ไลฟ์สไตล์

บูรณปฏิสังขรณ์ ลุมพินีสถานที่'เนปาล'

บูรณปฏิสังขรณ์ ลุมพินีสถานที่'เนปาล'

06 ต.ค. 2555

บูรณปฏิสังขรณ์ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เกิดจากพลังศรัทธาของชาวไทยโดยแท้จริง : สัมภาษณ์พิเศษ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

                 5 ปี ที่พักยกจากการเมือง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ชดเชยเวลาที่หายไปกับการเมือง ดูแลพ่อแม่ที่ชราภาพ ศึกษาธรรมะในยามที่แม่ป่วย จนกระทั่งแม่เสียชีวิต เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต ทำให้จิตใจสงบและนิ่งลง พร้อมกับได้มีโอกาสไปกราบสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล จนเป็นที่มาของ โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล

                 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เล่าถึงช่วงชีวิตที่หายหน้าไปจากวงการเมืองเป็นเวลา 5 ปีว่า อาจจะไม่เหมือนคนอื่น ไม่ได้ไปทำธุรกิจ แต่หันไปสาละวนกับคนที่เรารักในครอบครัว กลับไปใช้เวลาดูแลคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น จนคุณแม่ป่วยหนัก ช่วงปีกว่าๆ ที่ดูแลคุณแม่ ก็มีผู้หวังดีแนะนำให้สวดมนต์ให้คุณแม่ เริ่มอ่านธรรมะ อาจเป็นขั้นแรกที่ทำให้เปลี่ยนแปลงตัวเองโดยไม่รู้ตัว ทำให้ใจเย็นลง หลังจากคุณแม่เสียชีวิต ธรรมะที่อ่านมา ช่วยไม่ได้เลย สติแตก คิดโทษตัวเอง สามีก็แนะนำให้วาดรูป เป็นจุดเปลี่ยนที่ 2 ที่ทำให้ใจนิ่งขึ้น ใช้สมาธิอยู่กับตัวเอง วาดรูปเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ 6 เดือน คนใกล้ชิดก็เป็นห่วง ชวนเข้าวัด แล้วก็เริ่มนั่งสมาธิพร้อมกับการวาดรูป ทำให้มีสมาธิมากขึ้น ใจเย็นลง ไม่ลุกลี้ลุกลนกับชีวิตมากนัก

                  "หลังจากคุณแม่เสีย ก็เริ่มอ่านธรรมะมากขึ้น อ่านหลักของศาสนาจริงๆ ว่า พระพุทธเจ้าคิดอย่างไร ทำไมศาสนาพุทธต้องแสวงหาการหลุดพ้นอย่างเดียว คิดหาเหตุผลตามที่พระพุทธเจ้าสอน ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่า การไม่ยึดติด หมายถึงอะไร การจะทุกข์หรือสุขอยู่กับใจเรา ตั้งอยู่ที่ตัวเรา เปรียบเทียบกับตัวเรา เวลาสอนลูกจะเปรียบเทียบว่า เหมือนเราอยู่บนเส้นด้าย พลิกไปด้านขวาเป็นความสุข พลิกไปด้านซ้ายเป็นความทุกข์ ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่า จะไปซ้ายหรือขวา"

                   คุณหญิงสุดารัตน์ เล่าถึงที่มาของ โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล ว่า มีคนชวนไป ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล ตั้งใจอยากไปกราบสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า เป็นการไปครั้งแรก จากวัดไทยไปถึงสถานที่ประสูติ ต้องเดินเข้าไปประมาณ 500 เมตร ต้องถอดรองเท้าเดินย่ำโคลนไปถึงที่ประสูติ รู้สึกว่า ทำไมทางเข้าแย่ขนาดนี้ พอเดินไปถึงวิหารมหามายาเทวี จุดที่พระพุทธเจ้าประสูติ เหมือนได้กราบตรงพระบาทของพระพุทธเจ้า ก็น้ำตาไหล จากนั้น พระสงฆ์พาไปไหว้พระที่เสาหินอโศก ไปนั่งสวดมนต์ และนั่งสมาธิ แต่มีลานอยู่แค่ประมาณ 3x4 เมตร มีภิกษุณีนั่งสวดมนต์อยู่ในสภาพอากาศอบอ้าวหลังฝนตก พระสงฆ์นั่งที่ซากโบราณสถาน พวกเราปูเสื่อนั่งกับโคลน กางเกงสีขาวเป็นสีโอวัลตินกันหมด คนไทยยังดีที่กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ แต่คนทิเบตที่กราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ กว่าจะครบ 5 ครั้ง หน้าเลอะโคลนไปหมด

                   "ชั่วโมงกว่าที่นั่ง ไม่ได้รู้สึกร้อนอบอ้าว นั่งสมาธินิ่ง ศรัทธามาก รู้สึกดีใจ แต่ไม่ค่อยพอใจในสถานที่ น่าจะมีที่ให้นั่งสวดมนต์ และมีปักธูปที่ดีกว่านี้ ก็เอ่ยปากกับคนที่ไปรับ น่าจะเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ว่าอยากทำกระถางธูปเทียนมาถวาย เขาบอกไม่ได้ ดิฉันก็พยายามหาวิธีติดต่อ 3 หน่วยงาน คือ กองทุนพัฒนาลุมพินี หรือ Lumbini Devellopment Trust (LDT) ซึ่งดูแลที่นั่น รัฐบาลเนปาล และยูเนสโก ท่านเจ้าคุณราชรัตนรังษี บอกว่า อย่าตั้งความหวังไว้มากว่าจะได้ทำ เพราะที่ผ่านมามีคนอยากทำเยอะ แต่ไม่ได้รับอนุญาต"

