ไลฟ์สไตล์

ชาวนาตังร่วมสานตำนาน'ผ้าไหมไทย'

ชาวนาตังร่วมสานตำนาน'ผ้าไหมไทย'

15 ส.ค. 2555

ชาวนาตังร่วมสานตำนาน 'ผ้าไหมไทย' มรดกภูมิปัญญาสู่รางวัล 'นกยูงสีทอง' : โดย ... สุรัตน์ อัตตะ

                ผ้าไหมโฮลของกลุ่มมัดหมี่โฮลโบราณทอผ้าสีธรรมชาติแห่งบ้านนาตัง ต.เขวาสินรินทร์ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ได้ชื่อว่าสุดยอดผ้าไหมไทยที่เกิดจากจินตนาการของบรรพบุรุษที่เห็นธรรมชาติแล้วเกิดภูมิปัญญาคิดค้นลายผ้า เพื่อเป็นมงคลในการใช้ในงานพิธีมงคลต่างๆ จนสามารถคว้ารางวัลนกยูงสีทองมาได้ 3 ปีซ้อน 

 

                "โฮล แปลว่า ไหล เป็นชื่อที่เกิดจากจินตนาการของบรรพบุรุษที่เห็นธรรมชาติแล้วเกิดภูมิปัญญาคิดค้นลายผ้า ผ้านี้จะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด เช่น เส้นไหม ได้จากตัวหนอนไหม สีต่างๆ ได้จากธรรมชาติ ต้นไม้ ใบไม้ ครั่ง มะเกลือ ประโฮด คราม โดยสีสันที่ย้อมเส้นไหม เป็นสีที่แสดงเอกลักษณ์ของพื้นคือพื้นผ้าเป็นสีแดงเข้มที่ย้อมมาจากครั่ง เรียกว่าโฮลแดง เป็นการผสมผสานระหว่างลวดลายโบราณเพื่อให้เกิดลวดลายสวยงาม สวมใส่สบาย ใส่ได้ทุกโอกาส มีหลายรูปแบบ ทั้งทันสมัยและดั้งเดิม" 

                สุรโชติ ตามเจริญ ประธานกลุ่มมัดหมี่โฮลโบราณทอผ้าสีธรรมชาติ ย้อนอดีตความเป็นมาและแจงรายละเอียดต่อว่าทางกลุ่มยังได้ผลิตผ้าไหมลายโบราณที่นำมาสร้างขึ้นใหม่ โดยดูแบบลวดลายจากรูปภาพหรือผ้าเก่า ย้อมด้วยสีธรรมชาติแบบย้อนยุค เป็นผ้าชั้นสูง สมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนใหญ่เป็นผ้านุ่งของพวกขุนนาง ซึ่งทำแบบโบราณทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม สร้างลาย ย้อมสี จนถึงการทอ 

                "กว่าจะสำเร็จเป็นผ้า 1 ผืน จึงต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ปีหนึ่งๆ ได้ประมาณ 4-5 ชิ้นเท่านั้น ราคาขายจึงอยู่ที่ชิ้นละ 6 หมื่นบาท ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ยังได้นำผ้าดังกล่าวส่งเข้าประกวดตรานกยูงพระราชทานเป็นประจำทุกปี และที่ผ่านมาสามารถคว้ารางวัลนกยูงสีทองมาได้ 3 ปีซ้อน เนื่องจากที่นี่เป็นที่เดียวที่สามารถผลิตผ้าประเภทนี้ได้"

                อย่างไรก็ตาม นอกจากผ้าไหมโฮลแล้ว ทางกลุ่มยังมีผ้าไหมทอมือที่ขึ้นชื่ออีกหลายชนิด ทั้งผ้าขาวม้า ผ้ามัดหมี่ และผ้าพันคอ เป็นต้น สามารถสร้างรายได้หลักให้แก่สมาชิกทุกคนในกลุ่มได้เป็นอย่างดี สนใจผลิตภัณฑ์ของกลุ่มมัดหมี่โฮลโบราณฯ โทร.08-7241-4220 

                ด้าน ประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวระหว่างนำคณะกรรมการบริหาร สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย (สกท.) ลงพื้นที่เยี่ยมชมกิจกรรมของกลุ่ม โดยระบุว่าผ้าไหมไทยเป็นผลิตผลที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีความเป็นไทยผ่านกระบวนการผลิตของแต่ละท้องถิ่น ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นนั้นๆ ดังนั้นเพื่อมิให้เอกลักษณ์และภูมิปัญญาเหล่านี้สูญหายไป กรมจึงได้เข้ามาส่งเสริมและสนับสนุนงบประมาณในการจัดหาวัตถุดิบในการฟอกย้อม รวมทั้งควบคุมคุณภาพการผลิตในทุกขั้นตอนให้มีคุณภาพ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ตลอดจนสืบทอดงานศิลปะและหัตถกรรมอันทรงคุณค่านี้ไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมควบคู่กับประเทศไทยและคนรุ่นหลังต่อไป

                "อย่างกลุ่มมัดหมี่โฮลโบราณทอผ้าสีธรรมชาติ บ้านนาตัง ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังคงอนุรักษ์และรักษาเอกลักษณ์ของผ้าไหมโฮลโบราณ ซึ่งเป็นผ้าทอพื้นเมืองของ จ.สุรินทร์ และเป็นราชินีแห่งผ้าไหม ที่สืบทอดภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษมาสู่รุ่นลูกหลานเป็นระยะเวลาหลายร้อยปีแล้ว" อธิบดีกรมหม่อนไหมกล่าว

                นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน ด้วยการส่งเสริมและสืบสานภูมิปัญญาแห่งการสร้างสรรค์ผลงาน “ผ้าไหมไทย” ให้ดำรงอยู่ พร้อมกับพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้แก่คนไทย ตลอดจนสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยด้วย

 

 

--------------------

(ชาวนาตังร่วมสานตำนาน 'ผ้าไหมไทย' มรดกภูมิปัญญาสู่รางวัล 'นกยูงสีทอง' : โดย ... สุรัตน์ อัตตะ)