
ดูนก...ที่แม่เรวา
ดูนก ... ที่แม่เรวา : คอลัมน์ชวนเที่ยว : โดย....เรื่อง // ภาพ : วิชญนันท์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ (http://www.oknation.net/blog/plains-wanderer)
ไม่นานมานี้ ผมได้ไปร่วมฟังงานสัมมนาวิชาการ "เรื่องโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์" (จัดโดยมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ที่ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน วันที่ 28 มิ.ย.55 ) ที่แม้จะ "วิชาการ" แต่ก็เมามันไปกับข้อมูลที่เข้มข้นจัดเต็ม ได้มาสัมผัสการรวมพลังของคนรัก(ษ์)ธรรมชาติที่ต่างตระหนักถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการต่อต้านโครงการข่มขืนป่าที่ทยอยถูกปลุกผีขึ้นมาไม่ยอมจบสิ้น
จนถึงตอนนี้มีข้อมูลมากมายที่ตอบคำถาม "ทำไมถึงต้องคัดค้านเขื่อนแม่วงก์?" ไว้ชัดเจนและเข้าถึงได้ไม่ยาก แต่ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ขนาดเล็กที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการ รวมถึงนก ดูเหมือนจะยังไม่มีเท่าที่ควร แม้ อช.แม่วงก์ จะป๊อปในวงการดูนกและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มานานนมแล้วก็ตาม
แต่ความป๊อปของแม่วงก์ในวงการดูนก ล้วนมาจากช่องเย็นและโมโกจู ซึ่งเป็นป่าดิบเขาและมีนกที่หาดูที่อื่นในเมืองไทยไม่ได้ แน่นอนว่า นกเงือกคอแดง นกภูหงอนพม่า และอะไรต่อมิอะไรที่เจอบนเขามันไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากการสร้างเขื่อนหรอก ยิ่งเอาชื่อสัตว์เหล่านี้มาเกี่ยวพันกับการค้านเขื่อน ยิ่งรังแต่จะปล่อยไก่ให้ฝ่ายสนับสนุนเขื่อนโต้กลับหน้าหงายเท่านั้น!!
ความจริงก็คือ มีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์มากมายที่มีแนวโน้มจะพบได้ในป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าไผ่ระดับต่ำ ในพื้นที่แถบแก่งลานนกยูง หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ที่ มว.4 (แม่เรวา) ที่บ้านของพวกมันจะต้องจมอยู่ใต้เขื่อนหากมีการสร้างจริงๆ เอาแค่นกก็มีเป็นสิบชนิดแล้ว ผมและพรรคพวกรวมทั้งหมด 4 หน่อเลยหมายมั่นปั้นมือ ชวนกันลงพื้นที่สำรวจดูบ้าง
ต้องออกตัวก่อนเลยว่าเป็นการไปเยือนหน่วยพิทักษ์อุทยานฯแม่เรวา แบบชิลๆ ไม่ได้ทำเรื่องขออนุญาตอะไรอย่างเป็นทางการ โดยใช้วิธีการสำรวจนกที่ถือเป็นมาตรฐานอย่าง Mackinnon Lists เพราะเป็นวิธีที่เหมาะกับการสำรวจนกป่า โดยเฉพาะในที่ที่ไม่เคยไป ที่ผู้สำรวจเองก็ไม่รู้ว่าเส้นทางเป็นอะไร ยังไง และที่สำคัญก็คือ สามารถสนุกกับการเสพธรรมชาติและสัตว์ป่าไปด้วยได้ สามารถหยุดถ่ายรูป หยุดดูนกนานๆ ในที่ที่เจอนกเยอะได้ ไม่ต้องไปเสียเวลาในที่ที่ดูยังไงๆ ก็ไม่ค่อยมีนก ข้อมูลก็ไม่ซับซ้อนเลยแม้แต่นิดเดียว
