
เสียดาย...ไตรภูมิ
เสียดาย...ไตรภูมิ : คอลัมน์หัวใจไทย
วันก่อนไปนั่งฟัง คุณหญิงกุลทรัพย์ เกษแม่นกิจ ประธานกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ ในงานสัมมนาทางวิชาการ "คติไตรภูมิ : อิทธิพลต่อวิถีสังคมไทย" ได้ถอดใจความไตรภูมิกถาหรือไตรภูมิพระร่วง พระราชนิพนธ์ของพระมหาธรรมราชาที่ 1 ลิไทย ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นวรรณกรรมอาเซียนไว้อย่างน่าประทับใจ คุณหญิงบอกว่า ไตภูมิกถามีคุณค่าน่าสนใจหลายประเด็น 1.นับเป็นวรรณคดีทางพระพุทธศาสนาของไทยเรื่องแรกในสมัยสุโขทัยระหว่างปี 1782-1920
2.มีภาษาสำนวนโวหารไพเราะงดงาม พระมหาธรรมราชาที่ 1 ลิไทย ผู้ทรงพระนิพนธ์จะต้องปรีชาสามารถปราดเปรื่องมาก และจะต้องรู้พระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง รู้ภาษาเป็นหลักของนักปราชญ์รู้ความหมายของคำว่า หนึ่งกัทุชภาค คือ เขมร มคฆภาค สยามภาค จึงจะสามารถสร้างสรรค์วรรณคดีอันเป็นอมตะยอดเยี่ยมได้ ภาษาอันไพเราะในไตรภูมินั้นทำให้คนไทยรู้ว่าบรรพบุรุษอย่างพ่อขุนรามคำแหงของเราสร้างสรรค์ตัวอักษรไว้ถ่ายทอดวรรณคดี มีภาษาเขมร บาลี เป็นภาษาพื้นฐานในตำราต่างๆ ด้วย
3.ในโลกแห่งวรรณกรรมเมื่อ 700 กว่าปีมาแล้ว มีหนังสือเพียงไม่กี่เรื่องที่ทำบรรณานุกรม แต่พระมหาธรรมราชาที่ 1 ลิไทย ทันสมัยมาก ได้แสดงบรรณานุกรมด้วย ทั้งพระคัมภีร์ พระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีการวมกว่า 30 ชื่อ พร้อมกับจารึกนามนักปราชญ์สอนศาสนาที่เป็นครูอาจารย์ไว้ เพื่อแสดงความรำลึกถึงพระคุณครูอาจารย์ไว้ ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครรำลึกถึงคุณครูบาอาจารย์ เราดีแล้วเราก็บอกว่าเราดีเอง 4.ไตรภูมิมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อศิลปะของไทย งานสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจจากโครงสร้างและคำพรรณนาของไตรภูมิพระร่วง
5.ส่งเสริมคำสอนทางพระพุทธศาสนาเป็นรากฐานวัฒนธรรมทางจิตใจของคนไทย ไม่เพียงมีอิทธิพลการสร้างอุปนิสัยใจคอของประชาชนธรรมดา ยังมีอิทธิพลสร้างน้ำใสใจคอของชนชั้นปกครองของไทย จึงอยากให้ชนชั้นปกครองปัจจุบันอ่านไตรภูมิพระร่วงด้วย 6.ในสมัยสุโขทัยยังไม่มีพจนานุกรม สารานุกรม แต่พระมหาธรรมราชาที่ 1 ลิไทย ทรงมีวิริยอุตสาหะจากต้นฉบับหนังสือใบลานต่างๆ นำมาใช้พื้นฐานเรียบเรียงเขียนหนังสือไตรภูมิ
"ไตรภูมิในพระพุทธศาสนาจะสอนให้เราเชื่อด้วยตัวเอง โดยใช้เหตุผล จะให้ดีเราควรปลูกฝังปัญญาเห็นแจ้งด้วยศีล สมาธิ ปัญญา นับว่าบรรพบุรุษไทยฉลาดปราดเปรื่องมาก มีความสามารถล้ำเลิศด้านวรรณกรรม สังคมศาสตร์ ศาสนา ภาษาอย่างยอดยิ่ง แต่น่าเสียดายที่คนไทยโดยเฉพาะเยาวชนในยุคนี้ไม่สนใจวรรณกรรม ไม่สนใจอดีตของชาติ ทั้งที่เราตั้งประเทศมา 700 กว่าปีแล้วรุ่งเรืองด้วยศิลปวัฒนธรรมมากมาย คนในสมัยนี้ก็พูดกันแต่เรื่องประชาธิปไตยแต่ไม่เข้าใจประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ดังนั้น เราต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยนั้นคือการเคารพส่วนรวมไม่ใช่ส่วนตัว ต้องเห็นแก่คนอื่นไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแต่พวกพ้อง ไม่ยกตนข่มท่าน เคารพสิทธิของคนอื่น ไม่ใช่คลั่งอำนาจมวลชน ไตรภูมิพระร่วงสอนเรื่องนี้ชัดเจนเพราะเอาหลักศาสนามาพูด สอนให้คนรู้จักรากฐานของชีวิต เกิด แก่ เจ็บ ตาย การเกรงกลัวต่อบาป" ประธานกรรมการวรรณคดี กล่าว
....................................
(เสียดาย...ไตรภูมิ : คอลัมน์หัวใจไทย )



