ไลฟ์สไตล์

'ชมไร่วาซาบิ'ย้อนอดีตหมู่บ้านมรดกโลก

'ชมไร่วาซาบิ'ย้อนอดีตหมู่บ้านมรดกโลก

23 ธ.ค. 2555

ชมไร่วาซาบิ ย้อนอดีตหมู่บ้านมรดกโลก : คอลัมน์ท่องต่างแดน : โดย...เรื่อง/ภาพ : วิทวัต ตันสุหัช

                ญี่ปุ่น ประเทศที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวอย่างหนึ่ง คือตัวสภาพภูมิประเทศมีความสุดขั้วได้ในระดับสูงเกินกว่าประเทศอื่นๆ

                ภาพหนึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ในเมืองใหญ่มีตึกสูงสง่า เต็มไปด้วยด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกร้อยแปดพันประการ แต่เพียงแค่เดินทางออกจากเมืองใหญ่เพียงไม่ไกลนัก จะเห็นภาพเมืองชนบทเล็กๆ ที่ยังรักษาสภาพท้องถิ่นได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

                ผมไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้เอง กำลังเข้าฤดูหนาว ได้ไปชมสถานที่ต่างๆ หลายแห่งแต่ที่ออกจะดีใจมากๆ เมื่อรู้ว่าจะได้เดินทางไปชมคือ ได้ไปชมการปลูกและทำ ไร่วาซาบิ และได้ไปเยือนหมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวา

                Daio Wasabi อยู่ห่างจากเมืองมัตซูโมโตที่ผมนอนพักไม่ไกลนัก นั่งรถราวๆ ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ตลอดเส้นทางก็มีวิวภูเขาสวยๆให้ชม ไร่นี้เป็นไร่วาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (ซึ่งก็น่าจะหมายถึงว่าใหญ่ที่สุดในโลก) เห็นบอกว่าเริ่มบุกเบิกสร้างครั้งแรกตั้งแต่ปี 1915 ฟังแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าผมมาเร็วไป 3 ปี ไม่งั้นคงได้ฉลองครบรอบร้อยปีไร่วาซาบิกันสนุกทีเดียว

                ผมชอบกินปูอัดจิ้มซอสใส่วาซาบิมาตั้งแต่เด็กแล้ว พอได้เห็นไร่มันจริงๆ ยิ่งชอบมาก ไร่นี้ถามคนดูแลเขาบอกว่าแบ่งเป็น 5 ส่วน จุดที่ผมเข้าชมเป็นจุดเปิด ด้านหน้ามีร้านขายของผลิตภัณต์ต่างๆ ที่ได้มาจากต้นวาซาบิ แต่ผมก็เดินไปชมไร่ชมสวนก่อน เห็นแล้วต้องยอมรับว่าเขาจัดได้สวยจริงๆ

                วาซาบิ เป็นพืชที่ต้องปลูกในสภาพอากาศประมาณไม่เกิน 12-13 องศา เป็นพืชประเภทหัวและราก (คล้ายๆ มัน) น้ำที่ใช้หล่อเลี้ยงต้องสะอาดและไหลผ่านตลอดเวลา ไร่นี้อยู่ใกล้ๆ ภูเขาไฟด้วยจึงได้รับการยกย่องว่าน้ำที่ไหลมามีแร่ธาตุทำให้ต้นวาซาบิแข็งแรงและมีคุณค่าสูงกว่าที่อื่น

                ตลอดเวลาที่ผมเดินชมทั้งๆ ที่อากาศหนาวราวๆ 10 องศา แต่ในไร่ ซึ่งหมายถึงในน้ำ คนงานของไร่ก็คอยใช้ไม้กวาดแข็งกวาดเศษใบไม้ ใบหญ้า ออกตลอด ทำให้น้ำในไร่ใสสะอาดตลอดเวลา เดินเล่นเพลินๆ บริเวณนั้นมีบ้านกังหันน้ำแบบโบราณ ให้ชมด้วย ราวๆ ชั่วโมงก็ออกมาดูสินค้าที่ร้านด้านหน้า

