ความแม่นของ'ม้าทรง'แห่งศาลเจ้าถี่กงตั๋ว

                    เกิดเป็นคนไทย มีใครบ้างไม่เคยฟังเรื่องไม่น่าเชื่อ...พลังวิญญาณ...ตายแล้วเกิดใหม่...คนไปเที่ยวนรก...ร่างทรง...ทางใต้นิยมเรียกว่า ม้าทรง กับการบอกเล่าว่า ทรงพระของเก๊ก็เยอะ

                     ตั้งแต่จำความได้ผู้เขียนจำได้ว่า ไม่เคยมีข่าวแผ่นดินไหวที่ภูเก็ต แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว ระหว่างวันที่ 16-20 เมษายน ที่ผ่านมา ดังที่เป็นข่าวใหญ่ ความแรงแค่ 3.2-4 ริกเตอร์เอง

                     ก็ต้องบอกว่า ตั้งแต่ปลายปี 2552 ถึงต้นปี 2555 เป็นช่วงที่ผู้เขียนบินลงไปเก็บข้อมูลเรื่องทำเนียบศาลเจ้าฮกเกี้ยนทั่วไทย โดยเฉพาะที่ภูเก็ตก็ไปเป็นสิบครั้ง ทุกครั้งจะมีคนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแล พาไปเก็บข้อมูลตามศาลเจ้าตามคำขอ ในระหว่างวันที่ 17-19 พฤษภาคม 2554 ผู้เขียนบินลงไปเก็บข้อมูลตามเคย แต่ครั้งนี้เจ้าถิ่นที่ไปรบกวนคือ คุณสุนัย จันทโรภาสกร บอกผู้เขียนว่า

                     “พี่จิตราครับ มีศาลเจ้าอายุ 100 ปี ชื่อ ศาลเจ้าถี่กงตั๋วกำลังจะถูกทุบทิ้ง นี่เป็นศาลเจ้าอายุ 100 ปีที่เหลืออยู่เป็นที่สุดท้ายของภูเก็ตแล้ว น่าเสียดายมากเลย”

                     คุณขา...จิตราก็เสียดายเหมือนกัน ด้วยความอินก็รีบบอกให้คุณสุนัยพาไปที่ศาลเจ้าดังกล่าว จึงได้พบว่าศาลเจ้าถี่กงตั๋วนี้ คือศาลเจ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ มีขนาดหลังเล็กๆ สร้างเรียบๆ แต่โก้ด้วยศิลปะแบบจีนฮกเกี้ยน ดูแล้วเห็นถึงความเก่าแก่ขรึมขลัง ทำไมจะทุบเสียล่ะ ไม่เสียดายหรือ

                     ปรากฏว่า ผู้ดูแลศาลเจ้าชื่อคุณอาศิส เทพบุตร ก็เล่าเรื่องพระ(ซึ่งคนภูเก็ตหมายถึงม้าทรง)ว่าพระสั่งให้ทุบทิ้ง แล้วสร้างใหม่

                     เมื่อถูกผู้เขียนตื๊อมากๆ เข้า คุณอาศิสก็บอกว่า ต้องไปคุยกับพี่ชายชื่อคุณธัชพล เทพบุตร ซึ่งเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ....วันทีกงแซ คือวันเกิดเง็กเซียนฮ่องเต้ วันเกิดของท่านคือวันที่ 9 เดือน 1 ของจีน ปี 2554 ที่ผ่านมา ตรงกับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ มีการทรงเจ้าตามธรรมเนียม พระได้บอกว่า ภูเก็ตจะมีแผ่นดินไหว ถ้าไหวถึง 3 ริกเตอร์ ศาลเจ้านี้จะถล่มเป็นอันตรายมาก ต้องทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่

