อาสาโตโยต้า ปลูกป่าชายเลน | คมชัดลึก

                 อาสาสมัคร โตโยต้า อีโค เน็ตเวิร์ค เครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน กว่า 5,000 คน ปลูกพันธุ์ไม้ชายเลน 8 หมื่นต้น ป้องกันป่าชายเลนบางปู ปากแม่น้ำผืนสุดท้ายของภาคกลาง และร่วมเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

                 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ กรมพลาธิการทหารบก และ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) สำนักงานประเทศไทย จัดกิจกรรม “เฉลิมชนม์ 84 พรรษา 8 หมื่นต้นกล้า โตโยต้าปลูกป่าชายเลน" ปีที่ 8 เพื่ออนุรักษ์ป่าชายเลนปากแม่น้ำผืนสุดท้ายของภาคกลาง ให้มีความอุดมสมบูรณ์ มีสภาพเหมาะแก่การอยู่อาศัยให้แก่สัตว์ในระบบนิเวศชายเลน ณ บริเวณพื้นที่ปลูกป่าชายเลนศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) จังหวัดสมุทรปราการ

                ในการนี้ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เสด็จไปทรงเป็นประธานในกิจกรรม และทรงปลูกต้นโกงกางร่วมกับประชาชนด้วย โดยมี นินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พ.อ.ชนินทร์ โพธิ์พูนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองสถานพักผ่อนกรมพลาธิการทหารบก และ ตรีรัตน์ ภูคชสารศิลป์ ผู้อำนวยการมูลนิธิสิ่งแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รับเสด็จ

              กิจกรรมครั้งนี้ มีคณะอาสาสมัครโตโยต้า อีโค เน็ตเวิร์ค (Toyota Eco Network) เครือข่ายเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน กว่า 5,000 คน อาทิ พนักงานโตโยต้าและครอบครัว ตัวแทนบริษัทในเครือ ผู้แทนจำหน่าย ผู้ผลิตชิ้นส่วน ลูกค้า กลุ่มสมาชิกโตโยต้า ซีเอสอาร์ เฟสบุ๊ก และ อี-โตโยต้า คลับ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ร่วมแสดงพลังในการตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนร่วมถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา เมื่อปี 2554 นอกจากนี้ ยังเป็นการสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เรื่องการอนุรักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อม

              โตโยต้าจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 8 ส่งผลให้ต้นกล้าชายเลนมีจำนวนรวมกันกว่า 265,000 ต้น สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 2,500 ตันต่อปี นอกจากกิจกรรม โตโยต้า ยังได้ให้การสนับสนุนงบประมาณแก่องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) สำนักงานประเทศไทย เพื่อพัฒนาและดำเนินงานศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสิ้นกว่า 25 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบประมาณสำหรับการจัดสร้างอาคารที่ใช้เป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติ การจัดสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าเยี่ยมชม เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติ คู่มือศึกษาธรรมชาติ ตลอดจนเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานภายในศูนย์ฯ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปเรียนรู้ระบบนิเวศของป่าชายเลนอย่างใกล้ชิดและครบวงจร