ไลฟ์สไตล์

เลโจ๊ะ...เสน่ห์เทียมฟ้าแม่ฮ่องสอน

เลโจ๊ะ...เสน่ห์เทียมฟ้าแม่ฮ่องสอน

21 ต.ค. 2555

เลโจ๊ะ...เสน่ห์เทียมฟ้าแม่ฮ่องสอน : คอลัมน์ชวนเที่ยว : เรื่อง/ภาพ : ฟ้าใส จิรพัชร

                     ปลายฝนแบบนี้ ที่รับลมหนาวก่อนใครเพื่อนเห็นจะไม่พ้นสถานที่ใดที่หนึ่งแห่งเมืองเหนือ "แม่ฮ่องสอน" เป็นคำตอบของใครหลายๆ คน ยิ่งยามนี้ ใกล้ถึงช่วงฤดูดอกไม้บาน "ทุ่งบัวตอง" ที่แม่อูคอ อ.ขุนยวม เรียกแขกได้ปีละมากๆ (ปีนี้เทศกาลบัวตองบานจะเริ่ม 9 พฤศจิกายน ถึงกลางเดือนธันวาคม) หรือจะมนต์เสน่ห์ของสายน้ำและทุ่งข้าว ทุ่งกระเทียม อย่างที่ อ.ปาย ตลอดจนอ่างเก็บน้ำในโครงการพระราชดำริปางตอง 2 หรือ "ปางอุ๋ง" ชื่อที่ผู้คนคุ้นเคยกัน จนใครไปแม่ฮ่องสอนมักได้คำตอบปลายทางไม่ค่อยต่างกัน

                     แต่ใครจะรู้บ้างว่า ที่เมืองเล็กๆ ในหุบเขาแห่งนี้ กลับแฝงไว้ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา ไม่แพ้ที่ไหน เป้าหมายของเราคราวนี้ อยู่ที่ เลอปอเฮอ (ที่แปลว่าหม้อข้าวนึ่ง) หรือชื่อเรียกแบบไทยๆ ว่า ดอยสะเงาะ ทิวเขาสูงเสียดฟ้า ยอดสูงต่ำสวยงาม ที่เคยฝันว่าสักวันจะต้องมาเยือนให้ได้ โดยเฉพาะยอดสูงสุดของเทือกเขานี้ "ยอดเลโจ๊ะ" 

                     นัดหมายสมัครพรรคพวก ได้แค่ 3 คน ขับรถไปกันเองสะดวกสุด แม้หนทางจะยาวไกล แต่ก็ได้ร่วมทางกับเพื่อนที่รู้ใจ เห็นวิวรายทางไปเรื่อย ก็สนุกไปอีกแบบ เหนื่อยนักก็แวะพักระหว่างทาง จากกรุงเทพฯ ถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณสองทุ่มกว่า และเข้าไปนอนพักที่หมู่บ้านพะโข่โหล่ หมู่บ้านกะเหรี่ยงปกากะญอ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปทางสนามบินราว 6 กม.

                     รุ่งเช้า เจอคนนำทาง "ลุงพะอือ" ปกากะญอ ที่เดินเที่ยวแถบนั้นจนปรุ ตั้งแต่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนผ่านดอยหมากพริกทะลุไปถึงอำเภอปาย หรือจะเดินจากยอดดอยปุยหลวง-ห้วยฮี้ทะลุผ่านเทือกเขาเลอเปอเฮอทะลุไปถึงปาย วางใจได้ว่า ไม่หลงแน่ๆ... ฮา

                     นัดหมายเวลากันเสร็จสรรพ ก็ขับรถเข้าไปตัวเมือง เตรียมเสบียง ตุนมื้อเช้าลงกระเพาะ ราวๆ 9 โมง ก็ได้เวลาขึ้นเป้เดินออกหลังหมู่บ้าน เป้าหมายวันแรกอยู่ที่หมู่บ้านห้วยเป๊าะเหนือ ที่ต้องเดินข้ามเขาไป ได้เหงื่อ ได้ตะคริวถ้าไม่ฟิตร่างกายมาดีๆ

                     เส้นทางนี้จะว่าไป เป็นทางที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ชอบเที่ยวธรรมชาติ แนวแอดเวนเจอร์หน่อยๆ มาเดินเที่ยวกันอยู่ประจำ โดยจะจัดเดินป่าและมาค้างที่หมู่บ้านนี้ 1 คืน พวกเราไปถึงหมู่บ้านห้วยเป๊าะเหนือสักบ่ายสามโมง เลยมีเวลาพักผ่อนสบายๆ ทั้งอาบน้ำ ถ่ายรูปเล่น มีเทือกเขาเลอเปอเฮอเป็นฉากหลัง สวยงามคล้ายๆ กับระเบียงดาว บ้านนาเลา ที่เห็นยอดเชียงดาวอยู่ไม่ไกล... อากาศยามนี้เย็นสบาย

