Lifestyle

เหินเวหาชมป่าแม่กำปอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เหินเวหา ชมป่าแม่กำปอง : คอลัมน์ ชวนเที่ยว เรื่อง-ภาพ... นพพร วิจิตร์วงษ์

          ธารน้ำไหลเอื่อยๆ เลาะตามหุบเขา บ้านไม้ปลูกสร้างด้านหนึ่งติดริมธารน้ำ อีกด้านหนึ่งประชิดเขาสูง ขณะที่ด้านบนเป็นถนนรถที่ลัดเลาะไปตามไหล่เขาและหลังคาบ้าน จนบางจุดต้องจอดรถด้านบน และเดินลงบันไดเข้าบ้านที่อยู่ด้านล่าง หรือหากเป็นบ้านที่ปลูกข้างถนนรถก็จะอยู่ประชิดไหล่เขา ทำเป็นบันไดขึ้นบ้านใต้ถุนสูง ด้วยสภาพภูมิประเทศที่อัตคัตพื้นที่ราบ นี่เอง "บ้านแม่กำปอง" หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ใน ตำบลห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
 
          บ้านแม่กำปอง ได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้าน OTOP Village Champion เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และล่าสุดผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ เพิ่งจะเดินทางมาเปิดเป็น หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม วันเดียวกับที่ด้านล่างของหมู่บ้านมีการจัดงานประเพณี "สืบชะตาน้ำ" โดยการรวมตัวกันของหมู่บ้านต่างๆ ใน ต.ห้วยแก้ว ที่จับมือกันอนุรักษ์สายน้ำ และสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ แล้วก็ช่างโชคดีเป็นวันที่ฉันและเพื่อนๆ เลือกไปพักผ่อนกันแถวนั้น
 
          ใครว่าไปเที่ยวหมู่บ้านก็งั้นๆ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น แต่ฉันว่าเริ่มจะไม่ใช่สำหรับแม่กำปองซะแล้วซิ เพราะนอกจากจะตื่นเต้นกับถนนขึ้นเขาคดเคี้ยวแล้ว ไปคราวนี้ได้ตื่นเต้นกับผืนป่าแม่กำปองที่ยิ่งใหญ่ ด้วยวิธีการชมไม่ธรรมดา เพราะเหินฟ้าข้ามยอดไม้ไปกับสายรอกและสลิง โผจากไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง สู่อีกต้นหนึ่งประหนึ่งเป็น "ชะนี"  แม้ว่าวิธีการชมออกจะฉาบฉวย แต่ก็ตื่นเต้นราวกับได้ผจญภัยเหนือยอดไม้
 
          "Flight of the Gibbon" เป็นทางเลือกของคนที่ชอบผจญภัย อยากเที่ยวชมป่าแต่ไม่อยากเหนื่อยกับการเดิน เป็นทางเลือกของคนที่อยากสนุกสนาน ตื่นเต้นท้าทายไปกับการโหนตัวไปตามสลิง
 
          จากกรุงเทพฯ นั่งรถปุเลงปุเลง ไปจิบหมอกยามเช้า แถวทางหลวง 1317 สันกำแพง มุ่งสู่ ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ที่ตั้งของหมู่บ้านแม่กำปอง  ด้วยความที่ยังเช้าอยู่ เลยแวะเข้าที่พัก ที่จองไว้ที่หมู่บ้านธารทองด้านล่างกันซะก่อน แค่ด้านล่างก็เห็นถึงธรรมชาติที่เงียบสงบ ที่พักอยู่ติดธารน้ำที่ไหลมาจากด้านบน เลยลั้นลา จิบกาแฟ กินข้าวเช้ากันเพลินไป
  
          วันแรกพักผ่อน เดินเล่นแบบสบายๆ จากบ้านธารทอง ขึ้นไปบ้านแม่กำปอง ใช้เวลาไม่นานนัก แต่ก็ต้องระมัดระวังกับการเดินทางที่เป็นถนนคดเคี้ยว ชันเป็นบางช่วง  อ้อ...เส้นทางขึ้นไปบ้านแม่กำปองนี่ เชื่อมยาวพาดผ่านเข้าไปถึง จ.ลำปาง ทางน้ำตกแจ้ซ้อน ชนิดที่อยู่ห่างกันไม่ถึง 30 กม. โดยมีขุนเขาทิวยาวเป็นตัวขวางกั้นอยู่
 
