
ยัน'พระราหูถือสไนเปอร์'อยู่เกิน100ปี
จิตรกรเผยภาพ "1 แสนโกฏิจักรวาล" มีอายุได้เป็นร้อยปี ยันที่วาดพระราหูถือปืนสไนเปอร์ แค่บันทึกเหตุการณ์สำคัญของปท. ด้านผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เตรียมทำแผ่นพับอธิบายความหมายภาพ สร้างความเข้าใจให้ปชช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 55 หลังจากที่พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ออกมาเปิดเผยถึงภาพวาด "1 แสนโกฏิจักรวาล" ซึ่งเป็นภาพจิตรกรรมภายในศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ซึ่งภาพดังกล่าว เป็นภาพที่ผสมผสานทางพระพุทธศาสนา ดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เข้าด้วยกัน ทั้งยังมีการวาดภาพเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่สำคัญมีการวาดภาพ "พระราหูเล็งปืนสไนเปอร์" อยู่ในภาพดังกล่าวด้วย สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนเดินทางเขามาดูภาพดังกล่าว ที่ศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ อย่างไม่ขาดสาย โดยส่วนใหญ่ระบุว่า เห็นภาพข่าวจากสื่อมวลชน จึงต้องการเดินทางมาดูให้เห็นกับตา อย่างไรก็ตามเนื่องจากภาพดังกล่าวยังอยู่ในช่วงการเก็บรายละเอียด ทางวัดจึงจำเป็นต้องนำฉากมากั้นเพื่อไม่ให้ภาพเกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม พระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ กล่าวยืนยันว่า รูปพระราหูถือปืนสไนเปอร์ ไม่ได้ต้องการให้สื่อความหมายทางการเมือง แต่ต้องการที่จะบันทึกเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในเมืองไทยและเหตุการณ์สำคัญของโลก และเนื่องจากภาพ "1 แสนโกฏิจักรวาล" มีรายละเอียดของภาพมาก มีการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีเรื่องของดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นจึงเตรียมที่จะทำแผ่นพับอธิบายรายละเอียดของภาพวาด "1 แสนโกฏิจักรวาล" ให้กับประชาชนที่สนใจมาชมภาพดังกล่าวด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่แท้จริงของภาพวาดดังกล่าว
ขณะที่นายพีระพงศ์ ขุนจิตต์ จิตรกรผู้วาดภาพ "1 แสนโกฏิจักรวาล" กล่าวว่า ภาพดังกล่าวขณะนี้อยู่ในระหว่างเก็บรายละเอียดเล็กน้อย อีกประมาณ 2 วัน ถึงจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งหลังจากที่เป็นข่าวออกไป มีคนสนใจเข้ามาชมจำนวนมาก ถึงขนาดมาเกาะกระจกรอบศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ดูกันเลยทีเดียว และรูปนี้ยังได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยววัดสระเกศด้วย โดยมีชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง ถ่ายรูปภาพพระราหูถือปืนสไนเปอร์ไปเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊กด้วย
"ทั้งนี้ยืนยันว่า การที่ตนวาดภาพในลักษณะดังกล่าว ไม่ได้มีความหมายทางการเมือง แต่ต้องการที่จะบันทึกภาพเหตุการณ์ที่สำคัญที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทย เมื่อเดือน พ.ค. 2553 แต่หากจะวาดเป็นทหารถือปืน ก็จะไม่เข้ากับภาพ เพราะภาพวาดนี้มีการวาดภาพเทพ เทวดา ตามหลักโหราศาสตร์เป็นหลัก และหากมองจากจุดที่เป็นปืนสไนเปอร์แล้วจะพบว่า เป็นเส้นนำสายตาไปยังเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ซึ่งถือเป็นหลักการของศิลปะ ที่จะต้องมีเส้นนำสายตาดึงความสนใจของคน และที่สำคัญภาพนี้จะมีอายุนานเป็นร้อยๆ ปี เพราะมีการวาดลงบนผ้าลินิน และใช้สีที่มีคุณภาพ ซึ่งจะมีความคงทนอยู่ได้นานเป็นร้อยๆ ปี"
ด้านนายอนุชา ฤทธิ์ฤาดี อายุ 41 ปี ชาวพระประแดง จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า พอเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ ก็เลยอยากที่จะมาเห็นภาพของจริง เลยมุ่งตรงมาที่วัดสระเกศ พอมาเห็นภาพแล้ว ยอมรับว่า สวยและแฝงไว้ด้วยเรื่องราวต่างๆ มากมาย ซึ่งยอมรับว่า ศิลปินทุกวันนี้มีอิสระในความคิด ที่จะสร้างสรรค์ผลงาน โดยสอดแทรกเรื่องการเมืองมาเป็นคติธรรมทางพระพุทธศาสนา นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่สำคัญยังเป็นการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้รู้
ส่วนนายสุภาพ วรรณดี อายุ 45 ปี ชาวกรุงเทพฯ กล่าวว่า เดินทางมาจากย่านพระราม 2 เพื่อมาไหว้พระที่วัดสระเกศ พอเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ ก็เลยมาที่ศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ มาดูภาพพระราหูถือปืนสไนเปอร์ ชอบเพราะแปลกดี ปกติในวัดจะมีการเขียนแต่พุทธประวัติ แต่ครั้งนี้คนวาดภาพนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาผสมผสาน จนเกิดความแปลก ที่สำคัญตนว่า เป็นกุศโลบายที่ดีที่จะทำให้คนอยากมาวัด เพราะพอมาวัดได้มาทำบุญแล้วยังมาได้เห็น ศิลปะที่สวยงามแฝงความแปลกไว้ด้วย