หลวงพ่อธรรมจักร พระคู่เมืองชัยนาท | คมชัดลึก

               ในอดีตกาล มีพระพุทธรูปลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา 4 องค์ องค์แรกไปขึ้นที่ท่าน้ำเมืองแปดริ้ว ปัจจุบันคือ หลวงพ่อโสธร องค์ที่สอง ไปขึ้นที่เมืองแม่กลองคือ หลวงพ่อบ้านแหลม องค์ที่สามไปขึ้นที่ท่าน้ำนครชัยศรีคือ หลวงพ่อวัดไร่ขิง และองค์สุดท้าย ลอยมาขึ้นที่ท่าน้ำวัดธรรมามูลคือ หลวงพ่อธรรมจักร

               ชาวเมืองชัยนาทเห็นพระพุทธรูปลอยน้ำมา ได้ใช้สายสิญจน์คล้องข้อพระกร อัญเชิญหลวงพ่อธรรมจักร หวังจะอัญเชิญขึ้นมาไว้ที่วัดธรรมามูล แต่ไม่สำเร็จ จึงวางแผนว่าพรุ่งนี้จะทำพิธีอัญเชิญใหม่ รุ่งเช้าชาวบ้านไม่เห็นหลวงพ่อธรรมจักร คิดว่าคงลอยไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว แต่มีชาวบ้านไปพบพระพุทธรูป ยืนตระหง่านอยู่หน้าประตูทางเข้าวิหารวัดธรรมามูล

               ชาวชัยนาทจึงร่วมใจต่อเติมพระวิหาร ออกมาถึงองค์หลวงพ่อธรรมจักร ทำให้องค์หลวงพ่อธรรมจักร มีความงดงามมากยิ่งขึ้น สมเด็จพระปิยะมหาราช ทรงทราบถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพระธรรมจักร จึงเสด็จมาสักการะถึง 3 ครั้ง พระพุทธเจ้าหลวง พระราชทานเงินส่วนพระองค์มากถึง 300 บาท เพื่อปฏิสังขรวัดธรรมามูล และหลวงพ่อธรรมจักร ให้สวยงาม

               เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ มาติดตามการก่อสร้างเขื่อนเจ้าพระยา ทั้งสองพระองค์ประทับรถยนต์พระที่นั่ง ขึ้นมากราบสักการะหลวงพ่อธรรมจักร ด้วยพระบารมีล้นเกล้าฯ ของทั้งสองพระองค์ ทำให้เมืองชัยนาทเป็นเมืองสงบสันติ มีพื้นดินดีสำหรับการปลูกข้าว และเป็นแหล่งเกษตรกรรมใหญ่ของภาคกลาง

               เฮียเล็ก คุณถนอม ตั้งทวีมหาสมบัติ ประธานชมรมร้านอาหารชัยนาท พาผมขึ้นไปกราบหลวงพ่อธรรมจักรอย่างใกล้ชิด ผมแปลกใจมากที่องค์หลวงพ่อธรรมจักร นุ่มนิ่มด้วยทองคำเปลว ที่ชาวชัยนาทปิดทองซ้อนทับมานานกว่า 500 ปี หลังจากการเก็บเกี่ยวข้าว ชาวนาชาวไร่จะมาร่วมฉลอง จัดงานให้หลวงพ่อธรรมจักรอย่างยิ่งใหญ่ ไปชัยนาทต้องขึ้นเขาไปไหว้หลวงพ่อธรรมจักร ณ วัดธรรมามูล จะได้ เฮง เฮง เฮง

ริมชล ปลาแม่น้ำ ผักปลอดสารพิษ

               ชัยนาท เมืองที่รับแม่น้ำเจ้าพระยามาจากนครสวรรค์ ส่งน้ำมาเลี้ยงไร่นาสวนส้มโอ จนเป็นพื้นที่เกษตรผืนใหญ่ของประเทศ ในหลวงจึงมีพระราชดำริให้สร้าง เขื่อนเจ้าพระยา ชะลอน้ำไม่ให้ไหลมาท่วมภาคกลาง และกักเก็บน้ำไว้ให้เกษตรกร ใช้น้ำทำนาปลูกผักปลูกผลไม้ เลี้ยงหมู ฟาร์มไก่ขนาดใหญ่ ชัยนาทจึงเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำของเมืองไทย

