ไลฟ์สไตล์

เบนโตต้า..ศรีลังกา..และป่าโกงกาง

เบนโตต้า..ศรีลังกา..และป่าโกงกาง

01 เม.ย. 2555

คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : เบนโตต้า..ศรีลังกา..และป่าโกงกาง โดย กาญจนา หงษ์ทอง

               ถ้าแคนดี้(Kandy)คือที่ทางของศรัทธา เบนโตต้า(Bentota)คือที่ทางของนักเดินทางผู้โปรดปรานชายหาดและเมืองสงบในศรีลังกา

              60 กิโลเมตร เป็นระยะห่างระหว่างเมืองหลวงอย่างโคลัมโบ(Colombo) กับเบนโตต้า สำหรับคนที่ไม่อัตคัดเวลาจนเกินไป นี่คือเมืองที่น่าเดินทางไปทำความรู้จักอย่างยิ่ง

              สำหรับนักเดินทางทั่วไป จากกรุงเทพฯ ถ้าบินด้วยสายการบินศรีลังกันแอร์ไลน์ (0-2236-8450-7) พอไปถึงโคลัมโบ ก็มีรถบัสประจำทางออกวันละหลายเที่ยว ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็ได้สูดดมกลิ่นอายทะเลจากมหาสมุทรอินเดียที่เบนโตต้า

             ฉันเองหลังจากรอนแรมตามหัวเมืองน้อยใหญ่ของศรีลังกามาหลายวันเต็มที เลยอยากเปลี่ยนจากโหมดวัดวามาหาเมืองริมทะเลบ้าง และถ้าใกล้สุดก็ต้องเป็นเบนโตต้านี่แหละ 

            นั่งเพลินๆ ชมวิวจากโคลัมโบไปตลอดทาง ได้เห็นทั้งสีสันของผู้คนที่อยู่ริมทาง และสีสันบนท้องถนน ทั้งรถตุ๊กตุ๊ก จักรยาน มอเตอร์ไซค์ น่าดูไปซะหมด ส่วนวิวทิวทัศน์ระหว่างทางไปเบนโตต้าก็น่ามองไม่ใช่เล่น  บางช่วงเป็นท้องทุ่งที่ดูใสซื่อ บางมุมเป็นหมู่บ้านที่ช่างมีชีวิตชีวา ระยะทางจากโคลัมโบไปเบนโตต้าเลยเหมือนไม่ไกล

            แต่พอมาถึงเบนโตต้า ก็พบว่า แม้ดูเหมือนจะเป็นเมืองที่ไม่โด่งดังเท่าไหร่ แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะพอสมควร นั่นเพราะที่นี่มีชายหาดยาวเหยียดที่สวยงาม บรรดาโรงแรมหลายดาวเลยตั้งเรียงรายบนชายหาดกันให้แน่นไปหมด คลิกเข้าไปคัดตัวเรือนพักได้ที่อโกดา(www.agoda.co.th) แต่ที่นี่ก็มีไฮไลท์อย่างอื่นด้วย ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาว่าลงเรือไปล่องแม่น้ำเบนโตต้า เดี๋ยวรู้เองว่าทีเด็ดของเมืองนี้ซ่อนอยู่ที่ไหน

             ออกเรือได้ไม่นาน ชักเห็นเค้าลางทีเด็ดของเบนโตต้า ไม่ใช่อะไรเป็น "ป่าโกงกาง" นั่นเอง เรียกว่าเป็นป่าที่สมบูรณ์มาก ขนาดนั่งเรือออกมาไม่เท่าไหร่ก็เจอนก เป็ด และตัวเงินตัวทองเดินนวยนาดกันให้ว่อนไปหมด

             ตอนนั่งเรือเพิ่งสังเกตว่า เบนโตต้าไม่ได้มีแต่โรงแรมหรูๆ ริมทะเลเท่านั้น แต่นักเดินทางชั้นประหยัดก็สามารถมาพักตามเกสต์เฮ้าส์ริมแม่น้ำเบนโตต้าได้เหมือนกัน  

             เบนโตต้าเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีคนอยู่ไม่ถึง 5 หมื่นคน จังหวะที่เรือพาเลาะแม่น้ำไปเรื่อย เลยได้ดูชีวิตผู้คนริมน้ำและชีวิตสัตว์ที่อาศัยอยู่แถวนี้  แต่คนเรือบอกว่า นี่ยังไม่ใช่เด็ดสุด ว่าแล้วเขาก็พาเราผลุบเข้าในโลกอีกใบ โลกที่ทำให้เราตะลึงพรึงเพริดให้แก่ธรรมชาติได้อยู่นานสองนาน 

