ไลฟ์สไตล์

จากปลูกป่าสู่นโยบาย'ธนาคารต้นไม้'

จากปลูกป่าสู่นโยบาย'ธนาคารต้นไม้'

15 มี.ค. 2555

จากปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง - สู่นโยบาย 'ธนาคารต้นไม้' ของ ธกส. : โดย ... สุรัตน์ อัตตะ

          ผลจากการน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คือ ไม้ใช้สอย ไม้กินได้ ไม้เศรษฐกิจและช่วยพื้นฟูระบบนิเวศ อนุรักษ์ดินและน้ำ ทำให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) นำมาแปลงเป็นนโยบายธนาคารต้นไม้ ด้วยการมาสื่อสารถึงเกษตรกรเพื่อเปลี่ยนวิธีคิดในการทำการเกษตรจากเกษตรเชิงเดี่ยวที่ต้องพึ่งพาระบบมาเป็นเกษตรผสมผสานที่สามารถพึ่งตนเองได้

          การดำเนินโครงการดังกล่าว ธ.ก.ส.ได้คัดเลือกชุมชนที่สมัครใจ โดยที่เกษตรกรสามารถปลูกต้นไม้ในที่ดินของตัวเองหรือที่ดินส่วนรวมก็ได้แล้วจดบันทึกในสมุดทะเบียน จากนั้นจะมีคณะกรรมการตรวจสอบประเมินมูลค่าต้นไม้ ทำทะเบียนบันทึกอีกครั้งหนึ่งเพื่อประกอบการประเมินมูลค่าต้นไม้ โดยเบื้องต้น ธ.ก.ส.จะสนับสนุนเงินทุนบางส่วนเช่น การจัดหาพันธุ์ไม้ เป็นต้น

          ลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการธนาคารต้นไม้ว่า ในปีบัญชี 2555 นี้ ธ.ก.ส.จะเร่งขยายแนวคิดโครงการธนาคารต้นไม้ออกไปให้กว้างขวางยิ่งขึ้น สามารถใช้ต้นไม้เป็นสินทรัพย์สำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การใช้ต้นไม้เป็นหลักประกันในการกู้เงิน การคิดดอกเบี้ยให้แก่ผู้ปลูกในโครงการธนาคารต้นไม้ รวมทั้งจะดำเนินการโครงการ "เงินออมธนาคารต้นไม้" เพื่อให้ประชาชนทั่วไป หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนด้านการเงินผ่านโครงการดังกล่าว

          "ผู้ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการต้องฝากเงินขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท โดยธ.ก.ส.ตั้งเป้าระดมเงินฝากประมาณ 7,000 ล้านบาท และนำเงินเข้ากองทุนธนาคารต้นไม้ 19 ล้านบาท ทั้งนี้ผู้ฝากเงินในโครงการดังกล่าวธนาคารจะให้ดอกเบี้ยในอัตราปกติเช่นเดียวกับผู้ฝากเงินทั่วไป แต่ธ.ก.ส.จะจ่ายดอกเบี้ยพิเศษสมทบเข้ากองทุนธนาคารต้นไม้ในนามของผู้ฝากในอัตราร้อยละ 0.25 เพื่อนำมาสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนที่เข้าร่วมโครงการธนาคารต้นไม้ต่อไป"

          ผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ธ.ก.ส.ยังได้สนับสนุนด้านการเงินแก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการธนาคารต้นไม้ผ่านโครงการสินเชื่อสีเขียว ซึ่งเกษตรกรสามารถขอสินเชื่อเพื่อนำไปลงทุนประกอบอาชีพด้านการเกษตร โดยคิดอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเชิงสังคมเพื่อการปลูก ดูแลรักษาต้นไม้หรือปรับโครงสร้างการผลิตจากพืชเชิงเดี่ยวเป็นเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยใช้ต้นไม้ตามโครงการธนาคารต้นไม้เป็นหลักประกัน นำมูลค่าต้นไม้มากำหนดวงเงินกู้ไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าต้นไม้

          สำหรับกิจกรรมต่อเนื่องจากโครงการธนาคารต้นไม้ ธ.ก.ส.มีแนวทางให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนเพื่อใช้ประโยชน์จากต้นไม้ที่ปลูก เช่น กลุ่มวิสาหกิจเพาะชำกล้าไม้ โดยเฉพาะพันธุ์ไม้ในท้องถิ่นเพื่อแจกและจำหน่ายสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิก กลุ่มวิสาหกิจเผาถ่านและน้ำส้มควันไม้ ตลอดจนกลุ่มวิสาหกิจแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร นำผลผลิตที่ได้จากไม้ผลมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มและกลุ่มวิสาหกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์ไม้ด้วยการนำไม้ที่ตัดแล้วมาแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์และของใช้ต่างๆ เป็นต้น

          ส่วนผลการดำเนินงาน ปัจจุบันมีชุมชนเข้าร่วมโครงการธนาคารต้นไม้แล้วจำนวน 260 ชุมชน มีจำนวนสมาชิกที่ปลูกต้นไม้ 7,601 ราย มีต้นไม้ที่ปลูก จำนวน 911,433 ต้น ส่วนแผนการดำเนินงานในปีบัญชี 2555 จะจัดตั้งธนาคารต้นไม้ 3,500 ชุมชน สมาชิก 8.5 หมื่นราย จำนวนต้นไม้ 8.5 ล้านต้น

          โครงการธนาคารต้นไม้ของ ธ.ก.ส.ไม่เพียงการน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรื่องการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่างมาแปลงเป็นนโยบายเท่านั้น แต่ยังเป็นการขยายผลแนวพระราชดำริไปสู่การปฏิบัติจริงของเกษตรกรในโครงการอีกด้วย

 

 

----------

(หมายเหตุ : จากปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง - สู่นโยบาย 'ธนาคารต้นไม้' ของ ธ.ก.ส. : โดย ... สุรัตน์ อัตตะ)

----------