                ในร้านค้ามีผลิตภัณฑ์จากส่วนต่างๆ ของวาซาบิมากมาย เช่น ถั่ววาซาบิ-ขนมข้าวเกรียบ-สาหร่าย ตลอดจนต้นวาซาบิสดๆ ชั่งกิโลขายด้วย แต่ที่เด็ดที่สุดคือ ไอสครีมวาซาบิ ครับ ลองชิมดูอร่อยมากเลยครับ

                ได้เวลาก็เดินทางต่อไปยัง ชิราคาวาโกะ (โกะแปลว่าหมู่บ้าน) ซึ่งใช้เวลาเดินทางราวๆ 2 ชั่วโมงเศษ ซึ่งการเดินทางจะผ่าน หุบเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japan Alps) ซึ่งโชคดีที่ได้มาฤดูหนาวเพราะตลอดทางมีหิมะตกปกคลุมทิวทัศน์ให้สวยงามไปอย่างชนิดที่ว่านั่งดูไปเรื่อยๆ อย่างไม่เบื่อเลย ตรงที่เป็นแม่น้ำข้างหุบเขาก็ใสสะอาดรวมแล้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่จะอยู่ในความทรงจำได้เลย (แต่ก็อยากมาอีกนะ)

                ผมเดินทางมาถึงหมู่บ้านชิราคาวา เป็นเวลาบ่าย 3 โมงเศษ ที่ญี่ปุ่นหน้าหนาวจะมืดเร็วมาก แต่ยังทันจะเห็นความสวยงามของหมู่บ้านที่ยังคงลักษณะสมัยเดิมอย่างครบถ้วนทุกประการ บ้านในหมู่บ้านนี้ตามข้อมูลระบุว่าเป็น หมู่บ้านสไตล์กัสโซ-สีคุริ สามารถอยู่อย่างสบายในฤดูร้อนและอบอุ่นสบายในฤดูหนาว หลังคาบ้านจะชันสูงจึงถูกเรียกว่า กัสโซ ซึ่งแปลว่าพนมมือ หมู่บ้านนี้ได้ถูกยกย่องจาก ยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 1995 ว่ากันว่าตัวบ้านไม่ใช้ตะปูเลย ใช้เชือกและการไสไม้เสียบกันให้เข้ารูปเท่านั้น

                ที่น่าทึ่งคือบ้านทุกหลัง ไร่นาทุกแห่งในที่นี้ยังมีคนอยู่อาศัยและใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้ปิดเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าชม บ้านหลายๆ หลังจึงปรับตัวเองกลายเป็นที่ขายสินค้าที่ระลึกต่างๆ แต่ส่วนที่เป็นที่พักหรือทำสวนทำนาก็ยังมีเช่นกัน

                ช่วงเวลาที่ผมไปมีหิมะตกปรอยๆ ตลอดเวลาที่เดินเยี่ยมชม ยิ่งได้บรรยากาศความเงียบสงบ (คงเพราะหนาวมาก พวกนักท่องเที่ยวเลยไม่เอะอะกันเท่าไหร่) เดินๆ ไปดูถ่ายรูปไป คูน้ำเล็กๆ ที่ไหลรินผ่านหน้าบ้านแต่ละหลังในหมู่บ้านแห่งนั้นก็ใสสะอาด มองเห็นไม้ฟืนตัดไว้เป็นท่อนๆ กองเต็มโรงนา ใช้ก่อไฟหุงต้มให้ความอบอุ่นได้ตลอดไป โคมไฟทั้งหมดที่ยังเป็นของสมัยโชวะดั้งเดิมแท้จริง ล้วนเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เสริมกันเข้ามาและรวมความให้หมู่บ้านเล็กๆ นี้เป็นสิ่งที่ถูกยกให้เป็นของสำคัญของโลก

                ผมเดินเล่นแค่ 2 ชั่วโมง ห้าโมงเศษ ญี่ปุ่นในฤดูหนาวก็มืดสนิทเสียแล้ว วันนี้ถือว่าดีมากที่ได้ชมสถานที่สวยงามมากๆ ของประเทศนี้ถึงสองแห่ง เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ผมคงไม่ลืม และจะกลับมาเพื่อระลึกถึงมันอีกครั้งอย่างแน่นอนครับ

 

.................................................

(ชมไร่วาซาบิ ย้อนอดีตหมู่บ้านมรดกโลก : คอลัมน์ท่องต่างแดน : โดย...เรื่อง/ภาพ :  วิทวัต ตันสุหัช  )