
น้ำยางปนเปื้อนอันตรายนะ!
น้ำยางปนเปื้อน - อันตรายนะ! : คอลัมน์ บอกเล่าข่าวเกษตร : โดย ... ดลมนัส กาเจ
ในช่วงที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินได้ฟังข่าวเกี่ยวกับการใช้ "น้ำหมักชีวภาพ" มาแทน "กรดฟอร์มิก" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าน้ำกรด หยดใส่ลงในถ้วยน้ำยาง หรือถ้วยที่รองน้ำยางพาราที่แขวนติดอยู่กับต้นยางพาราเพื่อทำขี้ยาง และบางรายอาจใช้มาใส่น้ำหมักชีวภาพในภาชนะที่ใสน้ำยางเพื่อให้น้ำยางพาราแข็งตัวก่อนจะนำไปสูกระบวนการแปรรูปเป็นแท่ง หรือยางแผ่น เป็นต้น
การที่เกษตรกรชาวสวนยางพาราใช้น้ำหมักชีวภาพแทนกรดฟอร์มิก ไม่ได้มีเจตนาร้าย หรือเก่งแกมโกงครับ แต่เป็นเพราะเข้าใจผิด เพราะเห็นว่ามีนักวิชการด้านการศึกษาท่านหนึ่ง ซึ่งไม่อยากจะเอ่ยนามและสถาบัน ได้แนะนำ เป็นน้ำหมักชีวภาพที่แปรรูปมาจากผลไม้สุก โดยเฉพาะสับปะรด กล้วย มีรสเปรี้ยวจัดเหมือนกับรสของกรดฟอร์มิกที่ผสมน้ำ โดยให้เหตุผลว่าการใส่กรดฟอร์มิกหากกระเด็นถูกหน้ายางหรือต้นยางแล้วจะทำให้เปลือกแห้งหรือหน้ายางตายได้ ที่สำคัญการใช้น้ำหมักชีวภาพจะทำให้ขี้ยางไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่เป็นอันตรายต่อตัวเกษตรกร
ที่เลวร้ายกว่านี้ก็มีครับ อันนี้ไม่ใช่เพราะเข้าใจผิด แต่มีเกษตรกรที่มีเจตนาไม่ค่อยดี ที่พบอยู่แถวภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งพฤติกรรมลักษณะอย่างนี้เมื่อ 20-30 ปีก่อนก็เคยเห็นเหมือนกันแถวภาคใต้ นั่นคือเกษตรกรแอบใส่ของปนเปื้อนที่มีลักษณะคล้ายน้ำยางมาผสมในขี้ยาง
ที่พบเห็นกันมาก อาทิ แป้ง ปูนขาว ปูนซีเมนต์ ยิปซัม หนักไปกว่านั้นอีกคือ ใส่ขี้เปลือก ทราย หิน เศษยางใช้แล้ว หรือยางผสมสารเคมีที่เรียกยางตาย ยัดใส่ในยางก้อน แม้กระทั่งเกลือ เพื่อให้ขี้ยางมีน้ำหนัก แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือมหันตภัยอย่างใหญ่หลวง ที่เห็นชัดเจนคือส่งผลกระทบต่อสมบัติทางกายภาพของยางทั้งสิ้น
ก่อนหน้านั้น หน่วยงานภาครัฐก็ออกมาเตือนมาเป็นระยะครับ ที่เห็นก็คือ ปรีดิ์เปรม ทัศนกุล นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยยางสงขลา สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร ที่ยืนยันว่า ยางก้อนถ้วยที่จะนำไปผลิตเป็นยางแท่ง ซึ่งจะกระทบโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์ยางที่จะนำไปใช้ทั้งความยืดหยุ่น ความทนทานต่อการสึกหรอ ความทนต่อแรงดึง ความหนืดและการสะสมความร้อน เป็นต้น
ล่าสุด สุจินต์ แม้นเหมือน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร ก็ออกมาเตือนอีกครับ เพราะยังพบว่าแถวภาคอีสานมีเกษตรกร ยังเติมสารสกัดจากธรรมชาติลงไปในน้ำยางทดแทนการใช้กรดฟอร์มิกเพื่อช่วยในการจับตัวของยาง รวมถึงน้ำส้มควันไม้ ถือเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วง เพราะจะส่งผลกระทบต่อสมบัติทางกายภาพของยาง
ต่อไปอุตสาหกรรมยางไม่ยอมรับ เพราะน้ำหมักชีวภาพและน้ำส้มควันไม้ทำให้ยางจับตัวไม่เต็มที่และน้ำยางสกปรก เมื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง อันตราย เพราะค่าพีโอ (PO : Plastic Origin) ไม่ได้มาตรฐาน หากนำไปผลิตยางรถยนต์ มีโอกาสเสี่ยงสูงที่ยางล้ออาจเกิดการระเบิดได้
มองแล้วอันตรายอย่างยิ่งครับ ต่อไปหากประเทศคู่ค้า มีการตรวจพบแม้แค่เพียงไม่กี่ตัวอย่างที่พบว่ายางไทยไร้คุณภาพ ก็จะทำให้ประเทศคู่ค้าก็จะเล่นแง่ ไม่รับซื้อยางจากไทยหรือกดราคาก็เป็นไปได้สูงครับ
----------
(หมายเหตุ : น้ำยางปนเปื้อน - อันตรายนะ! : คอลัมน์ บอกเล่าข่าวเกษตร : โดย ... ดลมนัส กาเจ)
----------