ไลฟ์สไตล์

ศิลป์แห่งแผ่นดิน : นักกลอนทางอากาศ

ศิลป์แห่งแผ่นดิน : นักกลอนทางอากาศ

09 ธ.ค. 2555

ศิลป์แห่งแผ่นดิน : นักกลอนทางอากาศ : โดย...ศักดิ์สิริ มีสมสืบ

                           ผมเติบโตมาในยุค วิทยุทรานซิสเตอร์ ทันยุคที่วิทยุใช้ถ่านไฟฉายก้อนขนาดใหญ่ขนาดปาหัวคนแตก บ้านผมมีวิทยุเนชั่นแนล อย่างดีเลิศหรู ใช้ถ่านทีละครึ่งโหล ผมยังจำได้ ใช้ถ่านไฟฉายตรากระรอก ใช้ดีไม่หยอกฉันจะบอกให้ มีแสงสว่างไสวสังคมทั่วไทย ใช้ถ่านไฟฉายตรากระรอก

                           หรือไม่ก็ถ่านไฟฉายตราห้าแพะ ที่ผมสงสัยมาตั้งแต่เด็กว่าทำไมต้องใช้แพะ 5 ตัว ทำไมไม่ 3 หรือ 4 ครั้นพอเจอยาผงยาแผ่นดองเหล้าตราเสือ 11 ตัว ผมก็เลยเลิกสงสัย แต่มาปวดหัวก็เมื่อพบว่า ยังมียาหอมตรา 5เจดีย์ แถมยังมียาอมแก้ไอตราตะขาบ 5 ตัว เล่นเอาปวดหัวไป 5 ปี

                           เพลงโฆษณา ถ่านไฟฉายที่ฮิตที่สุด ก็คือ “ต้นตระกูลผมแต่ปางบรรพ์ หลังย่ำสายัณห์ดวงตะวันเลี่ยงหลบ จะเดินทางเยื้องย่างไปไหน จำเป็นต้องใช้จุดไต้จุดคบ ปัจจุบันเห็นจะไม่ดี ขืนจุดไต้ซีถ้ามีใครพบ อาจต้องอายขายหน้าอักโข เขาต้องฮาต้องโห่ว่าผมโง่บัดซบ ยุคนี้มันต้องทันสมัย เพื่อผมทั่วไปใช้ถ่านไฟตรากบ ทั้งวิทยุและกระบอกไฟฉาย คุณภาพมากมายสะดวกสบายครันครบ อาจจะมีหลายอย่างวางครองเขากลับรับรองว่าต้องแพ้ตรากบ เหตุและผลเขาน่าฟังครับ ขอท่านลองสดับ นะท่านที่เคารพ..(พูด) คือเขาบอกว่าถ่านไฟฉายตรากบไม่ใช่ของนอก ส่งมาขยอกเงินไทย และไม่ใช่ของทำภายในที่โกยกำไรส่งออกนอก ถ่านไฟฉายตรากบทำในเมืองไทย โดยให้เงินกำไรหมุนเวียนอยู่ในเมืองไทย ดังนั้น นอกจากผมจะชอบกินกบ ชอบแทงกบ และชอบเล่นไพ่กบแล้ว ผมยังชอบถ่านไฟฉายตรากบอีกด้วย อ๊บๆ”

                           ตอนพูดนี่พูดเร็วมากครับ พาตื่นเต้นเร้าใจ คิดดูเถิด เพลงโฆษณาออกจะยืดยาว แต่ก็ยังเป็นที่จดจำมาจนทุกวันนี้ ดูแต่เด็กเรียนไม่เก่งอย่างผมยังจำได้เลย

                           ที่ทบทวนความจำมานี่ก็เพียงจะเกริ่นว่า ผมเป็นเด็กยุควิทยุทรานซิสเตอร์

                           ปัจจุบันก็ยังชอบฟังวิทยุ มีเวลาฟังก็ตอนขับรถยนต์ แหละครับ แต่ผมเป็นคนขับรถบ่อย ใช้เวลาในชีวิตอยู่ในรถเฉลี่ยวันละเป็นชั่วโมงเลยเชียวครับ ช่วง 10 ปีหลังมานี้ ผมขับรถปีละ 6-8 หมื่นกิโลเมตร คิดดูว่าเดือนละกี่กิโล วันละกี่กิโล เล่นเอาออกอาการทั้งทางกายและทางจิต อยู่ในรถอะไรจะดีกว่าฟังวิทยุล่ะ