                     ที่หมู่บ้านนี้เล็กมากๆ ขนาดว่ามีแค่ 6 หลังคาเรือน เข้าออกได้ด้วยวิธีเดียวคือ เดิน หรืออย่างดีก็นั่งรถโฟร์วีลส์ ไปที่หมู่บ้านหัวน้ำแม่ฮ่องสอน และเดินเท้าอีกชั่วโมงเศษ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมา จนบ้านหลังหนึ่งเปิดเป็นโฮมสเตย์ และค่ำคืนนี้ก็เช่นกัน เราก็ได้เจอกับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี 6 คน ที่เดินทางมาถึงหมู่บ้านราวๆ ทุ่มหนึ่ง หลังจัดการมื้อค่ำนั่นแหละ เลยได้มีโอกาสพูดคุยกัน ได้ความว่า ที่พวกเขามาเที่ยวเมืองไทยก็เพราะเมืองไทยมีธรรมชาติที่งดงาม ที่ประเทศของเขาไม่มี ไม่ได้ต้องการมาเที่ยวสถานเริงรมย์ หรือแหล่งสะดวกสบายอะไร... ระหว่างที่นั่งคุยกัน ผมแหงนหน้ามองฟ้า... พร้อมกับที่เข้าใจถึงคำว่า ดาวล้านดวงเป็นอย่างไร ช่างเป็นคืนที่สวยงามและสดใสซะจริงๆ

                     เมื่อคืนหลับกันเต็มอิ่ม เช้านี้เลยสดชื่นแถมคะเนเส้นทางเดินขึ้นยอดเลโจ๊ะ แห่งเลอปอเฮอ ที่ดูแล้วไม่น่าจะเกิน 3 ชั่วโมง ยิ่งรู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่ที่ไหนได้ พอเอาเข้าจริงกลับเป็น 3 ชั่วโมงที่มีแต่ขึ้นกับขึ้น ถ้าชีวิตจริงของเราขาขึ้นแบบนี้ ลำบากยังไงผมว่าใครๆ ก็ยอมนะ

                      เราออกเดินทางกันค่อนสาย เส้นทางเดินเริ่มแรกไม่ชันมาก แต่พอถึงตีนเขานั่นแหละ เส้นทางก็เริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งช่วงสุดท้ายก่อนขึ้นยอด ทางยิ่งชันดิกแถมหญ้ารก เดินไปฟันหญ้าเบิกทางไปด้วย ไต่ระห่ำมุดหญ้าคาอยู่ร่วมชั่วโมงก็ถึง ยอดเลโจ๊ะ ซึ่งแปลว่า ดอยผา ยอดสูงสุดของเทือกเลอปอเฮอ

                      "วะ...ว้าววววว " หลายเสียงอุทานออกมาแทบจะพร้อมกัน กับวิวสุดสายตาที่เห็น ช่างเหมือนสวรรค์ซะจริงๆ

                      ภาพที่ปรากฏ หมุนมองได้เกือบจะ 360 องศา หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะเห็นยอดดอยปุยหลวง-ห้วยฮี้ อยู่ไกลๆ หันไปอีกฝั่ง ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ก็จะเห็น ยอดดอยหมากพริก ไปจนถึงยอดดอยหัวแม่ยาน ใน อ.ปาย อยู่ไกลๆ เพียงแค่นั้นเราก็หันหน้ามาพยักหน้าให้กัน เป็นอันรู้ความว่า เป้าหมายในทริปต่อไปหวยจะไปออกที่ดอยไหน

                     คนชอบถามว่า ยอดเขาที่ไปมีอะไรดี แต่ละที่แตกต่างกันไป ที่ยอดเลโจ๊ะก็เช่นกัน เหมาะเหม็งกับพวกบ้าพลัง แต่ขณะเดียวกันก็เห็นวิวเขาซับซับซ้อนไปไกลสุดสายตา หากโชคดีก็มีทะเลหมอกเป็นของแถม แต่วันนี้เราขึ้นมากันเร็วไปหน่อย (ประมาณบ่ายสองโมง) ยอดดอยเป็นที่โล่งแคบๆ พวกเราเลยต้องหาที่หลบแดดกันก่อน จนแดดร่มลมตกนั่นแหละ ถึงได้ออกเดินเที่ยวเล่น 

