3ท่านทูตหญิงร่วมรณรงค์'มะเร็งเต้านม' | คมชัดลึก

                          ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้รับเกียรติจากคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ เอก พร้อมด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียงหลากอาชีพ หลากวัย ร่วมเป็นคณะทูตกิตติมศักดิ์ ประจำปี 2555 ในโครงการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม  เพื่อร่วมรณรงค์ให้ผู้หญิงทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้หญิงด้อยโอกาส ได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม โดยข้อความหลักของการรณรงค์ก็คือ “มะเร็งเต้านม พบเร็วมีโอกาสรักษาหาย”

                          ในปี 2555 นี้ ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อโรคมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ คริสตี้ เคนนี่ย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึ่งรับหน้าที่ทูตฯ โครงการเมื่อปี 2554 ฯพณฯ คริสติน ชราเนอร์ เบอร์เกนเนอร์ เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย(สวิตเซอร์แลนด์) และ ฯพณฯ อานา มารีอา รามีเรซ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอาร์เจนตินาประจำประเทศไทย ร่วมเป็นหนึ่งในคณะทูตกิตติมศักดิ์ โครงการรณรงค์มะเร็งเต้านม ประจำปี 2555 ในการรณรงค์ให้ผู้หญิงทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้หญิงด้อยโอกาส ได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ที่ว่า “มะเร็งเต้านม พบเร็วมีโอกาสรักษาหาย” พร้อมเชิญชวนให้ผู้หญิงหมั่นตรวจสอบมะเร็งเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำเพื่อตัวคุณเองและครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเข้าถึงชุมชนแออัดของศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถเพื่อโรคมะเร็งเต้านม

                          โดย ฯพณฯ อานา มารีอา รามีเรซ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอาร์เจนตินาประจำประเทศไทย กล่าวเชิญชวนว่า อย่ากลัว เราจะสู้ไปด้วยกัน อย่าซ่อนทุกๆ อาการของโรคไว้ เพียงแค่คุณไปตรวจและบอกเล่าถึงความวิตกกังวลของคุณให้ทุกคนๆ รู้ว่า มะเร็งเต้านม หากพบเร็วมีโอกาสรักษาหายได้ นอกเหนือไปจากนั้น โครงการฯ ยังต้องการเงินอีกจำนวนมากในการทำวิจัย ซื้ออุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ รวมถึงเงินทุนในการดำเนินโครงการเข้าถึงชุมชนแออัดของศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถเพื่อโรคมะเร็งเต้านม เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงด้อยโอกาสที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม

                          โดยคณะทูตกิตติมศักดิ์ ประจำปี 2555 ในโครงการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม  มีภารกิจสำคัญในการรณรงค์ให้ผู้หญิงไทยตระหนักถึงการดูแลตัวเองให้พ้นจากโรคมะเร็งเต้านม โดยให้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน และหนึ่งในข้อมูลสำคัญก็คือ การกระตุ้นให้ผู้หญิงตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำ ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสังเกตุอาการของโรคที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงในวัย 40 ปีขึ้นไป ควรจะเพิ่มการตรวจเต้านมเป็นประจำทุกปีด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ อัลตร้าซาวน์ และแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งจะช่วยให้พบมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้นได้