จากนิทานคลาสสิกสู่'นิยายแฟนตาซี' | คมชัดลึก

               ‘นิทาน’ มีมาช้านานตามกาล และเปลี่ยนผันตามสถานการณ์ต่างๆ กระนั้นทุกสิ่งในเรื่องเล่าเหล่านั้นหาได้แตกต่างไม่ แก่นความยังคงเดิม แต่เสริมเพียงองค์ประกอบให้มีสีสันตามยุคสมัย ทว่าเพราะมีเรื่องเหล่านั้นและสรรพสิ่งจึงได้ดำเนินเป็นไป...

               นั่นทำให้ สถาพรบุ๊คส์ ลุกขึ้นสร้างความแปลกใหม่อีกครั้ง โดยการนำเทพนิยายอมตะมาดัดแปลงเป็นวรรณกรรมแฟนตาซีถึง 4 เรื่อง 4 รส จากนักเขียนฝีมือดี 4 คน.

               นักเขียนที่ว่าคือ Hayashi Kisara, LadyBlack, Masato Yu และ Lymsleia ภายใต้ธีม รัก โลภ โกรธ หลง ในวังวนของกิเลสตัณหาอันเป็นที่มาของเรื่องราวต่างๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ตีความนิทานให้กลายเป็นนิยาย’ ตามสไตล์ Sataporn Fantasy นั่นเอง

               โดยดำเนินเรื่องด้วยนักเล่า นามว่า เมฟ ผู้รวบรวมเรื่องราว และเล่าขานต่อ กระทั่งมาสู่การขับเคลื่อนมนุษย์ด้วยเชื้อเพลิง นั่นก็คือ "กิเลส" ที่ทำให้เกิดเรื่องราวเหล่านั้นขึ้น

               พร้อมที่จะท่องโลกแห่งมหาแฟนตาซีรึยัง!!!

 

ดวงแก้วมายา Beauty and The Beast โดย Hayashi Kiasara

 

               “เพราะความรัก...นั้นน่าค้นหา”...เรื่องเริ่มจาก "อเมรี่" เด็กสาวรับใช้คนหนึ่งที่หลงรัก "เจริโอ" ท่านชายผู้เก็บตัวเพราะตามหาสิ่งของของมารดาที่หายไป เด็กสาวไปพบหมอดูที่บอกว่าหากต้องการสิ่งใดให้อธิษฐานต่อลูกแก้ว จนกระทั่งหญิงสาวชื่อ "เบล" มาตามหาพ่อที่คฤหาสน์ ซึ่งต้องคำสาปเช่นกัน เรื่องราวดำเนินมาจนถึงเจริโอเริ่มหลงรักเธอและยอมต้องคำสาปแทนพ่อของเธอ เบลกับอเมรี่จึงต้องออกเดินทางตามหา ‘เมฟ’ เพื่อปลดคำสาปในลูกแก้วนั้น ทว่าเมื่อลูกแก้วแตก...เจริโอก็กลับกลายร่างเป็น ‘อสูร’ และไล่ฆ่าคนในปราสาททีละคน

               สำหรับเรื่องนี้  Hayashi Kisara ค่อนข้างจะต้องคิดหลายอย่าง เพราะไม่ได้แต่งแนวแฟนตาซีเป็นหลัก และนิยายที่เขียนทุกเรื่องมีแบ็กกราวนด์อยู่ในญี่ปุ่นทั้งหมด ประกอบกับที่ไม่เคยรับงานโปรเจกท์ที่ทำกับคนอื่นแบบนี้  

               "ส่วนเหตุผลที่เลือกเรื่อง Beauty and the beast มา เพราะเป็นเรื่องที่ติดอยู่ในความทรงจำตั้งแต่ตอนเป็นเด็กที่สุด ตอนที่เลือกยังไม่ได้คิดเนื้อเรื่องหรืออะไรไว้เลย เลือกจากความชอบล้วนๆ แล้วมาคิดเนื้อเรื่องทีหลังค่ะ" 

 

เหรียญตราปรารถนา Sleeping Beauty โดย LadyBlack 

 

               “เพราะความโลภ...นั้นน่าขัน”...แพททริค เจ้าชายผู้หยิ่งทะนงถูกเนรเทศจากบ้านเกิดด้วยข้อหาทำร้ายผู้เป็นน้องต่างมารดาจนถึงขั้นสาหัส เขาเดินทางเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้พ่อเห็นว่าเป็นผู้ที่ควรครองราชย์ยิ่งกว่าน้องของตัวเองด้วยการไปตามหา ‘เจ้าหญิง’ ที่ต้องคำสาปจากแม่มดให้ถูกเข็มตำนิ้วและสลบไปตลอดกาล ระหว่างทาง เขาพบนักทำนายประหลาดที่ให้เหรียญตราเหรียญหนึ่งมา บอกว่าสามารถแก้คำสาปได้ แต่ต้องใช้ให้ผู้อื่นเท่านั้น แม้เจ้าชายจะเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ก็ออกเดินทางต่อ จนเจอเจ้าหญิงที่หลบมาอยู่ที่กระท่อมในป่า

               แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด...เมื่อเจ้าชายต้องคำสาป ‘ห้ามจุมพิต’ จากแม่มด!