                     จากยอดดอยเลโจ๊ะ จะมีสันเขาทอดยาวลงไปทางด้านล่างเชื่อมต่อไปยังยอดอื่นๆ ซึ่งมีอยู่หลายยอด ความสูงต่างๆ กันไป ไล่ตั้งแต่ยอดปีลอโจ๊ะ ที่อยู่ซ้ายสุด(ถ้ามองจากหมู่บ้าน) มียอดเลโจ๊ะอยู่ตรงกลางๆ ที่วัดความสูงแล้วเป็นยอดสูงสุด 1,603 เมตร และมียอดเลอปอเฮอ ชื่อเดียวกับเทือกเขา สูงเป็นอันดับ 2 (1,596 เมตร) อยู่ด้านขวาสุด

                    ทางเชื่อมแต่ละยอดเป็นสันแคบๆ และชันดิก ชนิดถ้าพลาดก็โยนดอกไม้ลงไปให้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเสี่ยงตายลงไปเก็บร่าง คิดได้เท่านั้นก็เลยได้แต่ยืนมองดูเทือกเขาที่สลับซับซ้อนไปมาเป็นดั่งภาพในความฝัน เพียงเท่านี้จิตใจเราก็อิ่มเอมไปกับความสวยงามของธรรมชาติ

                    ยามแสงทองของอาทิตย์อัสดงทาบทาไปบนต้นหญ้าที่พลิ้วไหวล้อลมบนยอดเขา ช่างเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก พวกเราถ่ายรูป และเดินเล่นจนตะวันลับขอบฟ้า ถึงได้กลับมาหุงหาอาหาร กินข้าวข้างกองไฟ นั่งพูดคุยกันไปจนดึกดื่นก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนได้

                    รุ่งเช้ารีบตื่นมาดูทะเลหมอก แต่เหมือนโชคไม่เข้าข้าง ลมค่อนข้างแรงพัดพาหมอกปลิวหายไป ดีที่ว่าฟ้าเปิดให้เห็นแสงสีทองบ้าง โอ้เอ้อยู่ได้ไม่นานก็ต้องรีบมาจัดการมื้อเช้า เก็บเป้เตรียมเดินทางกลับ เพราะลุงพะอือบอกว่า วันนี้เราจะเดินไปลงอีกด้าน ไปบ้านแม่เป๊าะใต้ และเดินให้ถึงแม่ฮ่องสอนเลย ใช้เวลาราวๆ 6 ชั่วโมง บร๊ะเจ้า... ขาล้ายังไม่หาย แต่เป็นไงเป็นกัน 

                    สองชั่วโมงเศษ เราก็ลงมาถึงหมู่บ้านห้วยเป๊าะใต้ พักเหนื่อย กินข้าวเที่ยง แค่ต้มยำไก่บ้าน ไข่เจียวกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อย เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมแล้วยามนี้ พักกันได้ไม่นานก็เริ่มเดินทางกันต่อ หลังจากไต่เขามาสองวัน บ่ายนี้ต้องลุยกับสายน้ำบ้างละ

                    จากบ้านห้วยเป๊าะใต้ไปบรรจบกับทางเดินบ้านหัวน้ำแม่ฮ่องสอน-บ้านพะโข่โหล่ เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวบ้านเดินประจำ ที่มีทั้งทางขึ้นเขาแล้วไปตัดเลาะลำห้วย เดินตามลำน้ำบ้าง เลาะข้างลำน้ำบ้าง... เส้นทางลัดเลาะผ่านโตรกผาช่างสวยงาม ฉ่ำเย็น ช่วยคลายความเหนื่อยไปได้เยอะ ราวๆ 3 ชั่วโมงกว่าก็หลุดสู่หมู่บ้านพะโข่โหล่ 

                    ดาวยังคงระยิบระยับที่ปลายฟ้า... วันที่นึกถึงยอดเขา "เลโจ๊ะ" แห่งเลอปอเฮอ เทือกเขาที่มียอดสูงเรียงราย สวยงามต้องตานักท่องเที่ยว และทำให้เมืองสามหมอกไม่ได้มีแค่หุบดอกไม้ สายน้ำปาย และทุ่งนา 


..............................................
หมายเหตุ
ติดต่อ คนนำทาง :  ลุงพะอือ 08-0126-8496
สอบถามข้อมูลท่องเที่ยว : สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงใหม่ 0-5311-2325
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.แม่ฮ่องสอน 0-5361-1146

..........................................
(เลโจ๊ะ...เสน่ห์เทียมฟ้าแม่ฮ่องสอน : คอลัมน์ชวนเที่ยว  : เรื่อง/ภาพ : ฟ้าใส จิรพัชร)