
ต้องมนตร์ดำ นัมเบอร์ไฟว์
ต้องมนตร์ดำ นัมเบอร์ไฟว์ : คอลัมน์ชวนชิม
แหล่งแฮงเอาท์ที่ไหนก็เหมือนๆ กัน เสียงพร่ำบ่นเล็ดลอดออกจากปากเหล่าคนเสพติดชีวิตหลังเลิกงาน จนทำให้ช่วงเวลาที่น่ารื่นรมย์กลับไม่น่าอภิรมย์ฤดีเอาเสียเลย นั่นอาจเพราะพวกเขายังไม่มีโอกาสได้สัมผัสมนตราภายในร้าน "five(ไฟว์)" สถานที่อันเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าค้นหา และกำลังกลายเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ของคนไม่ชอบความจำเจ
สำรวจบรรยากาศตั้งแต่แรกก้าวเท้าเข้าไปแล้วก็ชวนให้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ เพราะเขาออกแบบและตกแต่งอย่างน่าตื่นตาตื่นใจไม่เหมือนที่อื่น ซึ่ง 5 คนหุ้นส่วนอันเป็นที่มาของชื่อร้าน นำโดยสาวสังคม "พาย" ภัทรียา ณ นคร และผองเพื่อน รวมถึง "เต้" ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก เล่าว่าอยากได้ร้านสำหรับแฮงเอาท์กับเพื่อนๆ แต่ต้องไม่น่าเบื่อ จึงเลือกใช้วัสดุตกแต่งอย่างแผ่นเหล็ก ท่อเหล็ก และฟันเฟืองประกอบกัน ที่สำคัญเน้นสีดำ ลึกลับ น่าค้นหา ราวกับโรงงานที่ปกคลุมด้วยเวทมนตร์ของแม่มด ก่อนจะตัดทอนความกระด้างด้วยแสงเทียนไขสีขาวจุดส่องสว่างยามค่ำคืน
และที่น่าจะถูกใจบรรดาขาดื่ม คงจะเป็นคอนเซ็ปต์ที่ประกาศชัดว่าเป็นร้านไวน์เลิฟเวอร์คุณภาพรดต้นคอโรงแรมระดับหรู แต่ราคาสามารถคว้ามากระดกลงคอได้ไม่ยาก ส่วนจานอร่อยที่จัดไว้ให้รองท้องก่อนดื่มหนักก็ดูจะเป็นไปในทำนองเดียวกับคอนเซ็ปต์ร้าน โดยเฉพาะอาหารซิกเนเจอร์อิตาเลียนอารมณ์ฟิวชั่น เสิร์ฟมาตรงหน้าอย่าเพิ่งตกใจ ทุกอย่างดูดำขลับไปหมดแม้กระทั่งจาน เรียกง่ายๆ ว่าร้านนี้เป็นทั้ง Mixology (มิกโซโลจี) และ Gastronomy (แกสโทรโนมี) คือผสมผสานอย่าลงตัวระหว่างศิลปะการปรุงเครื่องดื่ม และอาหาร
ที่อยากให้ลองนี่เลย "สปาเกตตีซอสดำ" สีดำที่เห็นแท้จริงแล้วเป็นเส้นสปาเกตตีสีเหลืองๆ ทั่วไป ต้มแล้วคลุกเคล้าหมึกจากปลาหมึกจนดำสมใจ ก่อนจะผัดคลุกเคล้ากับเนื้อหมึกและครีมแล้วเติมไวน์ขาวดับคาวจนได้สปาเกตตีซอสดำเข้มข้น เส้นนุ่มชุ่มครีมรสชาติกลมกล่อมอร่อยจริงอะไรจริง ขอบอก อีกจานที่พลาดไม่ได้ "แบล็กสตูว์" เช่นเดียวกัน แอบหยดหมึกลงไปจนทั้งเนื้อหมึกและกุ้งกลายร่างเป็นเงาะป่า และที่กลิ่นหอมเตะจมูกเพราะอุดมไปด้วยสมุนไพร เสิร์ฟมาพร้อมขนมปังอิตาเลียนสีดำอีกแล้ว ตักสตูว์ข้นๆ ป้ายแล้วหม่ำเด็ดเกินคาด
อิ่มท้องกันแล้วก็ได้เวลาปาร์ตี้ประสาคนคุ้นเคย ถ้าไม่สันทัดกองทัพไวน์ เลือกผสมผสานความซาบซ่าน่าจะกล่อมอารมณ์อยู่หมัด จัดเบาๆ ก่อนด้วยค็อกเทล "โมจิโต วิช (mogito wish)" เขย่าร่ายมนตร์ใส่แก้วทรงคล้ายๆ ขวดกระเทียมดอง ภายในเคล้ากันอย่างลงตัวทั้งน้ำมะนาว โซดา วอดก้า รัม ก่อนจะฉีกกฎใส่น้ำตาลทรายแดงแทนที่จะเป็นทรายขาวอย่างร้านอื่น แล้วแต่งด้วยใบสะระแหน่ที่ให้ทั้งความหอมและซ่า
เพิ่มดีกรีให้ปาร์ตี้รื่นรมย์กับ "รีเมดดี ออฟ วอเตอร์ เมลอน (remedy of water melon)" สีแดงนุ่มๆ อย่างน้ำแตงโมผสมกับรัมขาว แล้วเพิ่มลูกเล่นให้น่าสนใจด้วยควันน้ำแข็งแห้งพวยพุ่ง ชมเพลินจิบเพลินสาวๆ น่าจะชอบ แต่ถ้าชอบสีแดงเหมือนกันทว่าแรงฤทธิ์กว่าแนะนำให้ทำความรู้จัก "โรส แชงเกรีย (rose sangria)" แค่สีก็ชวนเคลิ้ม ยิ่งได้จิบเลือดลมยิ่งสูบฉีด ร้อนแรงด้วยแอลกอฮอล์ 2 ช็อต เคล้าส่วนผสมอื่นๆ จนกลมกล่อม สีสวยๆ แบบนี้จิบได้เรื่อยๆ จนกว่าจะพอ
ทั้งร้านรับชาวปาร์ตี้ได้ราว 80 ที่ เบื่อๆ ข้างล่างยังมีมุมเล็กๆ ชั้นสองให้เพลิดเพลินจำเริญใจ ยิ่งดึกเร่งจังหวะเพลงตามเวลา หลังเลิกงานแบบนี้ถ้ายังไม่รีบกลับบ้านก็แวะไปกันได้ ไฟว์ เค วิลเลจ โซน บี ร้านใหม่แกะกล่องเปิดให้อุ่นเครื่องทุกวันตั้งแต่ 5 โมงเย็นเรื่อยไปจนถึงราวตี 2 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร.08-8524-5550 ระวังจะต้องมนตร์ดำแบบไม่รู้ตัว...
.............................
(ต้องมนตร์ดำ นัมเบอร์ไฟว์ : คอลัมน์ชวนชิม)