
'ไร่วังน้ำค้าง'แหล่งผลิตส้มโชกุน
'ไร่วังน้ำค้าง' แหล่งผลิตส้มโชกุน ผลไม้ขึ้นชื่ออยู่คู่กับเมืองใต้ : คอลัมน์ ท่อง โลกเกษตร : โดย ... เมธี เมืองแก้ว
ท่ามกลางวิกฤติรอบด้านทั้งจากโรคระบาด สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ขาดแคลนแรงงาน ต้นทุนสูง ทำให้สวนส้ม "โชกุน" ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในพื้นที่ภาคใต้ที่ จ.ยะลานั้น วันนี้ในภาคใต้เหลือสวนส้มโชกุนไม่กี่แห่งในภาคใต้ ในจำนวนที่เหลือมี "ไร่วังน้ำค้าง" ของ 3 พี่น้องตระกูล "คงวิทยา" แห่งบ้านปากแคลง ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง จึงยังคงสร้างแบรนด์ "ไร่วังน้ำค้าง" ให้มีคุณภาพและมาตรฐานมาจนถึงปัจจุบัน เน้นสวนส้มปลอดสารพิษ 100% และถือว่าเป็นสวนส้มโชกุนที่เหลือเพียงไม่กี่แห่งแล้วในภาคใต้ ที่พยายามรักษาเอาไว้อย่างต่อเนื่อง
ทีมงาน "ท่องโลกเกษตร" ของเรา ได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสไร่วังน้ำค้าง และคุยกับ อดิเรก คงวิทยา เกษตรกรวัย 47 ปี เป็นผู้เริ่มต้นบุกเบิกไร่แห่งนี้มาตั้งแต่เมื่อปี 2530 และทราบว่าสวนแห่งนี้ เดิมที อดิเรก เริ่มจากทำเป็นสวนผสม และปลูกผลไม้หลากหลายชนิด อาทิ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ซึ่งช่วงแรกๆ ก็ดูเหมือนว่าจะได้ผลดียิ่ง จนเป็นที่รู้จักของตลาดโดยทั่วไป
กระทั่งต่อมา อดิเรก พบว่าผลผลิตจากผลไม้เหล่านี้เริ่มเปลี่ยนไปเกิดอาการผันผวนด้านราคา จึงแบ่งพื้นที่ที่มีอยู่ทั้งหมด 150 ไร่ มาปรับเปลี่ยนเพื่อปลูก "ส้มโชกุน" ลงไปจำนวน 15 ไร่ เมื่อปี 2542 โดยร่วมมือกับพี่ชาย-พี่สาวอีก 2 คน คือ อุดม คงวิทยา วัย 52 ปี และสุกันยา ญัติมิ วัย 50 ปี ด้วยการทดลองไปซื้อพันธุ์ "ส้มโชกุน" จากแหล่งขึ้นชื่อ อ.เบตง จ.ยะลา มาปลูกไร่ละ 60 ต้น
หลังจากนั้นประมาณ 3 ปี ก็เริ่มให้ผลผลิต และให้ผลผลิตเต็มที่ในปีที่ 5 ปรากฏว่า ผลผลิตที่ออกมาเป็นที่พออกพอใจของลูกค้า จึงตัดสินใจไปซื้อพันธุ์จากศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง มาปลูกเพิ่มอีก จนถึงขณะนี้มีสวนส้มโชกุนทั้งหมด 35 ไร่
กระนั้น อดิเรกบอกว่า กว่าที่สวนส้มจะเติบโตมาได้ถึงวันนี้ ต้องต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะแนวคิดที่ต้องการให้ปลอดสารพิษ 100% จริงๆ เพราะกว่าจะออกผลส่งไปขายได้ ต้องใช้เวลานานถึง 8 เดือน ระหว่างนั้นต้องดูแลประคบประหงมอย่างดี เพราะก่อนหน้านั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าการทำสวนส้มขึ้นชื่อว่า "ผลไม้แห่งความตาย" เนื่องจากมีการใช้สารเคมีทุกชนิดอย่างหนัก เพื่อให้ส้มที่ออกมามีลูกโต สีสวยสด ผิวแวววาว และเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค
