
เมียงมอง'มอนเตเนโกร'
เมียงมอง'มอนเตเนโกร' : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง
����������� พูดจริงๆ ว่าสำหรับนักเดินทางชาวไทย ปลายทางอย่างประเทศ "มอนเตเนโกร" (Montenegro) แทบไม่เคยอยู่ในสายตามาก่อน แต่สำหรับพวกมีใจให้จุดหมายแปลกใหม่ แอบปักหมุดมอนเตเนโกรไว้นานจนหมุดเกือบขึ้นสนิมแล้ว
����������� งานนี้ต้องยกเครดิตให้เศรษฐีจากบ้านเรา ที่รวยขนาดคิดจะหอบเศษเงินไปซื้อเกาะที่มอนเตเนโกรได้ เลยทำให้ชื่อของประเทศนี้ติดอยู่ตามซอกหูของคนไทย
������������ และแน่นอนว่า ไม่เล็ดลอดสายตาพวกขาแข้งไม่อยู่สุขอย่างฉันด้วย สะบัดแข้งสะบัดขาอยู่นาน� รอจนแน่ใจว่าคนมีวีซ่าเชงเก้นประทับบนพาสปอร์ต สามารถเข้านอกออกในมอนเตเนโกรได้ ถึงให้สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ (0-22310300-7) พาเหาะไปส่งที่ พอดกอริซา (Podgorica) นครหลวงของมอนเตเนโกร
������������ 192! คือตัวเลขลำดับประเทศของมอนเตเนโกรที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศแล้ว
������������ 2549! คือพ.ศ.ที่มอนเตเนโกรประกาศแยกตัวมาเป็นประเทศใหม่อย่างเป็นทางการ
�������������แทบไม่ต้องอธิบายใดๆ นี่คือหนึ่งในประเทศน้องใหม่ของโลกที่เกิดจากการอับปางลงของระบบคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก
����������� ช่วงปี 2532 หลังจากการล่มสลายของคอมมิวนิสต์ ยูโกสลาเวียก็เกิดความระส่ำระสาย หลายรัฐที่เคยอยู่ในยูโกสลาเวียก็ประกาศแยกตัวเป็นอิสระ ทั้งโครเอเชีย สโลวีเนีย มาซิโดเนีย และบอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา ก็พากันแตกเป็นประเทศใหม่ ช่วงปี 2534 ยูโกสลาเวียจึงเหลือแค่รัฐเซอร์เบียและมอนเตเนโกรเท่านั้นที่ยังไม่ขยับตัว
����������� 15 ปีผ่านไปนั่นแหละ มอนเตเนโกรถึงได้ขอประกาศแยกตัวอย่างเป็นทางการจากเซอร์เบีย ชื่อของยูโกสลาเวียจึงกลายเป็นเพียงอดีตที่มีไว้ให้ผู้คนได้ตามรอยประวัติศาสตร์
������������ สำรวจเมืองหลวงฉบับรวบรัด ฉันก็ดิ่งไปหาเมืองสุดฮอตของมอนเตเนโกรอย่าง กอเตอร์ (Kotor)
������������ กอเตอร์คือเมืองนี้เลอะเทอะไปด้วยรอยเท้าของนักเดินทาง เพราะเป็นเมืองตากอากาศ ตอนที่ตัวยังอยู่พอดกอริซา เลยใช้แอพพลิเคชั่นของอโกดา (www.agoda.com) ที่โหลดไว้บนหน้าจอสมาร์ทโฟน ค้นหาเรือนพักเอาไว้ดิบดี เสิร์ชหาจากเรือนพักที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้นๆ ดูจากเรตติ้ง และโลเกชั่น สักพักก็ได้เรือนพักราคาถูกใจสบายกระเป๋า
����������� สำหรับกอเตอร์ ไม่มีที่ไหนน่าพักเท่าใน เมืองเก่า อีกแล้ว นี่คือเมืองที่คนมามอนเตเนโกรไม่มีใครยอมพลาด แม้แต่เรือสำราญที่ล่องแถวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลอะเดรียติก ยังพานักเสพความสำราญมาจอดทอดสมออยู่ริมกำแพงเมืองเก่า
���������� กอเตอร์เป็นเมืองไซส์เล็ก เมืองเก่าเลยพลอยเล็กตามไปด้วย แต่ก็เป็นเมืองเล็กที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ไม่อย่างนั้นองค์การยูเนสโกคงไม่ยกให้เป็นมรดกโลกด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม
����������� ในรั้วรอบขอบชิดของเมืองเก่า มีทั้งโบสถ์ พระราชวัง อาคารเก่าแก่ที่เคยเป็นโรงพยาบาล คุก และค่ายทหาร
������������ บางอย่างเป็นมรดกตกทอดจากยุคที่พวกเวนิสเข้ามาปกครอง บางสิ่งฟ้องว่าอาณาจักรออตโตมันก็เคยรุ่งโรจน์อยู่แถวนี้
������������ แต่ทั้งหมดคงไม่มีอะไรน่าดูเท่ากอเตอร์ที่มองมุมเดียวกับนก ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะกอเตอร์มีป้อมปราการเอาไว้ให้ปีนป่ายขึ้นไปชมวิว ระยะทางก็เบาๆ แค่ 4-5 กิโลเมตร ตัวเลขบันไดก็ซอฟต์ๆ แค่ 1,300 กว่าขั้น�
����������� ไม่มีคำว่าเหนื่อยหล่นจากปากนักเดินทาง เพราะกอเตอร์สมนาคุณคนขยันเดินด้วยวิวระดับหกดาว ภาพนั้นทำให้ทุกคนจากมาด้วยรอยยิ้มและเสียงชัตเตอร์ที่ลั่นกันระงมหุบเขา
������������ จากเมืองกอเตอร์ตรงดิ่งฉันไปหา หมู่บ้านสเวตี สเตฟาน (Sveti Stefan) ซิ่งๆ หน่อยก็ใช้เวลาประมาณ 45 นาที มุมนี้แหละที่ใครก็บอกว่าเป็นเหมือนโลโก้ของมอนเตเนโกร�
����������� �ข้างๆ เกาะสเวตี สเตฟานอันสวยงาม คือ เกาะสเวตี นิโคลา (Sveti Nikola) นั่นแหละเป้าหมายของคนไทยที่มีพาสปอร์ตมอนเตเนโกร หมายมั่นปั้นมือว่าจะเข้ามาลงทุน
����������� �มากกว่าความงดงามของประเทศริมทะเลอะเดรียติกแห่งนี้ มอนเตเนโกรยังได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของมาเฟียและผู้ร้ายในมาดเศรษฐี ฉันจึงเมียงมองมอนเตโนโกร ด้วยสายตาคู่สงสัยอยู่หลายประการ เพราะแทบไม่รู้ว่าผู้คนที่เดินสวนกันบนท้องถนน เขาเป็นมาเฟียชาติไหน นักฟอกเงินระดับเศรษฐีจากประเทศอะไร��
������������ แต่ไม่ว่าใครจะเป็นมาเฟีย ผู้ร้ายในมาดเศรษฐี หรือนักโทษหนีคดี มอนเตเนโกรก็เวลคัมทุกคนด้วยรอยยิ้ม เพราะนี่คือประเทศที่ไม่มีนโยบายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ชัดเจน!
.......................................
(เมียงมอง'มอนเตเนโกร' : คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : โดย...กาญจนา หงษ์ทอง)