ไลฟ์สไตล์

ศุกร์กับเซ็กส์ -  ลองเล่นรักทางทวารหนัก

ศุกร์กับเซ็กส์ - ลองเล่นรักทางทวารหนัก

15 พ.ค. 2552

“ผมแต่งงานแล้วอายุ 27 ปี ไปทำงานเมืองนอก สองเดือนก่อนผมลองเล่นรักทางทวารหนักกับเพื่อน โดยผลัดกันสอดใส่ ตัวผมเองรู้สึกเจ็บ แสบ เพื่อนก็บ่นว่าไม่สะอาด

 อาทิตย์ต่อมาอาการเจ็บแสบหายไป แต่รู้สึกไม่ปกติที่ทวารหนัก เจ็บ คัน เหมือนรู้สึกมีอะไรบวมๆ อยู่ในรูก้น ไปพบหมอหมอใช้กล้องส่องเข้าไปดูในรูทวารบอกไม่เป็นอะไร ให้ยามาเหน็บอาการก็เหมือนจะดีขึ้น แต่ผมยังกังวลว่าจะติดเชื้อกามโรค เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เชื้อเอชพีวี เชื้อเอชไอวี จะทำอย่างไรดีครับจึงจะรู้ว่าตนเป็นอะไร?”

ตอบ
 ลำไส้ส่วนทวารหนักไม่มีกล้ามเนื้อหุ้มห่อแข็งแรงเหมือนช่องคลอด เยื่อบุลำไส้ส่วนทวารหนักก็ไม่ได้หนาหรือทนทานต่อแรงกระแทกเสียดสี นอกจากนั้นบริเวณทวารหนักยังมีเชื้อโรคยุบยับ การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ของฝ่ายรับและฝ่ายรุกจึงเกิดปัญหาสุขภาพได้
ปัญหาของฝ่ายรับคือ...

 ประเด็นที่หนึ่ง...เกิดการบาดเจ็บที่ทวารหนักและหูรูดทวารหนัก ตามมาด้วยการอักเสบติดเชื้อเป็นแผลในทวารหนัก หรือเป็นโรคริดสีดวงทวารหนัก หรือเกิดลำไส้ส่วนทวารหนักปลิ้นออกมา การบาดเจ็บนี้จะลดลงได้หากมีการใส่สารหล่อลื่นที่มากพอ อย่างไรก็ตาม การสำรวจฝ่ายรับที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก พบเกือบร้อยละร้อยจะมีบาดแผลในทวารหนัก ด้วยผู้รุกมักกระทำด้วยความรุนแรง บางคนมีการดื่มสุรา มึนเมา หรือใช้ยาเสพติด ทำให้เพศสัมพันธ์นั้นรุนแรงยิ่งขึ้น ประเด็นที่สอง...หากฝ่ายรุกมีเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ฝ่ายรับก็มีสิทธิ์ติดเชื้อโรคทุกตัว เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หูดหงอนไก่ แผลริมอ่อน ซิฟิลิส เชื้อเอชพีวีที่ก่อมะเร็งทวารหนัก รวมไปถึงเชื้อเอชไอวี (เอดส์)

 สำหรับการติดเชื้อเอชไอวีจากเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักในฝ่ายรับ พบร้อยละ 0.1-3 ขณะที่เพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดฝ่ายรับมีโอกาสติดเชื้อไม่เกินร้อยละ 0.2

 ขณะเดียวกัน ฝ่ายรุกก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ด้วยทวารหนักมีเชื้อโรคที่ออกมากับอุจจาระ เช่นเชื้อบิดมีตัว บิดไม่มีตัว เชื้อไทฟอยด์ เชื้อพยาธิ ไวรัสตับอักเสบไม่ว่าจะเป็นชนิดเอหรือบีหรือซี เชื้อโรคอีโคไล เชื้อวัณโรค  รอบๆ ทวารหนักก็มีเชื้อโรคมากมาย เช่นเชื้อ เริม แผลริมอ่อน ฝีมะม่วง ที่ขนหัวหน่าวและขน 

 รอบๆ ทวารหนักก็อาจจะมีโลนอยู่ ฝ่ายรุกเองก็มีสิทธิ์รับเชื้อทุกอย่าง
แม้การสวมถุงยางอนามัยในขณะมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักอาจไม่ช่วยลดการบาดเจ็บ แต่สามารถลดการติดเชื้อโรคไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคจากทวารหนัก (อุจจาระ) หรือเชื้อโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคเอชไอวี หากถุงยางอนามัยไม่รั่วสามารถป้องกันได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

 สรุป สำหรับคุณผู้ที่ถามมา หากหมอตรวจแล้วว่าปกติ ก็ไม่น่าจะติดหนองในแท้หนองในเทียม อาจเป็นการระคายเคืองในทวารหนักหรือเป็นริดสีดวงทวารหนัก  แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะปลอดภัย ด้วยโรคอื่นๆ หลายโรคกว่าจะแสดงอาการใช้เวลานาน หากติดมาก็อาจจะมาเกิดทีหลังได้ เช่น ซิฟิลิส เริม หูดหงอนไก่ ดังนั้นควรเฝ้าระวังดูอาการผิดปกติทางทวารหนักของตนเอง ส่วนเอชไอวี (เอดส์) นั้น ควรเจาะเลือดตรวจดูการติดเชื้อในตอนนี้ทันที หากให้ผลลบ ควรตรวจติดตามอีกสองครั้งคือ 3 เดือนและ 6 เดือน โดยระหว่างนี้ต้องไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ไม่มีเพศสัมพันธ์ หรือหากมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าทางช่องทางปกติหรือทางทวารหนัก ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง


"พญ.ชัญวลี ศรีสุโข"
([email protected]
<mailto:[email protected]>)