'ซาลาเปาหยกเมืองขอน' | คมชัดลึก

          "คงไม่ปรับราคา ตั้งใจจะขายลูกละ 8 บาทตลอดไป เพราะเลข 8 เป็นเลขมงคล เคยขายลูกละ 7 บาทระยะหนึ่ง แต่พอวัตถุดิบปรับขึ้นก็ปรับตามมาอยู่ราคานี้ รู้สึกเป็นเลขสวยและเป็นกำลังใจให้พัฒนาสูตร ลูกค้าไม่บ่น ทุกอย่างดูราบรื่น"

 

          "เฮียจิต" หรือ สมจิต เหลาลา ชายร่างท้วมวัย 47 ปี เจ้าของกิจการ "ซาลาเปาหยกเมืองขอน" ซึ่งตั้งอยู่ริม ถ.ราษฎร์บำรุง ใกล้ทางรถไฟ หน้าค่ายศรีพัชรินทร์ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น บอกให้ฟังด้วยท่าทางสบายๆ ขณะที่มือก็ง่วนกับการปั้นซาลาเปา โดยมีเจ๊แหม่ม คู่ชีวิต และน้องฟิ่น ลูกชาย เป็นลูกมือช่วยปั้นแป้ง โดยเสร็จสิ้นพร้อมเสิร์ฟทุกกระบวนการใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง

          เขาบอกอีกว่า บางวันทำแค่สองสูตร แต่ที่ต้องมีติดร้านและต้องทำประจำทุกวันคือใบเตยไส้หมูสับเห็ดหอม ส่วนไส้อื่นๆ จะทำสลับกัน เพื่อให้มีครบทุกสูตรทุกรสชาติ แต่มีบ้างบางสูตรที่มีส่วนผสมพิเศษใช้เวลาเตรียมนาน เช่น กะเพราเป็ดย่าง พิซซ่า โดยเฉพาะพิซซ่า ส่วนประกอบทุกอย่างคุณภาพเหมือนกินพิซซ่าทั้งรสชาติ กลิ่นของชีส ซอส แม้แต่ตัวแป้งยังผสมซอสและเครื่องปรุงที่เป็นสูตรเฉพาะ 

          "ซาลาเปาของเรามีหลายสูตรหลายไส้ ปลอดภัยจากสารเคมี ไม่ใส่ผงชูรส สีทุกอย่างจากธรรมชาติ เขียวจากใบเตย เหลืองจากข้าวโพด และผงกะหรี่ ส้มจากแตงโม ชมพูจากกระเจี๊ยบ ม่วงจากกระชายดำ ฟ้าจากดอกอัญชัน อีกทั้งแต่ละสูตรเนื้อแป้งก็จะต่างกันไป เช่น ไส้กะหรี่ไก่ แป้งก็จะสีเหลืองของผงกะหรี่ ปาปริก้าก็จะผสมพริกปาปริก้าในเนื้อแป้ง พิซซ่าก็จะผสมซอสในแป้งด้วย" เฮียจิต บอก

          พร้อมยอมรับว่า ไส้ที่ขายประจำหน้าร้านในแต่ละวันจะเป็นใบเตยหมูสับเห็ดหอม ส่วนไส้อื่นๆ เมื่อนึ่งสุกแล้วจะปล่อยให้เย็นก่อนบรรจุกล่องแช่ตู้เย็นไว้ได้ไม่เกิน 15 วัน ดังนั้นในตู้แช่จึงเต็มไปด้วยซาลาเปาหลากสีหลากเมนู บรรจุในกล่องถนอมอาหารที่มีเจ้าของร้านและลูกค้าประจำสั่งออเดอร์ไว้ 

          "มีกว่า 10 สูตร เริ่มจากใบเตยหมูสับเห็ดหอม แตงโมหมูสับไข่ต้มเห็ดหอม กระเจี๊ยบหมูสับเห็ดหอม นมถั่วเหลืองหมูสับเห็ดหอม กระชายดำหมูสับเห็ดหอม ปาปริก้าหมูสับไข่เจียวเห็ดหอม กะหรี่ไก่ไข่ต้ม งาหมูแดง พิซซ่าไก่ ถั่วแดง ครีม ครีมช็อกโกแลต เห็ดหอมผักรวมสำหรับคนที่กินมังสังวิรัติ ซึ่งแป้งจะมีส่วนผสมของธัญพืชสูตรเฉพาะของร้าน กะเพราเป็ดย่าง ซึ่งในเร็วนี้จะเพิ่มสูตรมัสมั่นไก่ และต้มยำ"