            นี่เป็นป่าโกงกางที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งตั้งแต่เคยเห็นมา ไม่น่าเชื่อ ป่าใหญ่ขนาดเรือเล็กลอดผ่านได้สบายๆ ความจริงเพิ่งไปล่องเรือชมป่าโกงกางที่เกาะปาลาวันแห่งฟิลิปปินส์มา นั่นก็ว่าแน่นแล้วนะ แต่พอเจอที่นี่เข้า พูดได้คำเดียวว่า สุดยอดไปเลย ป่าโกงกางแห่งเบนโตต้า

            ชายหาดยาวเหยียดอันแสนสงบและป่าโกงกางอันอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดให้นักเดินทางแวะเวียนมาเบนโตต้ากันตลอดทั้งปี

           ผละจากเมืองริมทะเล ฉันตีรถกลับมาสำรวจโคลัมโบอีกรอบ ก็ต้องบอกว่าเป็นเมืองหลวงของศรีลังกาที่ไม่แออัดเท่าไหร่ ทุกวันนี้อาจจะกำลังเร่งพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด บางมุมแน่นไปด้วยตึกสูงระฟ้า หากแต่บางมุมยังคงฉายภาพให้เห็นความสงบงามแห่งดินแดนพุทธศาสนา นั่นทำให้ระหว่างการท่องเมืองโคลัมโบ อาจจะเห็นภาพของสิ่งก่อสร้างทันสมัยอย่างตึกเวิลด์เทรด ประเดี๋ยวเดียวกลับเจอวัฒนธรรมเก่าแก่ที่แทรกตัวอยู่ทุกหลืบมุมเมือง

            และความที่เคยเป็นประเทศในอาณานิคมของอังกฤษ ฮอลแลนด์และโปรตุเกส ทำให้ยังมีอาคารเก่าแก่หลายแห่ง โคลัมโบที่เห็นในวันนี้  จึงไม่เพียงเป็นเมืองหลวงที่มีการจัดวางผังไว้ดีเยี่ยม แต่ยังมีตะกอนและริ้วรอยแห่งอดีตเหลือทิ้งไว้จากผู้ล่า

            นอกจากจะมีสิ่งปลูกสร้างที่มีสถาปัตยกรรมจากซีกโลกตะวันตกเอาไว้ให้ดูต่างหน้า ตามถนนหนทางในกลางกรุงโคลัมโบ ยังมีรูปปั้นบุคคลสำคัญมากหน้าหลายตาที่มักพบเห็นในยุโรป

            และเมื่อมาถึงเมืองพุทธทั้งที สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งคือไปวัด ในกรุงโคลัมโบมีวัดที่น่าไปหลายแห่ง มาคราวที่แล้วเคยไปวัดกัลณียามาแล้ว คราวนี้จะลองไปที่วัดคงคารามบ้าง เขาว่าเป็นวัดที่ทำให้ทุกคนสัมผัสได้ว่าศรัทธาในพุทธศาสนาของชาวศรีลังกานั้นยิ่งใหญ่ไม่แพ้ชาวพม่า

            แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วย  มีผู้คนมาไหว้พระสวดมนต์กันตลอดทั้งวัน จะว่าไป ชาวศรีลังกาคงทำบุญปฏิบัติธรรมกันเป็นกิจวัตร เขาว่าถ้ามาตรงช่วงวันพระ ไม่ว่าจะมองไปทางไหน จะมีแต่คนนุ่งขาวห่มขาวเข้าวัดปฏิบัติธรรม

            วัดคงคาราม เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่นี่สงบ ขนาดเล็กและไม่อลังการงานสร้างเหมือนบ้านเรา ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย แต่ที่น่าสนใจกว่าคือตามผนังและเพดาน ที่อัดแน่นไปด้วยภาพเขียนอันงดงาม 

           ที่วัดนี้ยังมีอาคารต่างๆ ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุและสิ่งมีค่าทางศาสนาเอาไว้มากมาย มีมุมหนึ่งเราเห็นมีคนนำพระพุทธรูปขนาดใหญ่ไปตั้งเรียงรายอยู่บนกำแพงวัด มองไปมองมาชวนให้นึกถึงบูโรพุทโธ  บางมุมก็เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์เก็บสะสมของเก่าแก่และของมีค่าของชาวโคลัมโบเอาไว้ไม่ใช่น้อย เรียกว่าเป็นวัดที่น่าสนใจไปซะทุกมุม

           ทั้งเบนโตต้าและโคลัมโบทำให้เชื่อว่า ศรีลังกาช่างมีหลายบุคลิก บางมุมดูเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ บางมุมก็ดูซนๆ แต่ที่ขาดไม่ได้คือรอยยิ้มอย่างจริงใจบนใบหน้าของชาวศรีลังกาที่ไม่เคยเหือดหายไปจากแผ่นดินกลางมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้

............................
(คอลัมน์เที่ยวนี้ขอเล่า : เบนโตต้า..ศรีลังกา..และป่าโกงกาง โดย กาญจนา หงษ์ทอง)