
เฮต้อนรับ'ลูกจิ้งจอกหูค้างคาว3ตัว'
เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เฮต้อนรับ "ลูกสุนัขจิ้งจอกหูค้างคาว" 3 ตัว เผยเป็นสัตว์ป่าหายากถิ่นกำเนิดในแอฟริกาใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 ก.ค. 55 ที่ห้องอาหารยีราฟ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้จัดการพื้นที่พิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้มีการแถลงข่าวต้อนรับสมาชิกใหม่สุนัข จิ้งจอกหูค้างคาว จำนวน 3 ตัว โดยมีนักท่องเที่ยวที่มารับประทานอาหารให้ความสนใจเข้ามาถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง
ดร.ศราวุฒิ เปิดเผยว่า ลูกสุนัขจิ้งจอกหูค้างคาวนี้เกิดใหม่จำนวน 3 ตัว เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นเพศผู้ 1 ตัวชื่อ "แสนสุข" และตัวเมียอีก 2 ตัว ชื่อ "หนูนาและหนูไร่" มีสุขภาพร่าง กายสมบูรณ์และแข็งแรงมาก สำหรับลูกสุนัขจิ้งจอกหูค้างคาวทั้งหมดนี้เกิดจากแม่หางหนูและพ่อหูหนู ซึ่งสมาชิกใหม่ทั้งสามตัวนี้ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อและแม่ด้วยวิธีธรรมชาติ ปัจจุบันเชียงใหม่ ไนท์ซาฟารีมีสัตว์พันธุ์ดังกล่าวจำนวน 9 ตัว เป็นตัวผู้ 3 ตัว และตัวเมียอีก 6 ตัว ตามปกติแล้วถือเป็นสัตว์ที่ออกลูกยาก
สำหรับจิ้งจอกสุนัขจิ้งจอกหูค้างคาวหรือ Bat-eared fox จัดเป้นสัตว์ป่าหายากอีกชนิดหนึ่งที่ไม่สามารถพบเห็นได้ตามป่าธรรมชาติในประเทศไทย เนื่องจากเป็นสัตว์ป่าที่มีถิ่นกำเนิดใน แถบแอฟริกาใต้ มีขนาดลำตัวเล็กวัดจากหัวถึงหางเพียงไม่เกิน 55 เซนติเมตร มีจุดเด่นที่ใบหูที่มีชนาดใหญ่และยาวถึง 13 เซนติเมตร ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียกถือเป็นแหล่งรวมของเส้นเลือดต่างๆ และช่วยระบายความร้อนได้ดี
รวมทั้งส่งผลให้ประสาทการรับฟังของสัตว์ชนิดนี้มีประสิทธิภาพดีเยี่ยมอีกด้วย รูปร่างภายนอกทั่วไปจะมีขนาดเล็ก มีนิสัยน่ารัก และขี้เล่น ซึ่งสุนัขจิ้งจอกหูค้างคาวจะจัดแสดงที่ส่วนแสดงวอล์คกิ้ง โซน (Walling Zone) ซึ่งเป็นบริการตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป หากนักท่องเที่ยวต้องการมาเที่ยวชมเฉพาะในส่วนดังกล่าวจะเสียค่าใช้จ่ายเพียง 50 บาทเท่านั้น