ไลฟ์สไตล์

ขับครั้งแรก'มิราจ'ทรีไดมอน จุดขายที่คุณค่า ความประหยัด

ขับครั้งแรก'มิราจ'ทรีไดมอน จุดขายที่คุณค่า ความประหยัด

25 มี.ค. 2555

เปิดโลกยนตกรรม : ขับครั้งแรก'มิราจ'ทรีไดมอน จุดขายที่คุณค่า ความประหยัด

                ณ วันนี้ถือว่า รถใหม่ ในตลาดอีโค คาร์ ลงตัวแล้วทั้ง 5 โมเดล ในตลาดประกอบไปด้วย มาร์ช บริโอ อัลเมร่า สวิฟท์ และมิราจ แต่ละคันก็มีระยะเวลาเริ่มต้นใกล้เคียงกัน สดใหม่ ในตลาดที่สุด (มาร์ช ปรับเปลี่ยนโมเดล 2012) ทั้งหมดไม่ใช่รถเก่า ยังถือว่า ใหม่สดๆ แง่ของเวลาเลือกซื้อได้ทั้งหมด

               รถรุ่นล่าสุดที่ออกมาให้ได้สัมผัส คือ มิราจ จากมิตซูบิชิ โดยค่ายทรีไดมอนนั้น เน้นเรื่องไปได้ไกลกว่า ประหยัด คุ้มค่ากว่า มิราจ ออกมาในแพลตฟอร์มของแฮทแบค 5 ประตูเช่นเดียวกับ มาร์ช บริโอ และสวิฟท์ ขุมพลัง รหัส3A92 ขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบ DOHC MIVEC 12 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ CVT 6 จังหวะ พร้อม Sportronic และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III มิตซูบิชิได้จัดทดลองขับครั้งแรก ที่สนามพีระเซอร์กิตเป็นการขับระยะทางสั้นๆ

               การออกแบบ หน้าตาภายนอกของมิราจดูลงตัวตรงด้านหน้า แต่ด้านข้างยังไม่ลงเพราะซุ้มล้อหลังแบนเป็นระนาบเดียวกับตัวถัง ละทิ้งความรู้สึกมั่นคงแข็งแกร่งไป

                ส่วนด้านท้ายดีกว่า ไปในแนวเดียวกับด้านหน้า และดีกว่า ท้ายบริโอ อย่างชัดเจน ส่วนคอนโซลหน้า เส้นสายต่างๆ ใช้แนวนอนเสียเป็นส่วนใหญ่ เป็นเทรนด์รถญี่ปุ่นยุคใหม่เพราะให้ความรู้สึกกว้าง แต่รสนิยมคนไทยเรื่องนี้ผมว่า คนไทยชอบอะไรที่โค้งๆ ไม่ชอบแข็งๆ

                การจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ทำให้เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจเท่าไร ในขณะที่พื้นที่วางแก้ว พื้นที่ใช้งานมิราจจัดมาเต็ม มิติของตัวถังยาว 3,710 มม. กว้าง 1,665 มม. สูง 1,490 มม. รองรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง มีพื้นที่เก็บสัมภาระที่ใหญ่พอสมควร การเปิดประตูที่ 5 ใส่ของได้ง่าย

               การแยกแยะมิราจแต่ล่ะรุ่น ทั้ง GLS และ GLS Ltd. แยกกันไม่ค่อยออก ต้องคอยดูว่ามีสปอยเลอร์หลังหรือไม่ ถึงจะทราบว่าเป็น GLS และ GLS Limited และต้องดู "ซิลเวอร์ เดคคอเรชั่น" เช่น มือจับประตูด้านใน ขอบมาตรวัด ขอบช่องแอร์ และฐานเกียร์แบบโครเมียม ที่ใส่เข้าไป

              ระบบรองรับแรงสะเทือนด้าน หน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท หลังทอร์ชั่นบีม ล้อขนาด 14 นิ้ว และยางลดแรงเสียดทานขนาด 165/65R14 โดยในรุ่น GLX มาพร้อมฝาครอบล้อ ส่วน GLS และ GLS Limited เป็นล้ออัลลอยน้ำหนักเบา ด้านพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EPS รัศมีวงเลี้ยวแคบ 4.4 เมตร

              ในสนามระยะทาง ลองขับ 3.1 กิโลเมตร (สองรอบสนาม กับ 2 คัน) ดูเหมือนว่าเนื้อหาของรถกับรูปแบบจะไปด้วยกันได้มากทีเดียว คือ มิราจ เน้นความประหยัด ความคุ้มค่า อย่างน้อยมันก็ไม่ต้องวิ่งเร็ว เหมือนการขับแบบสปอร์ต ในขณะที่รถกินน้ำมันมาก คือรถที่ใช้ในเมือง ดังนั้น มิราจ เหมาะสมกับความเร็วระดับที่ใช้ในเมือง

             จุดเด่นของมิราจอยู่ที่ทางเลือก ความคุ้มค่า การประหยัดน้ำมัน โดยที่มิตซูบิชิ บอกว่าทำได้ 22 กิโลเมตรต่อลิตร และดูจากแคมเปญราคา ลด 1 หมื่นบาท แถมเงื่อนไข บริการหลังการขาย ประกันภัย ถือเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจในช่วงออกตัวสู่ตลาดนี้

