
7สทศ.จัดทำธนาคารข้อสอบ
7สทศ.จัดทำธนาคารข้อสอบ เพื่อก้าวสู่ระบบอีเทสติ้งยูเน็ต : โดย... หทัยรัตน์ ดีประเสริฐ
3 กันยายน 2555 สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ครบรอบ 7 ปี ที่ให้บริการทางการประเมินผลทางการศึกษาและทดสอบทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านการทดสอบทางการศึกษาในระดับชาติ และนานาชาติ "รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์" ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กล่าวว่า สทศ.พร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นองค์กรในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของผู้เรียนในทุกระดับ เพื่อยกระดับการศึกษาไทยให้ทัดเทียมนานาประเทศ
"สทศ.ดูแลคุณภาพการศึกษาในระบบด้วยการจัดสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐานสำหรับนักเรียน ป.3, ป.6, ม.3 และ ม.6 ซึ่งเรียกว่าโอเน็ต จัดสอบเอ็นเน็ตให้นักศึกษานอกระบบโรงเรียน จัดสอบวีเน็ตให้นักศึกษาปีสุดท้ายของหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) สอบไอเน็ตให้แก่สถานศึกษาอิสลาม รวมทั้งจัดสอบความถนัดทั่วไปหรือแกต และวัดความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพหรือแพต เป็นต้น"
ปี 2549 มีการใช้ประกาศใช้คะแนนโอเน็ตร้อยละ 30 เป็นองค์ประกอบในการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ระบบแอดมิชชั่นส์กลาง และต่อมากลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย(กสพท.) ได้กำหนดให้ผู้มีสิทธิเข้าศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ต้องมีคะแนนโอเน็ตใน 5 วิชาหลัก (ภาษาไทย, สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม, วิทยาศาสตร์, คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ) ตั้งแต่ร้อยละ 60
โดยในปีการศึกษา 2554 มีการนำผลสอบโอเน็ต ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อชั้น ม.1, ม.4 และในปีการศึกษา 2555 จะมีการนำผลโอเน็ตไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบวัดผลก่อนจบการศึกษา (Exit Examination) ด้วย อีกทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กำหนดให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาใช้ผลสอบโอเน็ตเป็นเครื่องมือยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งระบบ พัฒนาผลสัมฤทธิด้านการศึกษาของผู้เรียนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ คะแนนสอบโอเน็ตสามารถนำไปใช้ในการทำนายผลคะแนนความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและการอ่าน จากผลทดสอบตามโครงการพิซ่า (PISA) ได้
"ผมมุ่งหวังและอยากให้โรงเรียนนำผลสอบโอเน็ตและอื่นๆ ไปประเมินคุณภาพการเรียนและปรับปรุงการเรียนการสอนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่ได้มาตรฐาน ให้ผู้บริหารนำไปใช้ประเมินเลื่อนขั้นครูผู้สอน ให้ผู้ปกครองนำไปประเมินสถานศึกษานั้นๆ ว่ามีคุณภาพมากน้อยเพียงใด หากสามารถทำได้จะทำให้คุณภาพการศึกษาโดยรวมดีขึ้น เพราะข้อสอบโอเน็ตนั้นยึดวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ตามหลักสูตร เนื้อหาออกตามหลักสูตร เป็นการวัดระดับความรู้ ความจำ การนำไปคิดวิเคราะห์ และประเมินค่าเพื่อสะท้อนผลการวัดระดับนั้นๆ" ผอ.สทศ. ระบุ
รวมทั้งนำผลการสอบวีเน็ต ไปพัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอนได้ แนะแนวให้แก่นักศึกษาแต่ละคนว่าควรที่จะเรียนต่อหรือออกไปทำงาน และที่สำคัญขณะนี้สถานประกอบการต่างๆ เริ่มให้ความสำคัญกับผลการสอบวีเน็ต ที่จะนำผลไปใช้ประกอบการคัดเลือกเข้าทำงานด้วย เพราะผลการสอบนี้เป็นการสอบระดับชาติ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่านักศึกษาที่จบออกมานั้นมีความรู้มากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับนักศึกษาอาชีวศึกษาจากทั่วประเทศ
ส่วนการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาด้านอิสลาม ช่วยพัฒนาองค์ความรู้ด้านการเรียนการสอนในอนาคต ทำให้เด็กรู้ขีดความสามารถด้านอิสลามของตน แม้ไม่มีผลชี้วัดต่อการเข้าสอบมหาวิทยาลัยโดยตรงแต่นำไปใช้สอบเข้าสถาบันการศึกษาที่มีการใช้ภาษาอาหรับ มลายู ได้
นอกจากนี้ สทศ.ยังเปิดรับสมัครทดสอบสมรรถนะครูทางด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อให้ได้มาตรฐาน หากครูผ่านการประเมิน 60% ขึ้นไปจะมีโอกาสได้ร่วมออกข้อสอบโอเน็ต ผลปรากฏว่าได้รับความสนใจ มีครูสมัครสอบมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าครูให้ความสนใจในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน ครูจะต้องปรับปรุงการวัดและประเมินผลนักเรียน โดยนำผลคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต มาปรับใช้ในการเรียนการสอน เพราะจะทำให้รู้ว่าทั้งนักเรียนและครูยังมีจุดอ่อนในเรื่องใด และจะทำให้การวัดและประเมินผลการเรียนมีมาตรฐานมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับครูที่มีอยู่ในระบบเกือบ 7 แสนคน จากโรงเรียน 3 หมื่นกว่าแห่ง ถือว่าเข้ารับการอบรมน้อยมาก ถือเป็นภารกิจเร่งด่วนที่สทศ.ต้องดำเนินการ เพราะจากการประเมินผลส่วนใหญ่ของครูอยู่ในระดับดีและดีมาก ซึ่งบางครั้งผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาอื่นๆไม่ได้วัดจากกระดาษคำตอบได้เสมอไป
"เป้าหมายของก้าวสู่ปีที่ 7 สทศ.เตรียมจัดทำธนาคารข้อสอบ (Item Bank) เพื่อก้าวไปสู่ระบบอี-เทสติ้ง มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อความพร้อมสำหรับยูเน็ต (University National Education Test : U-Net) คือการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ด้านอุดมศึกษา นอกจากนี้สทศ.ได้ส่งเสริมให้โรงเรียน สถานศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา นำแบบทดสอบโอเน็ตในอดีตไปพัฒนาให้เกิดเป็น Adaptive Testing เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการประเมินผลระหว่างเรียนและการประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนในห้องเรียน (Formative Assessment) ขอยืนยันว่า สทศ.มีระบบการผลิตเครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบได้มาตรฐาน มีระบบการจัดการที่โปร่งใส ยุติธรรม มีระบบการตรวจสอบ การประมวลผล และการรายงานที่รวดเร็ว ถูกต้อง และเชื่อถือได้" ผอ.สทศ. กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผอ.สทศ. ยอมรับว่าปัจจุบัน สทศ.มีการทดสอบผู้เรียนได้เฉพาะผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาเท่านั้น ขณะที่คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้สำเร็จการศึกษาด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านใฝ่รู้ใฝ่เรียน คุณธรรม จริยธรรม การคิดวิเคราะห์ ทักษะการทำงาน และการมีจิตใจร่าเริง เหล่านี้ไม่สามารถประเมินได้จากการสอบเสมอไป จึงต้องมีการหารูปแบบการประเมินที่หลากหลายเพิ่มขึ้นในอนาคต
.........................................
(7สทศ.จัดทำธนาคารข้อสอบ เพื่อก้าวสู่ระบบอีเทสติ้งยูเน็ต : โดย... หทัยรัตน์ ดีประเสริฐ )



