ไลฟ์สไตล์

'สุชาติ'เรียกครูบดินทรฯแจงผลรับนร.

'สุชาติ'เรียกครูบดินทรฯแจงผลรับนร.

06 มิ.ย. 2555

'สุชาติ' เรียก'ครู รร.บดินทรฯ'รายงานผลการรับนักเรียนเข้าเรียนต่อรอบบ่าย 'กวีชาติย์'รับน๊อตหลุดหลัง'มงคลกิตติ์'ว่าไม่มีคุณภาพในการสอน ยัน'ครูบดินทรฯ'มีความพร้อมทุกคน ด้าน'มงคลกิตติ์'เมิน 20 โรงเรียนดังฟ้องหมิ่นประมาท

                 6 มิ.ย.55 ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเรียกครูโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) พร้อมด้วยนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มารายงานความคืบหน้ามาตรการรับรอบบ่ายเพื่อเยียวยานักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาฯ รวมถึงรายงานสถานการณ์ความวุ่นวายกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นของชาติ ( ภตช. )ได้นำกลุ่มนักเรียนเก่า โรงเรียนบดินทรเดชาฯ ประมาณ 50 คน ที่ยังตกค้างไม่มีที่เรียนมารายงานตัวเพื่อเข้าเรียนจนเกิดมีปากเสียงกับครูของ ร.ร. ว่า ได้เรียกอาจารย์ที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าพบ เพื่อขอบคุณที่ช่วยดูแลนักเรียนอย่างเต็มที่ และถือว่าอาจารย์คนดังกล่าวทำดีที่สุดแล้ว ส่วนกรณีที่ 20 โรงเรียนทยอยฟ้อง นายมงคลกิตติ์ นั้น ในความเห็นส่วนตัวเห็นว่าทุกคนจะต้องต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและเกียรติยศศักดิ์ศรี ซึ่งทั้ง 20 โรงเรียนก็ทำถูกต้องแล้ว ทุกคนต้องไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่ทำร้าย เหมือนประเทศที่เจริญ แต่ถ้าใครข่มขู่ทำร้ายแล้วเรายอม เราก็ต้องเป็นทาสเขา

                 ศ.ดร.สุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาในปีหน้านั้น มีนโยบายว่าจะขยายห้องเรียนชั้นม.4 และให้เปิดสอนภาคบ่าย หากไม่พอให้เปิดภาคค่ำ ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ อาจารย์ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่โรงเรียนต้องมีความพร้อม และต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของสพฐ. และยังคงต้องมีการสอบเข้าอยู่ แต่ที่ขยายห้องเพิ่มเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กต่างจังหวัดที่อยากเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาฯ ได้มีโอกาสเข้าเรียนด้วย และต่อไปโรงเรียนบดินเดชาฯจะมีเกือบทุกจังหวัด ส่วนกรณีนายสุวัฒน์ วิวัฒนานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชาฯ ลาออกจริงหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบ แต่ตนอยากให้นายสุวัฒน์ทำงานต่อ เพราะถือว่าเป็นคนมีผลงาน

                 นายชินภัทร กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกอาจารย์ที่อยู่ในเหตุการณ์มารายงานความคืบหน้าถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาทุกอย่างคลี่คลายไปหมดแล้ว โดยเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้ายที่ให้นักเรียนยื่นความประสงค์ที่จะเรียนต่อ ม.4 ในโรงเรียนบดินทรเดชาฯ รวม 52 คน ซึ่งเป็นนักเรียน ม.3 เดิมทั้งหมด โดยในปีการศึกษาหน้า จะผ่อนคลายกฎเกณฑ์การรับนักเรียน ม.4 โดยการเพิ่มที่นั่งในโรงเรียนดังมากขึ้น แต่ไม่ได้ความว่านักเรียนจะได้เรียนชั้นม.4 เดิมแบบอัตโนมัติ ซึ่งนักเรียนต้องมีเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำที่โรงเรียนกำหนดไว้ โดยจะประกาศให้ทราบก่อนหน้าการเปิดรับนักเรียน ซึ่งตัวนักเรียนเองจะต้องรับผิดชอบต่อผลการเรียนด้วย