             ส่วนมาตรวัดแบบ Combination meter สามารถปรับแสงสว่างหน้าปัดได้ 8 ระดับ ดูง่ายชัดเจน แจ้งข้อมูลต่างๆ ครบครัน พร้อมจอแสดงผลข้อมูลอเนกประสงค์ (Multi-information display) แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา รวมไปถึงการเตือนต่างๆ เมื่อมีความผิดปกติของระบบต่างๆ นอกจากนี้ยังมาพร้อมไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco lamp) เมื่อผู้ขับใช้รอบเครื่องยนต์และความเร็วช่วงที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง (ยกเว้นรุ่น GL) เบาะผ้าสีดำลายกราฟฟิก ได้รับการออกแบบให้โอบรับกับสรีระของผู้ขับขี่และความสะดวกสบายของผู้โดยสาร และสามารถปรับสูง-ต่ำได้ (เฉพาะที่นั่งคนขับ) พร้อมพนักพิงศีรษะแบบปรับสูงต่ำได้ ยิ่งไปกว่านั้น เบาะนั่งหลังยังสามารถพับปรับแบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากขึ้น

             ในรุ่น GLS และ GLS Ltd. มาพร้อมระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS ช่วยให้ล็อกหรือปลดล็อกประตู และฝากระโปรงท้าย รวมไปถึงปุ่มสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกสบาย ขณะที่รุ่น GLX จะมีระบบพับเก็บและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติเมื่อกดล็อกและปลดล็อกรถ

              ด้านความบันเทิง รุ่นท็อป GLS Ltd. ใส่วิทยุ ซีดี MP3 ดีวีดี จอภาพแบบระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) ระบบนำทางในรถ (Navigator System) และช่อง USB ในขณะที่รุ่น GLX และ GLS มาพร้อมวิทยุซีดี MP3 พร้อมช่อง AUX-in และช่อง USB

             ขณะเดียวกันยังมีฟังก์ชันมาตรฐานเพื่ออำนวยความสะดวก อย่าง ไฟหน้าปิดได้เองโดยอัตโนมัติ ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ รวมถึงระบบล็อกประตูซ้ำอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย โดยระบบจะสั่งล็อกประตูทุกบานอัตโนมัติหากไม่มีการเปิดประตูภายใน 30 วินาที หลังจากกดปุ่มปลดล็อกประตูรีโมท และระบบสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน หรือเพียงขยับก้านไฟเลี้ยวเพียงเล็กน้อย สัญญาณไฟเลี้ยวและสัญญาณไฟเตือนในหน้าปัดจะกะพริบ 3 ครั้ง

            "มิราจ ใหม่" วางเครื่องยนต์เบนซินรหัส3A92 ขนาด1.2 ลิตร 3 สูบ DOHC MIVEC 12 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ CVT 6 จังหวะ พร้อม Sportronic และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS-III

             เมื่อบวกกับเทคโนโลยีการลดน้ำหนักและลดแรงเสียดทานในเครื่องยนต์ มิตซูบิชิจึงเคลมว่า "มิราจ" จะให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 22 กิโลเมตรต่อลิตร สอดคล้องกับข้อกำหนดของรถอีโคคาร์

             สำหรับช่วง ความปลอดภัยจัดระบบเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกด้วยดิสก์เบรกหน้าขนาด 13 นิ้ว แบบมีช่องระบายความร้อน และดรัมเบรกหลังขนาด 7 นิ้ว (ยกเว้นรุ่น GL) เหนืออื่นใดในรุ่น GL และ GLX จะติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านคนขับลูกเดียว ขณะที่ GLS และ GLS Limited จะเพิ่มถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหน้ามาให้ด้วย

             โดยความโดดเด่นของ "มิราจ ใหม่" จะถูกถ่ายทอดผ่านพรีเซ็นเตอร์ "นิชคุณ หรเวชกุล" หนึ่งในสมาชิกวงดนตรีเกาหลี "2PM" ซึ่งมิตซูบิชิมองว่ามีบุคลิกโดดเด่นและความสามารถหลากหลาย ตรงกับจุดเด่นของ "มิราจ ใหม่" โดยตลอดระยะเวลา 1 ปีของสัญญา นอกเหนือจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์สำหรับภาพยนตร์โฆษณา และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ แล้ว "นิชคุณ" ยังจะได้ร่วมทำกิจกรรมของมิตซูบิชิในโอกาสต่างๆ อีกด้วย

              นอกจากนี้ในช่วงเปิดตัวบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด ยังอัดแคมเปญให้ "มิราจ" ด้วยการแถมฟรีประกันภัยชั้น 1 "ไดมอนด์ อินชัวรันซ์" และรับโบนัสพิเศษเงินคืน 10,000 บาท เฉพาะลูกค้า 9,000 คนแรก

ราคามิตซูบิ มิราจ ใหม่

รุ่นรถ ราคา (บาท) 
1.GLD Ltd. เกียร์อัตโนมัติ 546,000 
2.GLS เกียร์อัตโนมัติ 506,000 
3.GLX เกียร์อัตโนมัติ 460,000
4.GLX เกียร์ธรรมดา 426,000 
5.GL เกียร์ธรรมดา 380,000

............................
(เปิดโลกยนตกรรม : ขับครั้งแรก'มิราจ'ทรีไดมอน จุดขายที่คุณค่า ความประหยัด)