หลักการของมันก็คือ เริ่มจากกำหนดจำนวนชนิดนกสำหรับหนึ่งรายชื่อ (list) ขึ้นมา ปกติจะใช้ระหว่าง 10-20 ชนิดต่อรายชื่อ แล้วจดชื่อชนิดนกที่เจอหรือได้ยินเสียงไปเรื่อยๆ โดยมีข้อแม้ว่าใน 1 รายชื่อชนิดจะต้องไม่ซ้ำกัน พอครบก็เริ่มรายชื่อใหม่ ซึ่งคราวนี้จะสามารถจดชนิดที่เคยจดไปแล้วในรายชื่อก่อนหน้านี้ได้
ในที่นี้ผมใช้ 1 รายชื่อมีนกทั้งหมด 10 ชนิด จะเห็นว่านับชนิดซ้ำได้ก็ต่อเมื่อครบสิบแล้วเริ่มรายชื่อใหม่ แล้วก็เจอว่า ทั้งสามรายชื่อจะมีชื่อนกปรอดคอลายในทุกรายชื่อ ซึ่งก็แปลความได้ว่า นกปรอดคอลายเป็นชนิดที่พบชุกชุมที่สุด
และจากการออกสำรวจนกชนิดต่างๆ เลยลองทำเป็นกราฟให้ดูเล่นๆ แค่ 25 ชนิดที่เจอมากที่สุด สีฟ้าคือจำนวนรายชื่อที่พบนกชนิดนั้นๆ ในเส้นทาง หน่วยจัดการต้นน้ำ ที่ใช้วิธีขับรถไปเรื่อยๆ ช้าๆ เปิดกระจกเพื่อมองหาและฟังเสียง เจอนกเยอะๆ เมื่อไหร่ก็จอดดู ส่วนสีแดง (อมชมพู) สำหรับเส้นทาง มออีหืด ใช้วิธีเดินสำรวจ
ชนิดที่พบมากที่สุดในสองเส้นทางแบบนำโด่งมาเลยก็คือ นกจับแมลงจุกดำ Black-naped Monarch (Hypothymis azurea) รองลงมาเป็น นกแซงแซวหางบ่วงใหญ่ Greater Racket-tailed Drongo (Dicrurus paradiseus) นกจับแมลงอกส้มท้องขาว Tickell's Blue Flycatcher (Cyornis tickelliae) บลา บลา บลา... ตามลำดับ
ในแต่ละเส้นทางสำรวจ นกจับแมลงจุกดำซึ่งเป็นนกที่พบบ่อยสุด อยู่ใน 7 รายชื่อ (จากทั้งหมด 10) เท่ากันทั้งสองเส้น พูดง่ายๆ คือมีความชุกชุมเท่ากันทั้งสองเส้น ในขณะที่บางชนิดกลับสำรวจพบในเส้นทางเดียว เช่น นกเค้าโมง/นกเค้าแมว
แต่นักดูนกก็พึงระลึกไว้ว่า นกบางกลุ่มมีแนวโน้มที่จะถูกจดน้อยมาก นอกจากจะเห็นตัวยากแล้ว หลังฤดูกาลจับคู่อาจจะไม่ส่งเสียงร้องให้ได้ยินสักแอะ เช่น นกคัคคูหลายชนิดที่มีอยู่ในป่าแบบนี้แน่นอน อย่าง นกคัคคูพันธุ์อินเดีย และนกคัคคูลาย ที่จะได้ยินเสียงบ่อยมากและเห็นตัวได้ค่อนข้างบ่อยในช่วงหาคู่ แต่จะหายไปโดนสิ้นเชิงเมื่อฤดูกาลนั้นสิ้นสุดลง ยิ่งถ้าไม่รู้เสียงนกหรือไม่แม่นในการจำแนกชนิดนกบางกลุ่มด้วยแล้ว ข้อมูลจะยิ่งเพี้ยนกันไปใหญ่ เพราะลงท้ายจะมีแต่นกที่เห็นตัวและจำแนกได้ง่ายๆ
ทั้งสองเส้นมีสภาพป่าเป็นป่าเต็งรังบ้าง เบญจพรรณบ้าง สลับกันไป บางจุดมีไผ่ขึ้นหนาแน่นมากพอจะเรียกได้ว่าเป็นป่าไผ่
