ไลฟ์สไตล์

'ฟ้าหญิงฯ'ทรงเพิ่มศักยภาพรักษามะเร็ง

'ฟ้าหญิงฯ'ทรงเพิ่มศักยภาพรักษามะเร็ง

02 ต.ค. 2555

'ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์' ทรงเพิ่มศักยภาพรักษามะเร็ง

                            ด้วยพระกรุณาธิคุณ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ทรงตระหนักถึงมหันตภัยร้ายของโรคมะเร็งที่มีผลต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความทุกข์ของผู้ป่วยโรคมะเร็งและญาติ จึงทรงมีพระดำริให้จัดตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ขึ้น เพื่อสำหรับรักษาและศึกษาค้นคว้าวิจัยถึงวิธีการรักษาโรคมะเร็งให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

                            วันก่อน ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี  จึงเสด็จไปยังโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงเปิด "หน่วยเวชศาสตร์นิวเคลียร์" แล้วทรงเปิดและทอดพระเนตรการทำงานของเครื่อง ไฮบริด สเปค CT (Hybrid SPECT/CT) 16 สไลด์ ซึ่งเป็นเครื่องถ่ายภาพเพื่อตรวจการทำงานของอวัยวะต่างๆ เพื่อวินิจฉัยการแพร่กระจายของมะเร็ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และตอบสนองการรักษาอย่างครบวงจร

                            หน่วยเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ตั้งอยู่ที่ชั้น B1 และหอผู้ป่วยใน ชั้น 7 เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนางานต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการวิจัยสู่ความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ การให้บริการทางการแพทย์ การตรวจวินิจฉัย และรักษาโรค ด้วยวิทยาการทางนิวเคลียร์ และวิทยาการอื่นที่เกี่ยวข้อง ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ และพันธกิจของโรงพยาบาล ในการเป็นสถาบันชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบ่งเป็นส่วนให้บริการตรวจวินิจฉัย มีการติดตั้งเครื่อง ไฮบริด สเปค CT 16 สไลด์ เป็นเครื่องแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยในการตรวจวินิจฉัย ให้รายละเอียดของภาพได้เท่ากับรุ่น 64 สไลด์ มีความแม่นยำ และความไวในการตรวจด้วยเทคนิคทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์สูง

                            รวมทั้งมีเทคนิคช่วยลดการใช้ปริมาณรังสีต่อตัวผู้ป่วย, มีโปรแกรมช่วยคำนวณปริมาณรังสีในอวัยวะต่างๆ เพื่อวางแผนการรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยสารกัมมันตภาพรังสี มีโปรแกรมช่วยลดระยะเวลาการตรวจลงร้อยละ 50 ของเวลาการตรวจปกติ ในการตรวจหลายๆ ระบบ, มีโปรแกรมการตรวจหัวใจ ที่ให้ภาพมีความคมชัดมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเครื่อง ไธรอยด์ อัพเทค (Thyroid Uptake) เพื่อคำนวณปริมาณรังสีในการรักษาผู้ป่วย และในร่างกายผู้ปฏิบัติงาน และห้อง HOT LAB ใช้ในการเตรียมสารเภสัชรังสี เพื่อการตรวจวินิจฉัยและรักษา

                            นอกจากนี้ ยังมีส่วนให้บริการรักษาโรคด้วยสารเภสัชรังสี โดยห้องผู้ป่วยทั้ง 2 ห้อง ได้รับการออกแบบและมีอุปกรณ์พิเศษเพื่อป้องกันอันตรายจากรังสีที่ได้มาตรฐานระดับสากล มีบ่อที่ใช้ในการกักเก็บน้ำเสีย และของเสียที่มีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากผู้ป่วยที่สมบูรณแบบ รวมทั้งมีการใช้ระบบโทรทัศน์วงจรปิดมาช่วยในการดูแลผู้ป่วย ในการให้การรักษาโรคมะเร็งต่าง ๆ เช่น มะเร็งตับ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และรักษาภาวะเจ็บปวดจากการแพร่กระจายของมะเร็งไปที่กระดูก