               LadyBlack ผู้เขียนบอกว่า ธีมหลักของโครงการนี้เป็นการสะท้อนตัณหาของมนุษย์ผ่านเรื่องเล่าของ ‘Meph’ (เมฟ) โดยตัวเองได้โจทย์คือ ‘ความโลภ’ ดังนั้นในส่วนของพล็อตที่คิดไว้แต่แรกก็ต้องปรับเปลี่ยน เพื่อให้สอดคล้องกับการสะท้อนเรื่องความโลภให้เด่นชัดที่สุด

 

พันธนาการคมมีด Little Red Riding Hood โดย Masato Yu

 

               “เพราะความโกรธ...นั้นน่าประหวั่น”...วาลเลเรีย เด็กหญิงหมวกแดงเดินทางเร่ร่อนกับแม่จนมาถึงหมู่บ้านที่กำลังตกอยู่ในความหวาดกลัว เพราะเรื่อง ‘หมาป่าสีเงิน’ ที่ออกอาละวาด กลืนเปลวเพลิง และเกลียดชังสีแดง ชาวบ้านจึงขับไล่วาลเลเรียและแม่ของเธอทันทีที่มาถึง เด็กหญิงกับแม่จำต้องออกไปพักแรมในป่า ขณะเดียวกันทางเมืองหลวงส่งอาวุธมาให้ชาวบ้านล่าหมาป่า และเจ้าหมาป่าก็ประกาศก้องว่า ให้นำ ‘หนูน้อยหมวกแดง’ มาให้ได้ วาลเลเรียจึงจำต้องหิ้วตะกร้าไปหาหมาป่าเพื่อช่วยแม่ ซึ่งเบื้องหลังนั้นเองที่จะชี้ชัดว่า ‘ใครคือหมาป่า’ กันแน่

               ธีม ‘ความโกรธ’ นี้เองจึงทำให้ Masato Yu เลือกเรื่อง ‘หนูน้อยหมวกแดง’ ทั้งที่มันค่อนข้างจะตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง แต่ก็เป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผู้เขียนเกิดความคิดดีๆ ให้นักอ่านได้สนุกตาม  

 

ไม้ขีดนิรมิต Little Match Girl โดย Lymsleia  

 

               “เพราะความหลง...นั้นน่าเศร้าตรม”...ในคืนอันหนาวเหน็บวันคริสต์มาส ทุกครอบครัวล้วนมีความสุข แต่เด็กหญิงคนหนึ่งกลับต้องร่อนเร่ขายไม้ขีดไฟ ด้วยความหนาวเธอจึงนำไม้ขีดที่ขายมาจุดไฟ และสิ้นสติไปเพราะความหนาวเหน็บ เมื่อเด็กหญิงตื่นขึ้น เธอได้พบกับเด็กหญิงอีกคนซึ่งยื่นไม้ขีดที่บอกว่ามีคนฝากไว้ให้แก่เธอ มันคือไม้ขีดที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตได้เพียงแต่อธิษฐานขอ เด็กหญิงพอใจมาก และเริ่มหลงละเลิง จุดไม้ขีดขอพรต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ชีวิตดีขึ้นตามลำดับ

               ‘เด็กหญิง’ ที่ขอพรจาก ‘ไม้ขีดไฟ’ ไม่ทันคิดว่า...ไม่มีสิ่งใดได้มาโดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนกับสิ่งใด

               เรื่องนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ Lymsleia ต้องเขียนแบบมีเดทไลน์ ส่วนที่เลือกเรื่อง “The little match girl” เพราะไปสะดุดกับธีมเรื่องแบบสะท้อนสังคมเข้า นึกสงสารนางเอกของเรื่องนี้แล้วก็คิดต่อว่า จะเป็นยังไงถ้าเธอรอดมาได้ แต่นึกได้ว่า คนเราพอได้ของวิเศษมาก็จะ ‘หลง’ ไปกับอำนาจของมัน มองเป็นทางลัดง่ายๆ ในการแก้ปัญหาจนผิดใจกับเพื่อนคนสำคัญ  

 

               และทั้งหมดนี้ถือเป็นก้าวใหม่ของ 4 นักเขียนเช่นกัน ที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน ภายใต้โปรเจกท์ The Meph’s Tale

 

 

--------------------

(อมหมึก เคี้ยวกระดาษ : 'The Meph’s Tale'...ตีความนิทานคลาสสิก ให้กลายเป็น 'นิยายแฟนตาซี' : โดย ... ปลวกหวาน <[email protected]>)