และแม้จะเป็นการมาเยือน เพื่อดูประชากรนกแถวแม่วงก์เพียงแค่บ่ายวันเสาร์ถึงสายๆ วันอาทิตย์ ก็มีรายชื่อนกทั้งหมดที่พบในบริเวณที่จะสร้างเขื่อน มีถึง 87 ชนิดเลยครับ แม้จะไม่เจอนกหายากระดับเทพที่เคยมีรายงานในป่าละแวกนี้อย่าง นกหัวขวานด่างหน้าผากเหลือง Yellow-crowned Woodpecker (Dendrocopos mahrattensis) หรือนกใกล้สูญพันธุ์ (ของไทย) อย่าง นกกระเต็นขาวดำใหญ่ Crested Kingfisher (Megaceryle lugubris) แม้กระทั่งนกใกล้สูญพันธุ์ระดับโลก (แต่ในเมืองไทยยังคงพบได้ไม่ยากในหลายพื้นที่) อย่างนกเงือกกรามช้างปากเรียบ Plain-pouched Hornbill (Rhyticeros subruficollis) และนกหัวขวานใหญ่สีเทา Great Slaty Woodpecker (Mulleripicus pulverulentus)
เสียดายว่า เวลานี้เป็นช่วงที่ไม่พบนกอพยพนอกฤดูผสมพันธุ์ หากเป็นช่วงอพยพ น่าจะมีโอกาสเจอนกใกล้สูญพันธุ์อย่าง นกจับแมลงอกสีน้ำตาลอ่อน Brown-chested Jungle Flycatcher (Cyornis brunneatus) ได้ด้วย
และที่พลาดไม่ได้ ขึ้นชื่อว่า แก่งนกยูง ที่หน่วยพิทักษ์ป่าแม่เรวา ที่แม้จะไม่ใช่บริเวณที่มีนกมาก แต่ก็มีโอกาสได้เห็น "นกยูงไทย" (Green Peafow) จำนวนหลายตัว อาศัยหากินตามธรรมชาติ ชาวบ้านแถวนั้นก็ยืนยันว่า เห็นนกยูงอาศัยอยู่บริเวณหน่วยแม่เรวามานานแล้ว
แม้ว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะมีการปล่อยนกยูงคืนสู่ธรรมชาติ ในพื้นที่บริเวณแก่งลานนกยูง ซึ่งในอดีตเคยเป็นแหล่งอาศัยของนกยูง แต่ได้สูญพันธุ์ไปจากบริเวณนี้ เนื่องจากถูกล่าและพื้นที่หากินลดลง
และแม้ส่วนหนึ่งจะมีต้นตอจะมาจากการเพาะเลี้ยง แต่นกยูงไทยที่แก่งลานนกยูง ก็สามารถ "เติบโต" และ "ขยายพันธุ์" อยู่ได้ในธรรมชาติ แถมยังมีนกยูงป่ามา "รวมฝูง" อยู่ด้วยกัน เกิดการ "ผสมพันธุ์" กันขึ้นมา จนมีฝูงนกยูงในธรรมชาติจำนวนหลายสิบตัว
นอกเหนือจากนกนานาชนิดที่พบเห็น ยังมีโอกาสเจอสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่อาศัยในป่าเต็งรัง รวมถึง งูปี่แก้วลายกระ ซึ่งเป็นงูหายากอีกชนิดหนึ่งด้วย
ทำให้เห็นได้ว่า ผืนป่าด้านล่างแถบหน่วยแม่เรวา มีความสมบูรณ์ในแบบฉบับของมัน และมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ ไม่ใช่ป่าเสื่อมโทรม หากมีโอกาสก็ไม่อยากให้พลาดการไปเดินเที่ยวชม ก่อนที่บ้านของนกและสัตว์นานาชนิดแถบนั้นอาจจะเปลี่ยนเป็นอ่างเก็บน้ำ และไม่มีเส้นทางให้เดินอีกต่อไป
............................................
(ดูนก ... ที่แม่เรวา : คอลัมน์ชวนเที่ยว : โดย....เรื่อง // ภาพ : วิชญนันท์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ (http://www.oknation.net/blog/plains-wanderer))