
ไปวังน้ำเขียว เที่ยวบุไทร
ไปวังน้ำเขียว เที่ยวบุไทร : คอลัมน์ถิ่นไทยงาม
ฝนมาแบบนี้ หลายคนสงสัย พร้อมกับคำถามที่ตามมา ... ไปทำไมวังน้ำเขียว? เที่ยวหน้าหนาวดีกว่ามั้ง?
สารพัดคำถาม แต่คำตอบเดียวที่อยากบอกคือ "ที่นี่เที่ยวได้ทุกฤดูกาลจริงๆ" เพราะการเดินทางสะดวกสบาย รถทุกชนิดเข้าถึง แถมอากาศดีตลอดปี ยิ่งหน้าฝนที่คนเที่ยวกันน้อยๆ ที่นี่ยิ่งเดินทางสบาย รถไม่ติด แถมที่พักมีให้เลือกเยอะแยะ
หมุนไป หมุนมา กับคำว่ารีสอร์ทที่มีปัญหาเรื่องที่มาชอบกล ถามเจ้าหน้าที่เลยได้ความว่า ยังมีที่ถูกต้องอีกเยอะ รีสอร์ทฮิพๆ ริมทาง 304 ที่อยู่นอกเขตอุทยาน มีเอกสารสิทธิถูกต้อง หรือพักในอุทยานแห่งชาติทับลาน ทั้งหน่วยใหญ่ หรือหน่วยย่อยที่มีลานกางเต็นท์ ไม่ว่าจะเป็นที่หน่วยย่อย 11 (ผาเก็บตะวัน) หรือหน่วยย่อย 13 (น้ำตกสวนฮ้อม)
ขณะเดียวกัน ก็มีอีกทางเลือกที่น่าสนใจ "โฮมสเตย์" อย่าเพิ่งส่ายหน้าแล้วกัน เพราะโฮมสเตย์ที่ว่านี้ ชื่อ "บุไทรโฮมสเตย์" ที่ไม่ได้สร้างบ้านมารองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ หากแต่เป็นโฮมสเตย์ที่ไปพักกับเจ้าของบ้าน กินอยู่ด้วยกันสมกับความหมายของคำคำนี้
จากถนนหลักสาย 304 แยกเข้าหมู่บ้านไทยสามัคคี ตรงเข้าไปเรื่อยๆ จะเห็นซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านขนาดใหญ่ ฝั่งซ้ายมือ "หมู่บ้านอยู่เย็นเป็นสุข" เลี้ยวเข้าไปตามทางมีป้ายบอกเป็นระยะ "บุไทรโฮมสเตย์ ศูนย์อนุรักษ์ต้นน้ำมูล"
ลุงอินทร์ มูลพิมาย ผู้ริเริ่มโครงการ บุไทรโฮมสเตย์ เล่าว่าที่ดินแถวนี้เป็น สปก. แต่เดิมชาวบ้านมาอยู่กันตั้งแต่ปี 2500 ต่อมาก็ประกาศ สปก.ปี 2524 แล้วป่าไม้ก็มาประกาศทับที่ทำกินเมื่อปี 2531 หลังจากอพยพชาวบ้านออกมาจากบริเวณเขาแคบในปี 2530 ก็มาจัดทำแนวเขตอุทยานฯ ซึ่งผู้นำหมู่บ้านกับเจ้าหน้าที่รัฐก็ช่วยกันชี้จุด ยังดีที่ชาวบ้านบุไทรรอดพ้นปัญหาเรื่องที่ดินไปเพราะมี สปก. แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆ ก็คือที่ที่มีแค่เอกสาร ภบท.5
ก่อนจะมาเป็นโฮมสเตย์ในทุกวันนี้ ก็เริ่มมาจากการรวมกลุ่มกัน เป็นกลุ่มอนุรักษ์ก่อน ซึ่งมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชให้การสนับสนุน จัดเป็นเครือข่ายของอำเภอวังน้ำเขียว มีทั้งหมด 5 หมู่บ้านที่มาเป็นเครือข่าย ซึ่งสำรวจดูแล้ว ตรงนี้เป็นต้นน้ำมูล มีการใช้สารเคมีกันมาก เลยอยากให้ลดละเลิก หันมาใชีชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชผักปลอดสาร ลดละ เลิกการใช้สารเคมี และพึ่งพาตัวเองให้มาก ตอนนี้ทำได้แล้ว แม้ว่าการเปลี่ยนวิธีคิดของชุมชนยาก แต่ก็ค่อยๆ ทำไปทีละนิด แล้วก็ชวนกันปลูกป่า จนได้รางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลของมูลนิธิลูกโลกสีเขียว
ปัจจุบัน ก็หันมาทำโฮมสเตย์เป็นเหมือนรายได้เสริม ภายใต้การสนับสนุนทางวิชาการของโครงการพัฒนาการท่องเที่ยว ต.ไทยสามัคคี, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และโครงการให้การรับรองคุณภาพสถานประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว พอจัดตั้งโฮมสเตย์ในปี 2546 ส่งเข้าประกวดของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ได้รางวัลเลย และก็ได้รางวัลมาทุกครั้งที่ประกาศ และยังจัดเป็น 1 ใน 5 โฮมสเตย์ต้นแบบอีกด้วย
บ้านพักของบุไทรโฮมสเตย์ มีทั้งบ้านไม้ทั้งหลัง บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ หรือบ้านปูนทั้งหลัง แถมแต่ละบ้านก็มีเอกลักษณ์ของมันเองตามลักษณะเจ้าของบ้านและอาชีพ
มานอนโฮมสเตย์แล้ว ยังเยี่ยมชมหมู่บ้านดูการทำมาหากินได้อีกด้วย ทั้งโรงเพาะเห็ด สวนผลไม้ กรีดยาง ทำขนม อบสมุนไพร หรือจะไปนอนนิ่งๆ อยู่เฉยๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ก็ยังได้ เรียกว่าอยากดูอะไรที่หมู่บ้านนี้มีให้เลือกสรรในราคาประหยัด ถ้าให้ดีก็ควรติดต่อล่วงหน้า แต่ยามนี้ ลุงอินทร์บอกว่า ได้รับผลกระทบเยอะจากปัญหารีสอร์ทและที่ดิน แถมเป็นช่วงหน้าฝนอีกด้วย บ้านพักเลยว่างพร้อมต้อนรับเสมอ
วังน้ำเขียว ใครว่าเที่ยวได้เฉพาะหน้าหนาว
(หมายเหตุ : เบอร์ติดต่อลุงอินทร์ 08-1068-3887, 08-5025-8447 )
........................................
(ไปวังน้ำเขียว เที่ยวบุไทร : คอลัมน์ถิ่นไทยงาม )