ล่าชื่อยื่นศาลปค.ระงับปิดม.อีสาน | คมชัดลึก

              จากกรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.) เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2555 ที่ผ่านมา เห็นสมควรให้เพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้ง มอส. เนื่องจากเหตุผลสำคัญ 2 ข้อ คือระบบการเงินที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และระบบการจัดการศึกษาที่มีปัญหาเรื้อรัง ซึ่งอาจเป็นผลเสียต่อนักศึกษาหากยังให้มีการดำเนินการต่อไป

              ดังนั้นคณะกรรมการควบคุมฯ จึงได้ดำเนินการตาม มาตรา 91 พระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 ก่อนที่ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) จะลงนามคำสั่งเพิกถอน มอส.หรือสั่งยุบมหาวิทยาลัยอีสานในวันที่ 19 กันายน ที่ผ่านมา ตามคำสั่ง

              ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 ตุลาคม ที่ศาลปกครองขอนแก่น กลุ่มนักศึกษาทั้ง ระดับปริญญาตรีและปริญญาโท พร้อมด้วยครูอาจารย์ จาก มอส.  ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ได้ล่ารายชื่ออีกนับพันคนยื่นเป็นหลักฐานเพิ่มเติมต่อศาลปกครองขอนแก่น เพื่อขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของ ศ.ดร.สุชาติ  ที่ได้ลงนามคำสั่งเพิกถอน มอส.

              นายวรพัทร ศิริโชค อาจารย์มหาวิทยาลัยอีสาน (มอส.)หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบหาก มอส.ถูกยุบ เปิดเผยว่า คำสั่งดังกล่าวที่ รมว.ศธ.ได้ลงนามไปนั้น จะมีผลนับตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม นี้เป็นต้นไป ซึ่งจากคำสั่งดังกล่าวนั้นหากมีผลบังคับใช้ จะส่งผลให้สิทธิในการเป็นนักศึกษา คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในมหาวิทยาลัยอีสาน ถูกกระทบกระเทือน และอาจจะได้รับความเดือดร้อนเกิดขึ้นหลายด้าน จึงทำให้ทั้งนักศึกษา และคณาจารย์ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย ที่ทำงานใน มอส.ต้องดิ้นรนพึ่งบารมีศาลปกครองฯ เพื่อขอให้สั่งยกเลิกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการจัดตั้ง มอส.เพื่อให้มหาวิทยาลัยเดินหน้าต่อไปได้

              ทั้งนี้จากการที่ศาลปกครองได้เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายหรือผู้ร้องที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต มอส. ดังกล่าว หาหลักฐานเพิ่มเติมด้วยการล่ารายชื่อของผู้ได้รับผลกระทบ เข้ายื่นเพิ่มต่อศาลปกครองฯตามเหตุผลที่ผู้ร้องได้ยื่นขอต่อศาล นักศึกษา และคณาจารย์ที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน จึงร่วมกันลงรายชื่อรวบรวมส่งให้ศาลปกครองใช้เป็นหลักฐานในการพิจารณาคำร้อง ก่อนที่ศาลจะไต่สวนคำร้องในวันที่ 26 ตุลาคม นี้