
มุ่งเป้าธุรกิจ'อ้อย-น้ำตาล'ครบวงจร
มุ่งเป้าธุรกิจ 'อ้อย-น้ำตาล' ครบวงจร อีกก้าวกลุ่มพรรณธิอรสู่ภาคเกษตร : โดย ... สุรัตน์ อัตตะ
"ผืนดิน น้ำ ฝน สายลม แสงแดด ล้วนเป็นของขวัญจากธรรมชาติ เมื่อเรานำการบริหารจัดการและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้พัฒนาก็จะบังเกิดประโยชน์"
คำกล่าวของ เจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการกลุ่มพรรณธิอร ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ธุรกิจหลักเครือที.ซี.ซี. ที่ปัจจุบันได้ส่งไม้ต่อให้ลูกชายคนสุดท้อง "ปณต สิริวัฒนภักดี" เป็นผู้รับผิดชอบอย่างเต็มตัว โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาพืชเศรษฐกิจหลักที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศและภูมิภาคตั้งแต่การเพาะปลูก การแปรรูปเบื้องต้น อุตสาหกรรมการเกษตร ไปจนถึงการตลาดและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นอุตสาหกรรมการเกษตรแบบครบวงจร ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการในพืชเศรษฐกิจหลัก 7 ชนิด ประกอบด้วย ข้าว อ้อย ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สับปะรดและกาแฟ
"กลุ่มพรรณธิอร เรามีนโยบายการลงทุนที่ชัดเจน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล 5 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงของการส่งเสริมการปลูก แต่ปีนี้เรามีโรงงานน้ำตาลโรงแรกที่สุโขทัย มีโรงงานสับปะรดที่ชลบุรี มีการพัฒนาอย่างครบวงจรในพืชเศรษฐกจิที่เรามีอยู่ เฉพาะ 2 ปีที่ผ่านมาลงทุนไปประมาณ 6,000 กว่าล้านในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล"
ปณต ผู้บริหารกลุ่มพรรณธิอร เผยข้อมูลระหว่างการแถลงข่าวในงานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตร หรือ Horti Asia 2012 ระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนานาชาติไบเทค กรุงเทพฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ในการเป็นผู้นำด้านการผลิตทางการเกษตรสู่ตลาดโลกของประเทศไทย
โดยเฉพาะอ้อยปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกกว่า 2 แสนไร่ ที่จ.สุโขทัย โดยใช้ระบบน้ำหยดทั้งบนดินและใต้ดิน ผลผลิตที่ได้จะส่งให้โรงงานน้ำตาลหลักของบริษัททั้ง 3 โรงอยู่ที่ จ.สุโขทัย กำแพงเพชร และสุพรรณบุรี ภายใน 2 ปีจะขยายการลงทุนอีก 4-5 พันล้าน ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 144,000 ตันอ้อยต่อวัน ผลิตน้ำตาลออกสู่ตลาดภายใต้ชื่อ "คริสตอลลา" โดยใช้ระบบการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน มีการนำกากอ้อยมาผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในโรงงานและกระแสไฟฟ้าที่เหลือใช้ก็จะจำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ส่วนปาล์มน้ำมันได้ร่วมกับกลุ่มทุนท้องถิ่นในกัมพูชาขยายพื้นที่ปลูกมากกว่า 125,000 ไร่ที่เกาะกง ได้ผลผลิตเป็นผลปาล์มสดกว่า 1 แสนตันต่อปีและน้ำมันปาล์มดิบกว่า 2 หมื่นตันต่อปี โดยผลผลิตทั้งหมดจะส่งออกเป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ โดยผ่านทางท่าเรือทางทะเลและท่าเรือแม่น้ำของบริษัท เช่นเดียวกับกาแฟ ซึ่งบริษัทได้ขยายการลงทุนใน สปป.ลาว และขณะนี้มีพื้นที่ปลูกกาแฟสายพันธุ์อราบิก้าประมาณ 1.5 หมื่นไร่บนที่ราบสุงโบโลเวน เมืองปากซอง ที่ใช้การเก็บเกี่ยวด้วยมือเท่านั้น
"สำหรับสับปะรดจะเป็นในลักษณะคอนแทรคฟาร์มมิ่ง ที่ชลบุรีเรามีพื้นที่ปลูกกว่า 1.2 หมื่นไร่ และส่งเสริมร่วมกับชาวไร่อีกกว่า 1,000 รายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเน้นขยายพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า แต่จากนี้เป็นต้นไปจะเน้นอุตสาหกรรมแปรรูปมากขึ้น เนื่องจากพืชเศรษฐกิจหลักที่เราได้ลงทุนไปเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมาก็เริ่มให้ผลผลิตแล้ว" ผู้บริหารกลุ่มพรรณธิอร กล่าวและว่าในปี 2554 ที่ผ่านมา กลุ่มพรรณธิอรมีรายได้เฉลี่ยรวมจากพืชเศรษฐกิจทุกตัวประมาณ 2 หมื่นกว่าล้านบาท
นับเป็นอีกก้าวของกลุ่มพรรณธิอรในการดำเนินธุรกิจด้านการเกษตรแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยมีเป้าหมายหลักสำคัญสู่เป็นผู้นำภาคอุตสาหกรรมการเกษตรครบวงจรในภูมิภาคต่อไป
----------
(หมายเหตุ : มุ่งเป้าธุรกิจ 'อ้อย-น้ำตาล' ครบวงจร อีกก้าวกลุ่มพรรณธิอรสู่ภาคเกษตร : โดย ... สุรัตน์ อัตตะ)
----------