          เฮียจิต เล่าให้ฟังว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องใช้ความอดทน ขยัน แม้จะไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือเหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกัน ด้วยความยากจนเป็นลูกกำพร้า พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ต้องออกหางานทำ เริ่มแรกไปทำงานล้างจานที่ร้านเซี่ยงจี้ข้างบ้านพักอัยการ จนกระทั่งอายุ 16 ปี ได้ไปสมัครงานที่โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ลตามคำชวนของญาติ 

          "ตอนนั้นผมไม่เกี่ยงเรื่องเงินเดือน เพราะเห็นว่าห้องครัวของโรงแรมใหญ่มาก ต้องมีอะไรให้ทำเยอะแยะ และก็สมหวังได้งานเป็นม้าเร็วยกอาหาร ด้วยเงินเดือนเริ่มต้นที่ 800 บาท ก็สมกับความตั้งใจ ได้เรียนรู้แทบทุกอย่าง ทั้งหั่นเนื้อ หั่นผัก บางครั้งก็ขออยู่หน้ากระทะทำเมนูง่ายๆ รวมทั้งได้ไปช่วยในส่วนของหวาน เบเกอรี่ ซึ่งงานเบเกอรี่นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นให้ได้ทำซาลาเปา จนซาลาเปาหยกใบเตยเป็นของว่างขึ้นชื่อของโรงแรมขอนแก่นโฮเต็ลต่อเนื่องมานานกว่า 20 ปี" เฮียจิต ย้อนที่มาก่อนนำความรู้นั้นมาเปิดเป็นธุรกิจของครอบครัว 

          ส่วน "ซาลาเปาหยกเมืองขอน" ตอนนี้เปิดมาได้ 7 ปีแล้ว ที่ผ่านมาไม่ได้ไปแสดงตนโอ้อวดหรือแย่งลูกค้าของโรงแรมแต่อย่างใด ทำเลร้านก็ห่างไกลกัน สถานที่เล็กๆ ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นขาประจำปากต่อปาก บางคนหลงทางผ่านมาเห็นป้ายจอดถามซื้อติดไม้ติดมือจนกลายเป็นลูกค้าประจำ 

          "ปัจจุบันผมกับภรรยายังทำงานอยู่ที่โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล จัดสรรเวลาทั้งงานประจำและที่ร้านได้ลงตัว โดยทุกวันตอนเช้าจะเตรียมและนึ่งไว้ให้ลูกค้า จากนั้น 7 โมงเช้าก็ออกไปปั้นซาลาเปาและทำงานในส่วนรับผิดชอบที่โรงแรม เสร็จแล้วช่วงบ่ายก็กลับมาลงมือปั้นซาลาเปาที่ร้านและเปิดขายหน้าร้านเวลาบ่าย3 โมงพอค่ำก็ปิด" 

          "เฮียจิต" กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้อายุจะมากแล้ว แต่เรื่องการใฝ่คว้าหาความรู้ไม่เคยทิ้ง โดยอาศัยเวลาว่างลงเรียนในสถาบันต่างๆ ที่เปิดโอกาส กระทั่งได้รับปริญญาตรีคหกรรมศาสตร์ มสธ. อีกทั้ง ขณะนี้กำลังลงทะเบียนเรียนคณะนิติศาสตร์ที่ มสธ.ด้วย 

          ท่านใดที่สนใจอยากชิมซาลาเปาที่มีรสชาติเฉพาะตัว "เฮียจิต" บอกว่า นอกจากหาซื้อได้ที่หน้าร้านแล้ว ยังสามารถสั่งออเดอร์ได้ที่ 0-4334-7991 หรือ 08-5006-7516

 

 

----------

(หมายเหตุ : 'ซาลาเปาหยกเมืองขอน' สูตรอร่อยครอบครัว 'เหลาลา' : คอลัมน์ เกษตรทำกิน : โดย ... จิติมา แสวงดี)

----------