                คุณวรรณา อุ่นอก ทำงานที่ชลประทานมโนรมย์ เห็นกุ้งหอยปูปลาในแม่น้ำเจ้าพระยา มีให้เลือกกินไม่หมด จึงชวนแม่ปราณี-พ่อวิเชียร เข้าครัวทำอาหารให้ชาวชลประทานกิน ปลูกผักปลอดสารพิษหลังบ้าน ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกสด ต้นหอม ผักชี ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว เอามาโขลกทำพริกแกง ผัดทอดกินกับกุ้งปลาสดๆ ให้รสอร่อยปลอดภัยไร้สารตกค้าง

                กุ้งแม่น้ำย่าง กุ้งตัวใหญ่จากแม่น้ำเจ้าพระยา คุณวรรณาใช้มีดบางๆเลาะเปลือก ผ่ากุ้งออกเป็นสองซีก ย่างด้วยเตาถ่านให้เนื้อกุ้งสุกฟูกรอบ ซอยพริกขี้หนูกระเทียมสับ ปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำวมะนาว จิ้มกินกับเนื้อกุ้งย่างก็อร่อยแล้ว ผัดฉ่าปลาคัง ปลาคังตัวใหญ่ เลาะเอาเนื้อหนาๆ มาผัดกับพริกสด มะเขือเปาะ ใบโหระพา กินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเต็มคำพอดี

                ปลาเค้าทอดน้ำมัน คุณวรรณา สรรหาปลาเค้าตัวใหญ่ หั่นปลาเค้าชิ้นหนาๆ คลุกพริกไทยป่นตรามือและน้ำปลา ทอดให้เนื้อปลาเหลืองกรอบนอกนุ่มใน แค่นี้เนื้อปลาแม่น้ำก็อร่อยแล้ว ผัด ส.วญ.นายตำรวจมากินข้าวที่ริมชล เห็นผักปลอดสารพิษหลังบ้าน จึงแนะให้คุณวรรณา หั่นตะไคร้ใบมะกรูดหอมแดง นำมาทอดให้กรอบแล้วผัดกับหมูสับ เป็นเมนูอร่อยเพื่อสุขภาพ

                ต้มยำกุ้งเกยชาม พ่อวิเชียรจับกุ้งแม่น้ำ ต้มยำโบราณใส่หอมแดงพริกเผา น้ำต้มยำหอมกลิ่นมะนาว เคล้ามันกุ้งลอยฟ่องเต็มชาม กุ้งตัวใหญ่เกยเต็มชามให้กินเต็มอิ่ม แกงคั่วหอยขม แม่ปราณีซื้อหอยขมจากชาวนา ต้มให้เนื้อหอยสุก โขลกพริกแกงคั่วกับน้ำกะทิ ปรุงรสตามตำรับลูกทุ่งชัยนาท เนื้อหอยขมกรุบกรอบ เข้ากันดีกับน้ำแกงคั่ว อร่อยถูกใจผมมาก

               ปลาช่อนน้ำตกปลาช่อนริมนาตัวใหญ่ บั้งเนื้อปลาได้ถึง 7 ริ้ว ทอดให้กรอบทั้งตัว ราดด้วยข้าวคั่วเครื่องปรุงน้ำตก เคล้ากับเนื้อปลาช่อนฟูๆ ให้อร่อยหนำใจ

               อยู่ริมถนนพหลโยธินสายเก่า ชัยนาท-นครสวรรค์ อ.มโนรมย์ โทร.0-5649-1397, 08-5872-6152

..................................
(หลวงพ่อธรรมจักร พระคู่เมืองชัยนาท : คอลัมน์ตำนานแผ่นดิน)