
ศิลป์แห่งแผ่นดิน : หลงลับแล
ศิลป์แห่งแผ่นดิน : หลงลับแล : โดย...ศักดิ์สิริ มีสมสืบ
บานประตูไม้แกะสลัก(บานคู่)อุโบสถวัด “ดอนสัก” ที่อำเภอลับแล เป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศ หนึ่งในบานประตูที่งดงามขั้นสูงสุดดุจสร้างขึ้นโดยเทพยดาหาใช่ฝีมือมนุษย์ไม่
อุโบสถหลังเล็ก ฐานโค้งทรงสำเภาแบบอยุธยา ด้านหน้าประตูอยู่ตรงกลาง ด้านหลัง ประตูคู่อยู่ซ้ายขวา ประตูด้านหน้าเป็นบานผลักคู่ ประตูไม้แกะสลักวัดดอนสักยังอยู่ในสภาพดี ร่องรอยกาลเวลายังปรากฏ
อุโบสถได้รับการบูรณะ สภาพแวดล้อมร่มรื่น ใปไม้หล่นกล่นเกลื่อนพื้น ไก่แจ้ขันเจื้อยแจ้ว ผมใช่เวลาเกือบชั่วโมง นิ่งแน่ว ดื่มด่ำ พิศมอง โดยไม่ลูบคลำ เข้าใกล้ ถ่อยห่าง ถ่ายภาพบรรจุไว้ในเมมโมรี่การ์ด และบันทึกไว้ในความทรงจำแห่งใจ เมืองลับแลเป็นเมืองเก่าแก่ แต่ครั้งโยนกนาคนคร รุ่งเรืองบนแผ่นดินล้านนา
นามหมู่บ้านนามวัดบ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ ตำนาน ตัวอักขระล้านนายังปรากฏเห็นบนแผ่นไม้และคัมภีร์ใบลาน บ้านเรือนไม้เก่าๆ ปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วไปทุกหมู่บ้านตำบล คนลับแลมีอยู่มีกิน ไม่ต้องอยากกระหายขายที่ดินให้นายทุนจากภายนอก
เมืองลับแลไม่ใช่ทางผ่าน ใครจะมาต้องตั้งใจมา ถนนสายสำคัญสิ้นสุดที่น้ำตกแม่พูล สายธารที่อุดมด้วยแร่ธาตุพิเศษ หล่อเลี้ยงดูแลพืชผลให้งอกงามสมบูรณ์ แลมีรสชาติวิเศษเลอล้ำ หลง หลิน ลับแลเป็นพยาน ลางสาดหวาน ยิ่งมังคุดยิ่งสุดบรรยาย ทุเรียนหมอนทอง ลับแลไม่แพ้หมอนทองที่ไหนๆ กระทั้งมะขามหวานก็เป็นเลิศเป็นต้นกำเนิด ตำนานมะขามหวานเพชรบูรณ์ สับปะรดห้วยมุ่นถือเป็นสับปะรดเทวดาหวานชื่นฉ่ำล้ำโลกา หาไม่ได้ในสามโลก นี่ไม่ได้ “เว่อร์”
หากมาลับแลหน้าทุเรียนท่านจะได้พบเจอความมหัศจรรย์แห่งการเก็บผล ทุเรียนภูเขาสูงชะลูด ขึ้นอยู่ทั่วไปตามที่ลาดชัน ให้ผู้ชำนาญเท่านั้นขึ้นปีนป่ายขึ้นไปปลิดด้วยมีดขอ กระชากขั้ว แล้วโยนลงให้คนข้างล่างใช้กระสอบรับ ผลที่ไกลมือก็ใช้ด้ามต่อมีดตะขอ ขั้นต่อไปคือการลำเลียงด้วยรถมอเตอร์ไซค์ที่ต่อเติม ให้บรรทุกทุเรียนได้เที่ยวละเป็นร้อย มีบางพื้นที่ขนส่งทุเรียนด้วยเข่งใหญ่ไปตามสายลวดลำเลียง จากยอดเขาสู่พื้นล่าง ช่างน่าทึ่ง น่านับถือ ตลาดกลางผลไม้ก่ายกองเป็นภูเขาเลากา ทุเรียนนับหมื่นแสน ส่งกลิ่นหอมตรลบอบอวลไปทั้งผืนฟ้า
ผมเป็นคนชอบกินทุเรียน ถ้ากินเองรู้สึกหอม ถ้าดูคนอื่นกินจะรู้สึกเหม็น วันนั้นผมกินทุเรียนไป 2 ผล ทั้งหลง และหลิน กินคนเดียวครับ
เที่ยวชมวัด 6 - 7 แห่ง วัดดอนสัก วัดดอยมูล วัดหัวดง ที่ประทับใจคือ “วัดผักราก” วัดเก่าแก่ที่มีอุโบสถเครื่องบนไม้แสนงาม วิหารอิฐถือปูนที่มีรูปทรงเฉพาะพิเศษ ผมไม่มีความรู้พอจะพรรณนาได้ คงต้องสืบค้นข้อมูลตามในภายหลัง ลงรูปให้ท่านดูชมไปพลางๆ ก่อน ผมประหลาดใจรูปปั้นสิงห์ 4 ตัว ที่แอบซ่อนอยู่เคียงเสา แทนที่จะออกมายืนเฝ้าอยู่ด้านหน้า
ผมสัญญาว่าจะกลับมาเยือนเมืองลับแลดินแดนแห่งการไม่พูดโกหกอีกครั้งในเร็วๆ นี้ ฝากคำขอบคุณใบตามสายลมถึง “ม่อนลับแล” สำหรับน้ำจิตน้ำใจที่แสนอบอุ่น ผมแต่งเพลงรำลึกลับแลเสร็จแล้วหนึ่งเพลง รอเวลาเรียบเรียงดนตรี มีจังหวะจะได้เข้าห้องบันทึกเสียง ด้วยข้อมูลที่ได้รับพร้อมความประทับใจในลับแล เชื่อว่าเพลงดีๆ จะบังเกิด ผมรู้สึกถึงความไพเราะ ตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งแล้วครับ
---------------------------
(ศิลป์แห่งแผ่นดิน : หลงลับแล : โดย...ศักดิ์สิริ มีสมสืบ)