ากลับบ้านกันทั้งนั้น

                          เดินละจากตลาดดราย บริดจ์มาไม่ไกล พิกัดต่อไปของฉันอยู่ที่ย่าน จัตุรัสอิสรภาพ ซึ่งเป็นสะดือเมืองทบิลิซี  ก็ถามทางกางโพยเขาไปเรื่อย ผ่านตรงย่านชุมทางรถประจำทาง เลยรู้ว่าถึงแม้ทบิลิซีจะมีรถไฟใต้ดินให้บริการแล้ว  แต่ผู้คนยังนิยมใช้รถตู้มินิบัสที่เรียกว่า "มาชรุสก้า" กันอยู่ดี พูดถึงถามทาง  ถ้าเป็นเด็กรุ่นใหม่ก็พอจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง แต่ถ้าเป็นคนรุ่นเก่าอาจจะยากหน่อย แต่ในที่สุดก็คลำทางมาจนถึงจัตุรัสอิสรภาพจนได้สำเร็จ

                          จัตุรัสแห่งนี้อยู่ใจกลางกรุงทบิลิซี  สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 สมัยที่สหภาพโซเวียตเข้ามาปกครองจอร์เจีย  รูปแบบสไตล์นีโอคลาสสิกทำให้จัตุรัสแห่งนี้ดูไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมากนัก

                          จะว่าไปจัตุรัสนี้เปลี่ยนมาหลายชื่อแล้ว  ดั้งเดิมต่อก่อสร้างเลยชื่อจัตุรัสอีวาน พาชเควิค  ต่อมาเปลี่ยนเป็นจัตุรัสเบเรีย  และเปลี่ยนเป็นจัตุรัสเลนิน  ก่อนจะมาเป็นจัตุรัสอิสภาพอย่างในปัจจุบัน

                          ตอนทบิลิซิเป็นที่รู้จักในเรื่องการปฏิวัติกุหลาบ เมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา ก็เกิดขึ้นบริเวณจัตุรัสอิสรภาพแห่งนี้นี่เอง  แต่ทุกวันนี้มุมนี้กลายเป็นมุมพบปะของผู้คน รวมถึงมีสถานีรถไฟใต้ดินที่ซุกตัวอยู่กลางเมือง มุมนี้จึงเป็นย่านที่ผู้คนก็เยอะรถราก็แยะ

                          ฉันเลี้ยวไปตรง ถนนรุสตาเวลี ตามที่วัยรุ่นทบิลิซีแนะนำ  หล่อนว่าถนนสายนี้คึกคักที่สุดในเมืองกรุงและเป็นแหล่งช็อปปิ้งของชาวทบิลิซี 

                          แค่ต้นทาง ก็พบว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ  ถนนสายนี้มีทั้งทำเนียบรัฐบาล  โบสถ์เก่าแก่  โรงเรียนและห้องสมุด  และโรงละคร  เดินเลยมาอีกนิด คราวนี้เหมือนพาสองเท้าทอดน่องอยู่ในยุโรปเลย อาคารร้านรวงแถวนั้นชวนให้รู้สึกเหมือนอยู่บนถนนชองป์เอลิเซส์   มีคาเฟ่ให้นั่งจิบกาแฟ มีร้านรวงให้ช็อปปิ้ง มีเก้าอี้ริมทางให้แวะนั่ง  แถมเขาปลูกดอกไม้ไว้สวยเชียว

                          เดินไปเกือบสุดถนน   ยังมีแผงขายของที่ระลึกให้เลือกช้อปกันอีกรอบ ทั้งภาพเขียนและของที่ระลึกที่ใครพลาดจากตลาดนัดกลางแจ้ง มาหาจากมุมนี้ได้ 

                          สิริรวมแล้ว  รุสตาเวลีจึงเป็นถนนที่น่าเดินอย่างยิ่ง เพราะทั้งสุนทรีย์และมีชีวิตชีวา

                          เดินเล่นหาอะไรกินสักแป๊บฉันก็เคลื่อนตัวกลับไปเดินเล่นแถวเมืองเก่าอีกรอบ  เพราะแถวนั้นยังมีอะไรที่น่าดูอีกเยอะเลย อย่างน้อยก็พวกโรงอาบน้ำหรือซัลเฟอร์ บาธ เพราะทบิลิซีเป็นเมืองที่มีชื่อเรื่องบ่อน้ำร้อนมาตั้งแต่อดีต  มาถึงยุคนี้โรงอาบน้ำยังเปิดให้บริการอยู่

                          นักท่องเที่ยวที่มาทบิลิซีโดยมากจึงมักจะหาโอกาสลองใช้บริการของซัลเฟอร์ บาธ  ที่จริงการแช่น้ำร้อนเขานิยมมาตั้งแต่สมัยก่อนที่มาค้นพบเมืองนี้แล้ว  ทั้งกษัตริย์และราชวงศ์ก็พากันมาแช่น้ำเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ซึ่งในอดีตผู้คนไม่ได้แค่มาแช่น้ำร้อนกันเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นที่พบปะพูดคุย สนทนากันเรื่องปัญหาบ้านเมืองกันด้วย 

                          เดินในระยะไม่ทันเหนื่อยจากย่านซัลเฟอร์ บาธ  ก็ถึงถนนชาร์ดิน  ถนนเส้นนี้เป็นตรอกแคบๆ ในย่านเมืองเก่าทบิลิซี ที่ชาวทบิลิซีและนักท่องเที่ยวนิยมมาแฮงก์เอาท์กัน  เพราะมีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร และผับบาร์  ช่วงโพล้เพล้ไปจนถึงค่ำคืนผู้คนจึงทยอยมาหาความสำราญกันที่นี่

                          แฮงก์เอาท์ย่านนี้กันเสร็จ  ไม่มีใครรีบกลับบ้านกลับช่อง เพราะไฮไลท์อีกอย่างของทบิลิซีคือช่วงกลางคืน  เขาจะติดไฟระยิบระยับในโซนของเมืองเก่า  ส่วนฉันไม่ต้องไปไหนไกล แค่มองจากหน้าต่างเรือนพักก็เห็นทบิลิซียามถูกห่มด้วยแสงนีออนได้   

                          กลางวันว่าสวยแล้วนะ พอมองตอนกลางคืนก็พบว่า ทบิลิซีก็แอบโรแมนติกอยู่เบาๆ เหมือนกัน

 

 

--------------------

(เที่ยวนี้ขอเล่า : ถนน..ตลาด..จัตุรัสแห่ง 'ทบิลิซี' : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง)