ไลฟ์สไตล์

เป้าหมาย'นาฑี'อยู่ที่ชัยชนะ

เป้าหมาย'นาฑี'อยู่ที่ชัยชนะ

01 ก.ย. 2555

เป้าหมาย 'นาฑี' อยู่ที่ชัยชนะ : ขอเวลานอก : โดย...เรื่อง / ศรีพร เหล่าวณิชยา : ภาพ / ฐานิส สุดโต / นาฑี โอสถานุเคราะห์

             ทุกครั้งที่ลงสนามผมจะคิดเสมอว่าผมต้องชนะเท่านั้น ไม่ใช่ความกดดัน แต่นั่นจะทำให้ผมทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ผลออกมาจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ ขอให้ผมได้ทำเต็มที่แล้วผมจะไม่เสียใจภายหลัง

              เมื่อ "เป้าหมายมีไว้พุ่งชน" ตามสโลแกนของเครื่องดื่มชูกำลังพะยี่ห้อดัง แต่สำหรับทายาทรุ่นที่ 5 ของค่ายโอสถสภานามว่า นาฑี โอสถานุเคราะห์ กลับมองว่า เป้าหมายของเขาคือ ชัยชนะ เช่นเดียวกับการแข่งขันในเกมกีฬาอย่างไรอย่างนั้น ไม่แปลกที่หนุ่มวัย 24 ปีผู้นี้จะชื่นชอบกีฬาฟาดแข้งกับลูกกลมๆ เช่นเดียวกับหนุ่มๆ ทั่วโลกต่างตกหลุมรัก...

              ความหลงใหลใน "ลูกหนัง" นี่เอง จึงทำให้ลูกชายคนโตของ คุณพ่อรัตน์ และ คุณแม่ชวาลี โอสถานุเคราะห์ ปลื้มเข้าเส้นจนต้องกลายเป็นนักสะสมเสื้อทีมนักเตะตัวยง ซึ่งเจ้าตัวกระซิบว่าตอนนี้มีเก็บสะสมเอาไว้ประมาณ 200 กว่าตัวเห็นจะได้ เรียกว่า ตามหามาครองในทุกแมทช์การแข่งขัน โดยเฉพาะทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุกปีจะต้องมีเสื้อตัวใหม่ไม่ว่าจะไปแข่งในฐานะทีมเหย้าหรือทีมเยือน เขาต้องหามาเก็บไว้เป็นคอลเลกชั่นประจำตู้ตลอด...

              "ตอนแรกๆ ผมไม่ชอบเล่นฟุตบอลเลย แต่พอไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 3 เขาบังคับให้เล่นกีฬาแล้วเพื่อนๆ ก็เล่นฟุตบอลกันหมด เลยเป็นสิ่งแรกที่ผมหลงรักระหว่างไปเรียน พอมีโอกาสได้ดูการแข่งขันทางโทรทัศน์ก็เหมือนซึมซับไปเรื่อยๆ พอได้เตะบอลกับคนอื่นถึงรู้ว่าเราสู้เขาได้เลยเริ่มรักฟุตบอล แมนฯ ยูไนเต็ด คือทีมโปรดของผม เพื่อนสนิททุกคนก็เชียร์ทีมนี้ ตอนนั้นชอบนักเตะ เดวิด เบ็คแฮม ชอบวิธีการเล่นของเขา เขาวิ่งไม่เร็วแต่แม่นมากในการส่งบอล พอชอบฟุตบอลมากๆ ผมเลยชอบสะสมเสื้อนักเตะ โดยเฉพาะแมนยูฯ มีเยอะสุดเพราะเชียร์มาตั้งแต่เด็กๆ นอกนั้นจะเป็นเสื้อทีมของอิตาลีซะเยอะ อย่างของแมนยูฯ ทุกปีเขาจะเปลี่ยนเสื้อ ผมจะตามซื้อตลอด ซึ่งผมจะซื้อของจริงติดเบอร์ติดชื่อนักเตะ แรกๆ ชอบซื้อมาแล้วติดชื่อตัวเอง แต่ตอนนี้จะติดชื่อนักเตะที่เก่งแต่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก เวลาใส่มาเตะบอลกับเพื่อนๆ เขาจะก็ทักกัน" ผู้บริหารฝึกหัดของ บริษัท โอสถสภา จำกัด เล่าเสียงใส

              ความโปรดปรานในเรื่องการสะสมเสื้อนักฟุตบอลใช่จะเดินไปซื้อเสื้อนักเตะมาเก็บไว้เท่านั้น ทว่า "หนุ่มนาฑี" ยังมีเสื้อพร้อมลายเซ็นนักเตะคนดัง ซึ่งเจ้าตัวใช้เวลาว่างหลังจากชั่วโมงการทำงานออกล่ายามที่บรรดานักเตะแข้งทองเดินทางมาเมืองไทย เสร็จสรรพก็จับเสื้อตัวโปรดจัดกรอบโชว์หราไว้ในห้องรับแขก ไล่นิ้วนับได้มากถึง 30 กว่าตัว...!!

              "ภูมิใจและเป็นสุขใจทุกครั้งที่มีโอกาสได้มองเสื้อเหล่านี้ เหมือนเป็นการสะสมความสุขใกล้ๆ ตัว ทุกครั้งที่ผมจะเลือกใส่เสื้อไปเตะบอลกับเพื่อนๆ ผมก็มีความสุขแล้ว เสื้อพวกนี้ซื้อมาผมจะใส่ตลอด นอกจากเสื้อที่มีลายเซ็นจะใส่กรอบไว้ เพราะกลัวลายเซ็นเลือนหายไป ถึงตัวผมจะใหญ่ขึ้นจนใส่ไม่ได้แต่ผมก็ไม่เคยให้ใคร นอกจากซื้อมาแล้วมันซ้ำกันหรือไซส์เล็กก็ส่งต่อให้น้องชายเพราะเขาตัวเล็กกว่า" นาฑี คุยด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม ขณะวอร์มร่างกายก่อนลงสนามเตะกับเพื่อนๆ ที่ อารีน่า เท็น ทองหล่อ 10

              เพราะความชอบฟุตบอลจึงไม่แปลกที่จะขอเกาะติดขอบสนามเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศการแข่งอย่างใกล้ชิด หนุ่มผิวเข้มบอกว่า การเชียร์แบบติดขอบสนามสนุกกว่าเชียร์ผ่านโทรทัศน์มากๆ แม้จะไม่สามารถย้อนกลับไปดูลูกสวยๆ ได้ แต่บรรยากาศของคนโดยรอบและการได้อยู่ใกล้นักเตะ กลับเพิ่มความสุขในการเชียร์แบบสุดๆ จึงต้องยอมลงทุนเข้าไปดูในสนามจริง

              "เสน่ห์ของฟุตบอลลูกกลมๆ อยู่ตรงที่เราไม่สามารถรู้เลยว่านาทีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เวลาเราดูบอลบางครั้งทีมที่แพ้อาจจะเป็นทีมที่เก่งกว่าก็ได้ และบางครั้งอาจจะทำให้ทีมรองกลับมาเป็นทีมที่ชนะก็ได้ เหมือนธุรกิจที่เราไม่สามารถรู้ได้ว่า ข้างหน้าต้องไปเจอกับอะไร แต่เราต้องสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และโลกที่เปลี่ยนไป ผมเป็นคนมีเป้าหมายแล้วผมจะต้องทำตามเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ ทุกครั้งที่ลงสนามผมจะคิดเสมอว่าผมต้องชนะเท่านั้น ไม่ใช่ความกดดันแต่นั่นจะทำให้ผมทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ผลออกมาจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ ขอให้ผมได้ทำเต็มที่แล้วผมจะไม่เสียใจภายหลัง" อนาคตผู้บริหาร โอสถสภา รุ่นที่ 5 แจง

               นับเป็นหนุ่มรุ่นใหม่ที่วางตารางการใช้ชีวิตเอาไว้อย่างลงตัว ด้วยวันจันทร์-ศุกร์หลังเสร็จสรรพจากการทำงาน จะต้องออกกำลังกายด้วยการวิ่งบนเครื่องวิ่งเป็นเวลา 30 นาที ระยะทาง 4 กิโลเมตรครึ่ง จากนั้นจะเป็นเวลาซ้อมดนตรี เพราะเป็นมือกีตาร์วงเก็ทสึโนวา แล้วจึงได้เวลาเข้านอน หากวันไหนวิ่งติดกัน 3-4 วันอาจสลับมาเตะบอลคนเดียวเพื่อเรียกเหงื่อ เพราะการออกกำลังกายนอกจากจะได้สุขภาพที่แข็งแรงแล้ว ยังเป็นการระบายความเครียดจากการทำงานอีกทางหนึ่ง มิฉะนั้นจะรู้สึกอึดอัดจนนอนไม่หลับ

              เบนเข็มมาคุยกันถึงเรื่องงาน ที่ตอนนี้กำลังเป็นพรีเซนเตอร์ให้แก่ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเอ็กซิท ควบคู่ไปกับการดำรงตำแหน่งผู้บริหารฝึกหัดของบริษัท โอสถสภา ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงของการเรียนรู้ระบบงานทุกขั้นตอน ตั้งแต่ฝ่ายขาย ฝ่ายบุคคล การตลาด โรงงาน ขั้นตอนการผลิตสินค้า ด้วยเจ้าตัวตั้งเป้าเอาไว้ว่า หากฝึกงานจบเมื่อไรจะขอปลีกตัวไปคว้าปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจอีกหนึ่งใบ

               "ความฝันของผมตอนนี้คือ อยากจะทำวงดนตรีให้ดีที่สุด ไม่สำเร็จเด่นดังไม่เป็นไร แต่ผมได้ทำตามฝันของตัวเอง ถึงอย่างไรผมก็ต้องทำงานที่บริษัทโอสถสภาเป็นหลักอยู่แล้ว หลังจากที่ผมได้เข้ามาสัมผัสงานเกือบทุกแผนก ผมพอจะมองเห็นว่าควรจะพัฒนาไปในรูปแบบไหน ใจผมอยากจะพาบริษัทก้าวสู่อินเตอร์มากกว่านี้ เพื่อรองรับตลาดอาเซียนที่กำลังจะมาถึง แต่ผมก็ไม่อยากจะทิ้งความเป็นครอบครัวของโอสถสภาไป

                พนักงานทุกคนเวลามาทำงานเขาจะรู้สึกเหมือนได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวที่สอง ผมอยากจะให้ความอบอุ่นตรงนี้คงอยู่ไปตลอด และอยากให้เขาภาคภูมิใจกับโอสถสภา ที่เป็นบริษัทของคนไทย ที่สามารถผงาดอยู่ในโลกของอาเซียน ค่อนข้างยาก แต่ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ถึงตอนนี้ผมจะยังคิดไม่ออกว่าจะปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบไหน แต่ผมก็พอจะมีไอเดียเอาไว้บ้าง อย่างไรเสียกว่าผมจะเข้ามาบริหารโลกก็เปลี่ยนแปลงไปอีก ถึงตอนนั้นคงต้องมาปรับไอเดียให้เข้ากับสถานการณ์กันอีกครั้ง" นาฑี กล่าวสรุป

.........................................
(เป้าหมาย 'นาฑี' อยู่ที่ชัยชนะ : ขอเวลานอก : โดย...เรื่อง / ศรีพร เหล่าวณิชยา : ภาพ / ฐานิส สุดโต / นาฑี โอสถานุเคราะห์ )