                           ผมชอบหมุนหาคลื่นไปเรื่อยๆ หาเพลงลูกทุ่งเก่าๆ ฟังเพื่อย้อนรำลึกความหลังครั้งเยาว์วัย เป็นที่น่ายินดีที่มีรายการเพลงเก่าๆ ให้ฟังทุกยุคทุกสมัย ทุกหนทุกแห่งทุกอณูบรรยากาศทั่วฟ้าเมืองไทย ได้ฟังตั้งแต่เพลงยุคก่อน พ.ศ.2500 มาเรื่อย ไล่มาถึงยุค 2500-2510 ทั่วทิศถิ่นไทยทุกวันนี้ หมุนคลื่นไปยังได้ฟัง สมยศ ทัศนพันธุ์, ทูล ทองใจ, ชาย เมืองสิงห์, สุรพล สมบัติเจริญ, ปอง ปรีดา ฯลฯ

                           ขับรถไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย เปิดฟังรายการวิทยุท้องถิ่นได้รับรู้เรื่องราวข่าวสารภูมิภาค ได้ฟังเพลงหลากหลายวัฒนธรรม ที่ชอบฟังอีกอย่างคือ รายการข่าวชาวบ้าน ที่นำข่าวเก็บตกมาเล่าด้วยลีลาแบบลูกทุ่ง ปรุงด้วยสำเนียงแบบนักขุดคุ้ยกึ่งวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ แบบไทยมุง ผมยังชอบฟังสปอตโฆษณาสินค้าต่างๆ ที่มีมุกเด็ดๆ ให้ได้เฮฮา

                           ที่ผมติดงอมแงมอีกรายการ คือ รายการ “กลอนทางอากาศ”

                           เวลาค่ำๆ ของวันอาทิตย์ หากขับรถอยู่ในเขตภาคกลาง ผมจะเปิดฟังรายการ “วรรณศิลป์ไม่สิ้นสาย” ตอน 2 ทุ่มครึ่ง ถึงสามทุ่ม ผู้จัดรายการเสียงเย็นใส สะอาด สว่าง สงบ เธอน่าจะมีอายุสัก 35-40 ปี (ผมจินตนาการ) ลีลาการอ่านกลอนของเธอ เรียบง่าย สม่ำเสมอ ประกอบเสียงดนตรี เพลงไทยเดิมประยุกต์

                           บรรเลงด้วยเปียโน ไวโอลิน และแอคคอเดียน โดยสำนวนกลอนทุกชิ้นส่งมาจาก นักกลอนสมัครเล่นทั่วฟ้าเมืองไทย สมัครเล่นกันจนเชี่ยวชาญ ช่ำชอง โชกโชน น่าสนใจตั้งแต่ “นามปากกา” ของแต่ละท่าน บ้างมาในนามนักฝันนิรนาม บ้างมาในนามสโมสร กลุ่มนักกลอนชมรมวรรณศิลป์ นานาเนื้อหา ทัศนะหลากหลาย ตั้งแต่เรื่องความรัก สายลม แสงแดด เรื่องสังคม เรื่องการเมืองก็มีบ้าง แต่มาแบบกลางๆ ไม่มีฝักฝ่าย ที่ผมชอบมากคือกลอนรัก กลอนอกหัก ตัดพ้อต่อว่า รำพึงรำพัน ฟังไปก็คันไม้คันมือ สักวันจะส่งกลอนไปร่วมวงด้วยให้ครึกครื้นรื่นรมย์

                           มีรายการกลอนออกอากาศ แบบนี้อยู่อย่างน้อยก็ 3 รายการ ที่ผมได้ฟังอยากให้มีเยอะๆ สมัยก่อนผมเคยฟังรายการประเภทกลอน และเพลง คือ นำเสนอบทกลอนหนึ่งบท ต่อเนื่องด้วยเพลงหนึ่งเพลง โดยกลอนและเพลงเป็นเนื้อหาเดียวกัน ซึ่งนักกลอนจะแต่งกลอนโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงนั้นๆ

                           วันนี้ผมขับรถเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปอัดเพลงที่ห้องบันทึกเสียงแห่งหนึ่งแถวงามวงศ์วาน ผมเติบโตมาในยุควิทยุทรานซิสเตอร์ ขับรถทีไรชอบเปิดวิทยุฟัง

 

 

--------------------

(ศิลป์แห่งแผ่นดิน : นักกลอนทางอากาศ : โดย...ศักดิ์สิริ มีสมสืบ)