                     คุณธัชพลก็เก่งกล้าสามารถหนอ แค่จากเดือนกุมภา ได้มาคุยกับผู้เขียนปลายเดือนพฤษภาก็มีแบบศาลเจ้าหลังใหม่ที่จะจัดสร้างแล้ว ผู้เขียนก็ยื้อไปยื้อมาอยู่หลายเดือน จนพบว่าเดี๋ยวนี้มีการดีดยกศาลเจ้าได้ ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง ช่วงน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ ผู้เขียนจึงหนีน้ำลงไปภูเก็ต แถมจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเป็นการส่วนตัว หนีบเอาตัววิศวกรลงไปดูศาลเจ้าถี่กงตั๋วแห่งนี้ด้วย เพื่อดูหน้างานและให้ข้อมูลว่าทำได้อย่างไร ผู้เขียนจึงบอกว่า กรุณาเอาข้อมูลใหม่ๆ ทางเทคโนโลยีให้พระดูด้วยว่า ลากย้ายออกไปยังได้เลย ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นจิตราจะช่วยหางบให้

                     ทางศาลเจ้าถี่กงตั๋วจึงมีการทรงพระกัน เอาข้อมูลการยกย้ายศาลเจ้าได้ให้พระดู ก็สรุปว่า ให้เก็บศาลเจ้าหลังเก่าได้ แต่ต้องยกให้สูงเพิ่มอีก 1 เมตร ลากให้ห่างออกไปอย่างน้อย 20 เมตร และต้องพ้นแนวรัศมีศาลเจ้าหลังใหม่ และต้องกลับหน้ากลับหลัง จนบัดนี้ก็ใกล้เสร็จแล้ว โดยมีเรื่องไม่น่าเชื่อ 2 เรื่องคือ

                     ในวันต่อมาของการเข้าทรงพระขอเก็บศาลเจ้าหลังเก่าช่วงปลายปี 2554 ทุกคนที่อยู่ในที่ทรงพระ 4 คน ไม่สบายพร้อมกันทั้งหมด รวมถึงคนในครอบครัวแม้ว่าจะอยู่ในสถานที่อันห่างไกลออกไปคือ ครอบครัวคุณธัชพล ทั้งตัวเองและภรรยาไม่สบายเป็นไข้หวัด พร้อมลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ที่อังกฤษ และลูกชายที่กำลังเรียนอยู่ที่สิงคโปร์

                     แต่ที่น่าอัศจรรย์คือ หลังเกิดแผ่นดินไหวที่ภูเก็ตครั้งที่ 2 ผู้เขียนจึงโทรหาคุณธัชพลว่า จำได้หรือเปล่าเรื่องที่พระบอกว่า ถ้าภูเก็ตเกิดมีแผ่นดินไหว แค่ 3 ริกเตอร์ ศาลเจ้าก็อาจถล่มได้
 คุณธัชพลบอกว่า ผมลืมไปแล้วถ้าพี่ไม่พูดขึ้นมา ว่าแล้วก็เอารถเข้าไปดูที่ศาลเจ้า พร้อมโทรกลับมาบอกเสียงตื่นเต้นว่า “พี่ครับ ศาลเจ้าร้าวทั้งหลังเลย ตอนนี้ผมต้องรีบให้ช่าง(ของวิศวกรที่มายกย้ายศาลเจ้า) ช่วยกันเอาลวดสลิงมัดรอบศาลเจ้า กลัวมันทลายลง"

                     จิตราบอกคำเดียวว่า ส่งรูปมาให้ดูด่วน ก็ตามที่ลงให้ดูนี่แหละว่า ทรงพระของศาลเจ้าถี่กงตั๋วแห่งนี้ เข้าข่ายว่า...แม่นไหม

 
..................................
(ความแม่นของ'ม้าทรง' แห่งศาลเจ้าถี่กงตั๋ว-ภูเก็ต : คอลัมน์ถิ่นไทยงาม : โดย...เรื่อง/ภาพ : จิตรา ก่อนันทเกียรติ)