          มาช่วงเข้าหนาวแบบนี้ ก็มีฝนโปรยปรายมากวนนิดหน่อยพอขำขำ แวะกินข้าวเที่ยวที่ร้านอาหารด้านบน ที่ดูเหมือนจะเป็นร้านเดียวที่ขายสารพัด อยู่ติดกับร้านของชำที่ใหญ่กว่าเพื่อน ใครจะติดต่อที่พัก มาสอบถามที่นี่ก็ไม่พลาดเช่นกัน หรือจะเดินดุ่มๆ ไปติดต่อตามบ้านที่ปิดป้ายโฮมสเตย์ไว้ ก็ไม่ผิดหวัง ที่นี่คิดค่าบริการค้างคืนรวมอาหาร 2 มื้อ (เช้าและเย็น)
 
          ไปคราวนี้ เห็นมีบ้านใหม่ปลูกขึ้นมา บางบ้านก็กำลังลงมือปลูกทีเดียว แม่ค้าขายข้าวบอกว่า ตอนนี้ที่บ้านแม่กำปองมี 100 กว่าหลังคาเรือนแล้ว แต่ที่เปิดรับเป็นโฮมสเตย์มี 25 หลัง นักท่องเที่ยวก็มีมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะต่างชาติ ที่ส่วนใหญ่เป็นพวกจากยุโรป เยอรมนีก็เยอะ แต่คราวนี้ เราเจอนักท่องเที่ยวชาวไทยก็เยอะไม่แพ้กัน  
 
          พรมมินทร์ พวงมาลา ผู้ริเริ่มจัดทำบ้านแม่กำปองให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 สมัยที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน เพราะมองดูแล้วหมู่บ้านของตัวเองมีศักยภาพพอ ทั้งต้นทุนทางธรรมชาติ อากาศ ป่าไม้ และน้ำตก และความร่วมมือจากชาวบ้าน ทำให้การพัฒนาเป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์
 
          เราจอดรถที่วัดคันธาพฤกษา วัดแห่งเดียวของหมู่บ้าน ที่มักมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากราบพระขอพร จากวิหารด้านบน เดินลงไปริมธารน้ำ มีอุโบสถหลังเล็ก ตั้งอยู่กลางน้ำอีกแห่ง วัดคันธาพฤกษา (แม่กำปอง)
 
          วัด คือสถานวัดจิตใจใครสูงต่ำ
          แม่ น้ำแห่งศีลธรรมนำสดใส
          กำ หนดกฎแห่งกรรมจำใส่ใจ
          ปอง สุขใดมโนยึดประพฤติธรรม
          (ป้ายคติเตือนใจที่หน้าวัด)
 
          ผ่านพ้นวันแรกแบบชิล ชิล วันนี้แล้วซิที่เราจะไปผจญภัย กลายร่างเป็นชะนีกัน รถตู้ Flight of The Gibbon มารับตอนสายพาแวะไปออกกำลัง ยืดเส้นยืดสาย ที่ น้ำตกแม่กำปอง ที่อยู่เลยร้านกาแฟบนเขาไปไม่ไกลก่อน
 
          น้ำตกแม่กำปอง นับเป็นแหล่งน้ำสายสำคัญ ที่นอกจากจะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงชาวชุมชนอีกด้วย น้ำตกสายนี้ไหลตลอดปี มีความสูง 7 ชั้น แต่ละชั้นเห็นถึงความชุ่มชื้นจากต้นไม้ทั้งไม้เล็ก และไม้ใหญ่ ทางขึ้นชันๆ แปรจากทางดินเป็นขั้นบันไดให้เดินสะดวกขึ้น มีเวลาแวะเที่ยวน้ำตกกันราวๆ ชั่วโมง
 
          จากน้ำตก กลับมาที่สำนักงาน Flight of The Gibbon เตรียมตัวผจญภัยแบบใหม่ๆ บ้าง  สนนราคาพอไหวเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราไม่ต้องลงทุนเอง กับการเชิญชวน "ผจญภัยเหิรเวหาเหนือยอดไม้ในป่าฝนเขตร้อน อายุกว่า 1,500 ปี" ซึ่งที่นี่เปิดมาเกือบจะครบ 5 ปีในปีใหม่ 2556 นี้ มีทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเล่นกัน
 
          นักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มจะมีคนดูแล 2 คน คนดูแลกลุ่มเราคุยไปคุยมาถึงรู้ว่า "แคช" เคยทำงานโรงแรมมาก่อนแต่ชอบเล่นกีฬาท้าทาย ส่วน "สอน" เป็นชาวบ้านแม่กำปอง รับงานซ่อมบำรุงสายสลิงนี่แหละ แล้วค่อยผันตัวเองมาดูแลนักท่องเที่ยว
 
          แค่เริ่มใส่อุปกรณ์ที่สำนักงานก็ตื่นเต้นแล้วแฮะ" ก่อนโหนสลิง ลีดเดอร์จะชี้แจงบอกกติกา ข้อห้าม ข้อพึงปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยเสียก่อน ไม่ต้องห่วงว่ามือใหม่อย่างฉันจะไปไม่รอด เพราะผู้ดูแลจะคอยจัดการให้ เราแค่โหนสลิงไปตามรอกสายเคเบิล ก็เหาะเหินเดินอากาศเป็นชะนี ร้องกรี๊ดๆ ไปได้แล้ว
 
          นอกจากโหนสลิง ยังมีจุดที่เป็นสะพานยอดไม้ให้พอเสียวเท้าเล่น ฉันติดกล้องไปด้วย เลยพอได้ภาพไหวๆ มาบ้าง แต่ถ้าใครไม่เอากล้องไป ก็ใช้บริการช่างภาพที่รับงานจากสำนักงานได้ แต่ฉันอยากแนะนำว่าเอากล้องไปเองดีกว่า เพราะรูปที่ได้มาเบลอซะส่วนใหญ่เหมือนกัน ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะฝนตก (มั้ง) แถมหลายคนโดนต้นไม้บังมุมอีกต่างหาก  ... ฮา
 
          จุดเสียวอีกฐานเห็นจะเป็นช่วงโหนสลิงข้ามเขาระยะ 800 เมตร แต่ความเสียวก็บรรเทาไปได้ จากยอดไม้หนาแน่นในหุบที่เราผ่านไป กับป่ารอบตัวที่ดูสวยงาม
 
          เล่นกันเพลินๆ จู่ๆ ฝนก็ตกลงมาซะอย่างงั้น เล่นเอาชะนีเปียกฝนไปตามๆ กัน แต่พอถึงฐานสุดท้าย "ว้าววววว" เสียงอุทานจากหลายคน ที่เห็นสะพานยอดไม้ที่เชื่อมต่อไปยังต้นไม้ใหญ่ ห่างออกไป เป็นไม้ใหญ่ที่โอบล้อมด้วยต้นไทร แผ่กิ่งก้านใหญ่สวยงาม และเป็นจุดที่เราต้องโรยตัวลงพื้นดินระยะ 40 เมตร ... บระเจ้า  แต่ไหนๆ มาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ลงก็ไม่รู้จะอยู่ได้อย่างไรบนต้นไม้
 
          ราวๆ 2 ชั่วโมง ผ่านไป เหมือนแค่ไม่ถึงชั่วโมง พอหยุดเล่นเท่านั้นแหล่ะ ท้องก็หิวขึ้นมาทันที ดีแต่ว่า เดินทางไม่ไกลก็ถึงร้านอาหารที่ทาง Flight of The Gibbon เลี้ยงดูปูเสื่อ เพราะรวมอยู่ในค่าทริปแล้ว ก่อนจะโบกมืออำลาความเสียว
 
          แม่กำปอง วันนี้เปิดป่าใหญ่ทักทายให้ได้เห็นในมุมสูง ขณะเดียวกันมุมล่างของชุมชนก็ยังอยู่กันอย่างสงบ และเป็นอีกหมู่บ้านที่ฝันว่าจะไปเยือนอีกครา  
.......................................
- หมู่บ้านแม่กำปอง โทร. 0-5331-5111, 08-9559-4797
- อบต.ห้วยแก้ว (บ้านแม่กำปอง) 0-5393-9409
.......................................
(หมายเหตุ เหินเวหา ชมป่าแม่กำปอง : คอลัมน์ ชวนเที่ยว เรื่อง-ภาพ... นพพร วิจิตร์วงษ์)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