                   ท่านเจ้าคุณฯ บอกว่า ให้ตั้งจิตขอเป็นสะพานบุญ เพื่อนำสิ่งที่ได้เห็น ไปให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยและทั่วโลกได้เห็นด้วย เพื่อมาร่วมบูรณปฏิสังขรณ์ พอกลับมาเมืองไทยก็ออกแบบเลย ติดต่อกันอยู่ประมาณ 6 เดือน จนต้นปี 2554 ก็ได้รับอนุญาตให้ทำ วางศิลาฤกษ์ 14 กุมภาพันธ์ 2554 ขณะนี้ ทำเสร็จไป 2 ส่วนแล้ว คือ ทางเดินรอบวิหารมหามายาเทวี แต่ยังไม่ได้ทำทางเข้า เพราะยังไม่ได้รับอนุญาต และทำลานปฏิบัติธรรมขนาดใหญ่ประมาณ 25x25 เมตร จำนวน 5 ลาน

                   คุณหญิงสุดารัตน์ เล่าถึงอุปสรรคในการก่อสร้างโครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติฯ ว่า ต้องใช้กระเบื้องภายในประเทศเนปาล อุปกรณ์ก่อสร้างก็ไม่ค่อยทันสมัย ท่านเจ้าคุณฯ ก็เตือนสติว่า โยมทำบุญแล้ว โยมต้องทำใจ ได้ทำก็ดีแล้ว ทำให้ได้คิดว่า "ทำบุญแล้วต้องทำใจ" นอกจากนี้ ก็เข้าได้ช่วยชุมชนรอบๆ ลุมพินีสถาน นำโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเข้าไปตั้งที่วัดไทย ทุกปีในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ก็จะไปผ่าตัดตาต้อกระจกให้แก่คนในชุมชน

                   ครั้งแรกไม่ได้ตั้งใจทำโครงการเผยแพร่แบบนี้ จะทำแค่ลานหน้าเสาหิน ทางเดินเท่าเดิม จะชวนเพื่อนๆ แค่ 10-20 คนไปช่วยกันทำ พอกลับมาประเทศไทย เพิ่งรู้ว่า เป็นโครงการใหญ่ พระสงฆ์อยากทำมานานแล้ว แต่ไม่ได้ทำ ท่านดาไล ลามะ บอกว่า ครั้งนี้เป็นการบูรณะครั้งที่ 3 ตั้งแต่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ดิฉันดีใจมาก ครั้งแรกคือ พระเจ้าอโศกมหาราช หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานประมาณ 300 ปี จนประมาณปี 2500 ท่านอูถั่น ซึ่งเป็นเลขาธิการยูเอ็น เป็นชาวพม่า ทำการบูรณะเป็นครั้งที่ 2

                   "เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาใช้ในโครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล ไม่ใช่เงินรัฐบาล ไม่ได้ขอหน่วยงานใดเลย แต่มาจากพลังศรัทธาของชาวไทย และชาวต่างประเทศบ้างประปราย เช่น ชาวจีน ชาวอินโดนีเซีย ที่ติดต่อผ่านทางเว็บไซต์ ทุกบาททุกสตางค์ที่ทำ จึงเกิดจากพลังศรัทธาทั้งสิ้น"

                   คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวปิดท้ายว่า นอกจากจะฝากประชาสัมพันธ์เผยแพร่โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติฯ แล้ว อยากฝากข้อคิดกึ่งธรรมะให้แก่สังคมว่า ณ วันนี้ ถ้าพูดกันทั้งหมดจะเห็นว่า จากปัญหาการเมือง ประเทศไทยเสียโอกาสในจุดต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการปกครองไปมากแล้ว อีกไม่กี่ปี ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การแข่งขันเสรีประเทศอาเซียน ในปี ค.ศ. 2015 ที่มีทั้งปัญหาและโอกาส ถ้าเราไม่ปรับตัว เราจะเจอปัญหา ดังนั้น ความพร้อมของประเทศ หรือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของประเทศ ปรับการเมืองให้เดินไปข้างหน้า

                   "ปัญหาเกิดขึ้นเพราะเราไม่ใช้สติในการแก้ปัญหา ทุกศาสนาสอนให้มีสติ ต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อน ทุกวันนี้ คนเราใช้ความรู้สึกรัก โลภ โกรธ หลง ใช้ความรู้สึกเกลียดชัง อยู่กันคนละสี คนละฝั่ง ไม่รู้จักกันเลย ไม่รู้ว่าจริงไม่จริง เกลียดสุดโต่ง รักสุดโต่ง ไม่มีเหตุผล ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้ใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล เราต้องมีเหตุผล เราต้องขจัดสิ่งที่ยึดมั่นเกินไป แล้วก้าวมาสู่จุดที่สังคมต้องช่วยกัน ใช้เหตุผล วิเคราะห์ถูก ผิด ดี ชั่ว ใช้ความเมตตา ให้อภัย อยากชวนทุกคนนำพาประเทศไทยก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยกัน"

.............................................

                     "เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาใช้ในโครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล ไม่ใช่เงินรัฐบาล ไม่ได้ขอเงินจากหน่วยงานใด แต่มาจากพลังศรัทธาของชาวไทย และชาวต่างประเทศบ้างประปราย เช่น ชาวจีน ชาวอินโดนีเซีย ที่ติดต่อผ่านทางเว็บไซต์ ทุกบาททุกสตางค์ที่ทำ จึงเกิดจากพลังศรัทธาทั้งสิ้น"

.............................................
(บูรณปฏิสังขรณ์ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล  เกิดจากพลังศรัทธาของชาวไทยโดยแท้จริง : สัมภาษณ์พิเศษ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์)