                 สำหรับเด็กบดินทรเดชาฯ จำนวน 52 คน ที่เข้าเรียนไปแล้วนั้น ต่อจากนี้ไปเด็กต้องรับผิดชอบผลการเรียนด้วยตนเองให้ได้ หากเรียนได้คะแนนน้อยกว่าร้อยละ 50 ก็จะติด 0 และให้สอบแก้ตัวสองครั้ง โดยจะให้เรียนภาคบ่าย และวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 08.00 - 14.00 น. ทั้งนี้ยืนยันว่าครูโรงเรียนบดินทรเดชาฯ มีความพร้อมและมีศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนอย่างแน่นอน และจะไม่เลือกปฎิบัติ โดยในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ทางโรงเรียนจะเชิญผู้ปกครองนักเรียนที่เรียนรอบบ่ายมาชี้แจงรายละเอียดพร้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเรียนการสอนด้วย ซึ่งมั่นใจว่าเด็กกลุ่มนี้จะไม่มีปัญหากับเพื่อน เนื่องจากมีเพื่อนเก่าจากชั้น ม.3 เดิมค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามประเด็นของ นายสุวัฒน์ ยังยืนยันเช่นเดิมว่าไม่ได้มีการยื่นหนังสือลาออกเพราะที่ผ่านมานายสุวัฒน์ ก็ทำงานดีและร่วมแก้ปัญหามาด้วยกันตลอด

                 นายกวีชาติย์  จันทร์แพง ครูชำนาญการ โรงเรียนบดินทรเดชาฯ กล่าวว่า ยอมรับน๊อตหลุดที่นายมงคลกิตติ์มาว่า ครูโรงเรียนบดินทรเดชาฯไม่มีคุณภาพในการสอน โดยยืนยันว่าครูโรงเรียนบดินเดชาฯทุกคนมีความพร้อม ส่วนนักเรียนที่เข้าร่วมประท้วงและได้กลับเข้ามาเรียนใหม่นั้น ต้องเข้าใจสถานการณ์ เพราะที่ผ่านมาทางโรงเรียนพยายามเปิดรับและให้โอกาสนักเรียนทุกเรียนมาตั้งแต่แรก แต่มีคนไปยั่วยุ จนสถานการณ์เลยเถิดมาถึงขนาดนี้ แต่ก็มั่นใจว่านักเรียนจะเรียนร่วมกับเพื่อนได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะถึงอย่างไรนักเรียนก็เคยเรียนที่นี้มาถึง 3 ปี

                 นายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงกรณีโรงเรียนดัง 20 โรงเรียนจะยื่นฟ้องตนเองในข้อหาหมิ่นประมาท โดยระบุว่า นายมงคลกิตติ์ให้สัมภาษณ์ หมิ่นประมาณโรงเรียนรับแป๊ะเจี๊ยะ ว่า ต้องถามว่าทางโรงเรียนฟ้องถูกคนหรือไม่ เพราะตนเองไม่เคยพูดชื่อโรงเรียนสักโรงเรียน และเอกสารที่ยื่นให้หน่วยงานต่าง ๆ ตรวจสอบนั้น ก็เป็นเอกสารลับทางราชการ ที่เปิดเผยไม่ได้ ดังนั้นหากจะฟ้องก็ต้องไปฟ้องสื่อมวลชนที่ไปแอบถ่ายรายชื่อโรงเรียนและนำไปเผยแพร่

                 “ผมไม่กังวลใจ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นการต่อสู้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และหากใครอยากฟ้องผมอีกก็ขอให้ฟ้องมาได้เลย เพราะผมทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เชื่อว่าศาลต้องยกฟ้องอยู่แล้ว”นายมงคลกิตติ์ กล่าว