ไลฟ์สไตล์

นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน

นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน

09 ก.ย. 2555

นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน : คอลัมน์นกป่าสัปดาห์ละตัว

                หากผู้อ่านท่านใดเคยนั่งพักผ่อนริมลำธารในป่าอย่างเงียบสงบ อาจมีบางครั้งที่จะได้ยินเสียงร้องแหลมดังพร้อมกับนกตัวเล็กๆ บินตรงพุ่งมาตามเส้นทางของน้ำ แล้วมุ่งหน้าไปเกาะท่ามกลางแมกไม้ที่ขึ้นอยู่บริเวณชายน้ำ แต่เมื่อมันรับรู้แม้แต่นิดเดียวว่ากำลังโดนจับจ้องอยู่ ก็จะบินหนีหายไปตามลำน้ำพร้อมส่งเสียงร้องดัง เห็นเพียงสีฟ้ากลางหลังที่สะท้อนแสงแจ่มชัดในป่ารกทึบขณะบินลับตาไป

                เหตุการณ์ที่ยกมาข้างต้นเป็นเหมือนแบบฉบับพื้นฐานของการพบ นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน (Blue-eared Kingfisher) ญาติสนิทที่พบเห็นได้ทั้งปีของนกที่หลายคนคุ้นเคยอย่าง นกกระเต็นน้อยธรรมดา (Common Kingfisher) แต่มักเกาะในกิ่งไม้ที่ร่มครึ้มกว่า ไม่เกาะบนตอโล่งๆ เหมือนนกกระเต็นน้อยธรรมดา

                 นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงินมีลักษณะโดยทั่วไปคล้ายนกกระเต็นน้อยธรรมดา แต่สีเข้มสดกว่า หัวและปีกสีน้ำเงิน ขนปีกมีแต้มสีฟ้า กระหม่อมมีลายสีฟ้าแวววาว ตะโพกสีฟ้าอ่อน ปากสีดำ โคนปากสีชมพู เพศเมียโดยรวมสีตุ่นกว่าเพศผู้และมีจะงอยปากล่างสีน้ำตาลแดง อาจมีแถบสีส้มที่แก้มและข้างคอ และปีกมีสีอมเขียวมากกว่า จนดูเผินๆ คล้ายนกกระเต็นน้อยธรรมดา นกวัยเด็กมีสีสันคล้ายตัวเมียแต่จางกว่าและมีจะงอยปากสีน้ำตาลแดงทั้งบนและล่าง เมื่ออายุมากขึ้นจะเริ่มมีสีเข้มสดและมีสีน้ำเงินที่แก้มมากขึ้น จะงอยปากสีเหมือนนกโตเต็มวัยแต่มีแต้มสีขาวที่ปลายปากเห็นได้ชัดเจน

                  นกที่พบทางภาคใต้จัดเป็นชนิดย่อย verreauxii มีลายแต้มสีเข้มกลืนไปกับสีพื้นปีกและกระหม่อมมากกว่าภาคอื่นๆ ส่วนชนิดย่อย coltarti ที่พบทางเหนือนั้นมีขนปีกสีฟ้าอมเขียว ชนิดย่อย scintillans มีสีเขียวน้อยกว่าทางเหนือและมีแต้มสีฟ้าจางกว่าเล็กน้อย พบทางตะวันออกและภาคตะวันตกลงไปจนถึงภาคใต้ตอนบน

                   แม้นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงินจะอาศัยอยู่ตามป่าเชิงเขาจนถึงความสูงราวๆ 915 เมตรจากระดับน้ำทะเล พบได้ทุกภาคยกเว้นที่ราบลุ่มภาคกลางและภาคอีสาน แต่ทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกก็สามารถพบได้ตามป่าชายเลน รวมทั้งตามสวนสาธารณะ หรือแม้แต่ตามพื้นที่ชุ่มน้ำที่ไม่ไกลจากป่ามากนัก

                    นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงินกินปลาและสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง เป็นหลัก มันล่าเหยื่อโดยการเกาะนิ่งๆ เพื่อมองหาเหยื่อ เมื่อพบแล้วจะพุ่งลงไปจับในน้ำ เช่นเดียวกับนกกระเต็นส่วนใหญ่ นกกระเต็นชนิดนี้ทำรังวางไข่โดยเจาะรูในดินตามตลิ่งหรือเจาะในรังปลวกอีกทีหนึ่ง

.................................
(นกกระเต็นน้อยหลังสีน้ำเงิน : คอลัมน์นกป่าสัปดาห์ละตัว )