"ส้มโชกุน ถือเป็นสวนไม้ผลที่ต้องเจออุปสรรคมากมาย ทั้งโรคและศัตรูพืช ที่จ้องเล่นงานนับกว่า 10 ชนิด เริ่มตั้งแต่ เพลี้ยไฟ ต่อด้วยแมงมวนเขียว หรือแมงฉ่อง พอส้มเริ่มติดลูกก็ต้องเจอโรคส้มยิ้ม ทำให้ผลปริแตก นอกจากนี้มีผีเสื้อมวนหวาน ที่จะมาเล่นงานในช่วงกลางคืน แมงวันทอง ที่เจาะผลส้มให้เน่าเสีย ตลอดจนโรคราขาวขั้วส้ม ที่ทำให้ผลแก่ร่วงก่อนกำหนด และโรคโคนเน่ารากเน่า ในยามฝนตกชุก สิ่งเหล่านี้เราต้องจัดการกับมันให้ได้ และวันนี้ผมทำได้ด้วย" อดิเรก กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากส้มต้นใดผ่านมรสุมจนมีความสมบูรณ์แล้ว อดิเรกบอกว่า จะสามารถให้ผลผลิตอย่างต่อเนื่องไปได้นานถึง 50 ปีทีเดียว และให้ผลผลิตต้นละ 200 กิโลกรัมต่อปี ทำให้วันนี้ไร่วังน้ำค้าง สามารถผลิตส้มส่งขายตลาดถึงวันละถึง 800 กิโลกรัม และได้ราคาดีด้วยนั่นคือขายกิโลกรัมละ 80-100 บาท จากเดิมเมื่อปี 2554 มีราคาเพียงกิโลกรัมละ 30-50 บาทเท่านั้น แต่ปีนี้ราคากลับพุ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงหน้าเทศกาลตลาดความต้องการสูง จนไม่สามารถผลิตส้มได้เพียงพอต่อความต้องการ
สำหรับตลาดหลัก อดิเรกบอกว่า มีตลาดหลักๆ 2 จุด ก็คือ วางขายที่หน้าบ้านติดถนนรักษ์จันทร์ ในเขตเทศบาลนครตรัง และส่งไปยังห้างท็อปส์ที่กรุงเทพฯ เพื่อกระจายไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ และไม่คิดที่จะขยายตลาดเพิ่มเนื่องจากพวกเขาหวั่นเกรงว่า หากเปิดตลาดไปมากกว่านี้ จะส่งผลในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐาน เพราะส้มทุกผลที่นำไปวางขายจะต้องผ่านมือ-ผ่านตาและผ่านหูของทั้ง 3 พี่น้องเสียก่อน
จากที่ทั้ง 3 คนเข้มงวดในด้านคุณภาพ ทำให้ไร่วังน้ำค้างได้รับเครื่องหมายรับรองตัวคิว (Q) จากสำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง มาตั้งแต่เมื่อปี 2547 ถือเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ได้มาตรฐานเข้าสู่ตลาดส่งออก มีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ได้รับความนิยมเป็นจุดเด่นที่ชัดเจน รวมทั้งผลผลิตทุกผลปราศจากสารพิษ ทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องกังวลกับการรับประทาน พร้อมทั้งยังมีการคิดค้นวิธีกำจัดโรคและศัตรูพืชตามธรรมชาติด้วย
"พวกผม 3 พี่น้องโชคดีที่ได้พื้นที่เพาะปลูกดี เพราะอยู่ติดกับเทือกเขาบรรทัด อากาศที่เย็นสบาย และมีฝนตกชุก ส่งผลให้ส้มออกตลอดปีละถึง 7 รุ่น ในแต่ละปีออกผลผลิตสู่ตลาดปีละ 8 หมื่นกิโลกรัม หรือ 80 ตัน มีผลเน่าเสียปีละราว 2 หมื่นกิโลกรัม แต่พวกผมก็พอใจกับการปลูกผลไม้แบบวิธีธรรมชาติเช่นนี้ครับ จุดยืนของผมทั้ง 3 คน เพื่อให้ไร่วังน้ำค้างเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้า ตรงนี้สวนของผมจึงมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมากว่า 13 ปีแล้วครับ" อดิเรก กล่าวอย่างภาคมูมิใจ
นี่เป็นส่วนหนึ่งของการเยี่ยมชม "ไร่วังน้ำค้าง" ของ 3 พี่น้องตระกูล "คงวิทยา" แห่งบ้านปากแคลง ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หากสนใจจะดูงานสามารถติดต่อได้ที่ 0-7520-3-228 หรือ 08-7271-5052
----------
(หมายเหตุ : 'ไร่วังน้ำค้าง' แหล่งผลิตส้มโชกุน ผลไม้ขึ้นชื่ออยู่คู่กับเมืองใต้ : คอลัมน์ ท่อง โลกเกษตร : โดย ... เมธี เมืองแก้ว)
----------