
เจาะกึ๋นการตลาดของเจ้านกขี้โมโห
เจาะกึ๋นการตลาดของเจ้านกขี้โมโห อย่าง 'แองกรี้ เบิร์ด' (Angry Birds)
ในช่วงว่างๆ ระหว่างการเดินทาง เช่นนั่งรถไฟฟ้า หรือรถเมล์ เจ้าของสมาร์ทโฟนหลายต่อหลายคนมักจะหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเพลงฟัง หรือไม่ก็เล่นเกมเพื่อฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ และหนึ่งในเกมที่หยิบขึ้นมาเล่นนั้นเชื่อได้ว่าเป็นเกมหนึ่งในซีรีส์ของ "แองกรี้ เบิร์ด" (Angry Birds) ของบริษัทโรวิโอ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ผู้ผลิตเกมแห่งฟินแลนด์ ไม่ว่าจะเป็นแองกรี้ เบิร์ด ซีซั่น (Angry Birds Season) หรือแองกรี้ เบิร์ด สเปซ (Angry Birds Space) เวอร์ชั่นล่าสุดที่เปิดตัวได้อย่างแซบเว่อร์ ที่สถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) นอกโลกโน่นแน่ะ
ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่ท่านจะเป็นคนหนึ่งที่ดาวน์โหลดเกมเจ้านกขี้โมโหมาเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน เพราะเกมนี้มีทั้งความท้าทาย และใช้สมองคิดคำนวณมุมและองศาการยิงเจ้านกขี้โมโหที่มีคุณสมบัติต่างๆนานาไปทำลายศัตรู ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหมูตัวเขียวที่ขโมยไข่ที่แสนหวงแหนไปจากรัง หรือลิงที่จับนกแก้วเพื่อนร่วมสายพันธุ์ของเจ้านกขี้โมโหในเวอร์ชั่นแองกรี้เบิร์ด ริโอ
เมื่อเร็วๆ นี้โรวิโอประกาศความสำเร็จของบริษัทที่ได้พัฒนาแองกรี้ เบิร์ด สเปซ ออกมา และมียอดดาวน์โหลดเกินกว่า 50 ล้านดาวน์โหลดในช่วงเวลาเพียง 32 วันหลังจากการเปิดตัวเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมานี้เอง
โรวิโอมีรายได้จากเกมในซีรีส์แองกรี้ เบิร์ด นี้ราวๆ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ !!! มาจากการขายพื้นที่โฆษณาบนเกมที่เปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรีๆ และค่าเกมจากผู้ใช้ทั่วโลกที่ยินดีจะเจียดเศษเงินไม่เกิน 200 บาทเพื่อซื้อเกมมาเล่นบนโทรศัพท์เครื่องละหลายพันถึงหลายหมื่นบาท รวมทั้งรายได้จากการขายสินค้าเช่นตุ๊กตา ของเล่น และเครื่องใช้ที่มีรูปนกขี้โมโห หรือเจ้าหมูตัวเขียวปรากฏอยู่บนนั้น ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า "Merchandise" รายได้ของโรวิโอ ผู้ผลิตเกมรายนี้เทียบได้กับสายการบินระดับโลกอย่าง "เจ็ตบลู" กันเลยทีเดียว
เว็บไซต์ AYTM.com ที่ทำการวิจัยตลาดได้วิเคราะห์สาเหตุของความโด่งดังของเกมเจ้านกขี้โมโหนี้ไว้ในวลีสั้นๆ ว่า "โรคคลั่งแองกรี้ เบิร์ด" (Angry Birds Addiction Syndrome) ที่ระบาดจากผู้ใช้คนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง จากการที่เห็นผู้เล่นคนหนึ่งกำลังสนุกกับเกมอย่างวางโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตไม่ลง และลองดาวน์โหลดเกมนี้มาเล่นบ้าง ก่อนที่จะเสพติดเกมนี้อย่างถอนตัวแทบไม่ขึ้นและแม้แต่วัดถ้ำกระบอกก็ไม่มียาที่จะใช้ถอนพิษ
กลุ่มประชากรที่เป็นสาวกของแองกรี้ เบิร์ด มากที่สุดได้แก่ ชายโสดที่นอกจากจะครองตำแหน่งผู้ดาวน์โหลดเกมนี้มาเล่นมากที่สุดแล้วยังเป็นกลุ่มประชากรที่ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อเกมเจ้านกขี้โมโหมาเล่นให้หนำใจมากที่สุด ส่วนกลุ่มประชากรที่ให้ความสนใจเจ้านกขี้โมโหน้อยที่สุดคือผู้หญิงสูงอายุนั่นเอง โดยสัดส่วนการดาวน์โหลดของชายโสดสูงกว่าหญิงสูงอายุถึง 76%
ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นแองกรี้ เบิร์ด มากที่สุดได้แก่สมาร์ทโฟนตระกูลแอนดรอยด์ รองลงมาได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ไอพอดทัช ไอโฟน และ ไอแพด ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะทุกวันนี้สมาร์ทโฟนในค่ายแอนดรอยด์มีจำนวนมหาศาลทำให้โอกาสที่ตัวเลขการดาวน์โหลดจะสูงสุดเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
นพ.มิชาเอล โครอสท์ นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ระบุว่าแองกรี้ เบิร์ด นั้นเป็นเกมที่ "เรียบง่าย จับต้องได้ มีการให้รางวัล สนุก แต่ก็สร้างความกังวลให้เกิดขึ้นในระบบสมอง" ซึ่งปัจจัยเหล่านั้นทำให้ผู้เล่น อยากจะเล่นเกมนี้อย่างต่อเนื่อง พยายามจะเอาชนะเกมง่ายๆ เช่นนี้ให้ได้ ซึ่งนั่นเป็นปัจจัยที่ทำให้เกมแองกรี้ เบิร์ด สามารถ "ขาย" ตัวมันเองได้ และด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของเกม เช่นการเปิดตัวแองกรี้ เบิร์ด สเปซ ที่ไอเอสเอส ก็ยิ่งทำให้เกมนี้โด่งดังและได้รับความนิยมมหาศาล
เรียกว่าสินค้าที่ดีอยู่แล้ว เอามาแต่งแต้มสีสันอีกหน่อยก็ดังทะลุโลก...อย่างนี้นี่เอง