
'สิมิลัน'ทะเลไทยสุดยอดความประทับใจ
ชวนเที่ยว : สิมิลัน ทะเลไทยสุดยอดความประทับใจของฉัน โดย...เรื่อง/ภาพ : ธัชดล ปัญญาพานิชกุล
หากเอ่ยถึง “สิมิลัน” หลายคนคงจินตนาการถึงผืนน้ำทะเลสีฟ้าครามใสแจ๋วท่ามกลางหมู่เกาะน้อยใหญ่มากมาย ที่ดึงดูดใจของทั้งนักท่องเที่ยวและนักดำน้ำผู้แสวงหาความงดงามที่มิอาจค้นพบได้บนผืนดิน และแม้การมาเยือนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันในครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ความตื่นเต้นประทับใจกับภาพอันงดงามที่อยู่ตรงเบื้องหน้าของผม ก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงไปกว่าใครเลยสักนิด
แสงอาทิตย์ยามเช้า พาดผ่านผืนน้ำสาดส่องผ่านช่องหน้าต่างของเรือ ปลุกให้ตื่นจากภวังค์ชะโงกหน้าออกไปรับแสงอรุณ สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือ เกาะสี่ ที่ทะเลอันดามัน เป็นวันเริ่มต้นทริปดำน้ำของเราในวันแรก
ไดฟ์ลีดเดอร์ประจำทริป แจกแจงข้อมูล ตลอดจนกฎ กติกา มารยาทและความปลอดภัยเรื่องการดำน้ำในทริปนี้ให้นักดำน้ำกว่า 20 ชีวิตบนเรือ
“บนพื้นดินและใต้ผืนน้ำของสิมิลันยังคงเป็นสวรรค์สำหรับผมอยู่เสมอ” เสียงที่ดังก้องอยู่ในใจเมื่อเรือแล่นเข้าสู่จุดมุ่งหมายของทริปที่ถูกบันทึกลงในแผนการเดินทางดำน้ำเป็นประจำทุกปี
หมู่เกาะสิมิลัน อยู่ในเขต จ.พังงา เป็นหมู่เกาะ 9 เกาะท่ามกลางทะเลลึก ที่วางตัวเรียงรายตามแนวยาวเหนือจรดใต้ ได้แก่ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง (มี 2 เกาะติดกัน) เกาะปายู เกาะหัวกะโหลก (เกาะบอน) เกาะสิมิลัน และเกาะบางู โดยทั้งหมดมีความสวยงามสุดยอดทั้งเหนือผิวน้ำและใต้ท้องทะเล แนวปะการังของสิมิลันแผ่กระจายอย่างหนาแน่นและมีความหลากหลาย โดยเฉพาะทางทิศตะวันออก มีจุดดำน้ำตื้นและน้ำลึกที่น่าสนใจมากมาย ด้วยเหตุนี้เองหมู่เกาะสิมิลันจึงมีความสำคัญในฐานะเป็นแหล่งดำน้ำลึกที่มีคุณภาพสูงที่สุดของประเทศไทย
แต่หลายคนที่ไปเยือนอาจยังไม่รู้ว่าชื่อของหมู่เกาะอันงดงามแห่งนี้ ตั้งขึ้นตามจำนวนเกาะน้อยใหญ่ทั้ง 9 เกาะในภาษายาวี หรือ มลายู อันมีความหมายว่า “เก้า” โดยทางฝั่งด้าน จ.พังงานั้น จะมีจุดท่องเที่ยวและสามารถแวะพักค้างคืนได้ทั้งบนเกาะสี่และเกาะแปด ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานอุทยานแห่งชาติ โดยเกาะนี้จะมียอดหินสันฉลาม เป็นสัญลักษณ์ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ถือเป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุด ส่วนเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน เป็นฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีคลื่นลมแรงมาก ซึ่งเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ ดังนั้นทางอุทยานจึงประกาศปิดเกาะในเดือนพฤษภาคม เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติทุกปี
ความสวยงามของโลกใต้ผืนน้ำสีฟ้าครามเปี่ยมไปด้วยความมหัศจรรย์ จนผมเองก็ยังไม่รู้จะเลือกคำใดมาถ่ายทอดถึงเสน่ห์อันงดงามได้อย่างครบถ้วน ไม่ใช่แค่ปะการังสีสันสวยงาม หรือปลาการ์ตูนสีสดเหมือนอย่างที่เราคุ้นตาในภาพทางจอโทรทัศน์เท่านั้น แต่ที่เกาะห้ายังมี Anita Reef หรือ หินม้วนเดียว วางเรียงรายอยู่บนพื้นที่ลานทราย สลับกับกองหินใหญ่เล็กเป็นไฮไลท์สำคัญอีกด้วย
หลังจากผมและเพื่อนนักดำน้ำกระโดดดำดิ่งลงสู่ใต้ท้องทะเล ภาพของฝูงปลาเหลือง เกาะกลุ่มว่ายวนล้อเล่นไปตามกองหินม้วนเป็นเกลียวปรากฏอยู่เบื้องหน้า สมัยก่อนที่เหล่าช่างภาพใต้น้ำยังถ่ายภาพด้วยฟิล์มทำให้แต่ละคนจะกดชัตเตอร์แบบเน้นแต่ละช็อตเพื่อให้ฟิล์ม 1 ม้วนที่มี 36 ภาพสามารถเก็บภาพแห่งความทรงจำได้หลายไดฟ์ แต่เพราะความสวยงามของ Anita Reef นั้นมากมาย จนฟิล์ม 1 ม้วนมักจะถูกใช้งานจนครบ 36 ภาพตั้งแต่ ณ ตรงนี้ และเพราะเหตุนี้ที่นี่จึงถูกเรียกขานว่า “หินม้วนเดียว”
โลกใต้บาดาลหมู่เกาะสิมิลันยังมีสิ่งเย้าใจยวนตาอย่าง หินกองใหญ่ ซึ่งมีปะการังอ่อนสีสันสดใส ชูช่อพลิ้วไหวไปตามกระแสน้ำที่ไหลเอื่อยผ่านกองหิน สลับกับกัลปังหา หรือ SeaFan ต้นเขื่องแผ่กิ่งก้านออกมาตามมุมหิน ทำให้นักดำน้ำต้องเคลื่อนตัวใต้ผืนน้ำอย่างระมัดระวังลำตัวมิให้ว่ายผ่านกระทบกับปะการังที่เติบโตเต็มวัยและกำลังจะเจริญงอกงามขึ้นมาใหม่
ฝูงปลาเล็กปลาน้อยที่พากันว่ายวนไปมาอยู่รอบกองหิน และภายในดงกองหินใหญ่ยังถือเป็นบ้านของปลากุดสลาดสีส้มจุดฟ้าอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจว่า เพราะเหตุใดหลายครั้งที่นักดำน้ำตั้งใจจะบันทึกภาพกอปะการังนั้น มักจะมีเจ้าปลาชนิดนี้ติดอยู่ในเฟรมเป็นของแถมที่เรียกร้อยยิ้มให้อยู่เสมอ
ส่วน Deep Six หนึ่งในจุดดำน้ำหรือที่พวกเรานักดำน้ำคุ้นหูเคยปากกับคำว่าไดฟ์ไซต์ มีกองหินก้อนใหญ่ใต้ทะเลวางตัวทับพิงกันเหมือนประติมากรรมใต้น้ำ และมีกอ anemone ปะการังชนิดหนึ่งซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของปลาการ์ตูนกอใหญ่วางเรียงรายอยู่บนยอด ปักเป้าหน้าหมาหลายตัวว่ายเรียงตามกันไป แต่สิ่งที่ทำให้ผมและเพื่อนนักดำน้ำตื่นเต้นกว่าปลาการ์ตูนหรือเจ้าปักเป้าหน้าหมาคือ เจ้าฉลามเสือดาว (leophard Shark) ที่นอนอุ้ยตุ้ยอยู่บนพื้นทรายระหว่างกองหิน ทุกคนต่างพากันมาเฝ้ามุงดูจนมันรำคาญผุดขึ้นว่ายน้ำหนีไป
อีกหนึ่งจุดดำน้ำสำคัญของหมู่เกาะสิมิลัน คือ กองหินริเชริว (richelieu rock) ซึ่งเป็นจุดดำน้ำที่ยังคงความสวยงามและสมบูรณ์ของปะการัง ฝูงปลา และสัตว์ทะเลหน้าตาประหลาด อย่างปลาปักเป้ากล่องสีเหลืองจุดดำ ม้าน้ำ กุ้งตัวตลก ปลากบ และยังมีปลาไหล ribbon eel ให้ได้กดชัตเตอร์เก็บภาพประทับใจ แต่ที่นี่ถือเป็นจุดดำน้ำที่มีความลึกมากพอสมควร นักดำน้ำจึงต้องวางแผนในการเตรียมตัวก่อนลงน้ำมาเป็นอย่างดี
เกาะบอน คือเกาะแก่งหนึ่งที่อยู่ในทะเลอันดามัน อันเป็นอีกหนึ่งจุดดำน้ำที่สำคัญของสิมิลัน ที่มี “กระเบนราหู (Manta Ray)” เป็นนางเอกผู้ดึงดูดความสนใจจากเหล่านักดำน้ำที่ต่างมาเฝ้าคอยรอชมการมาเยือนของสัตว์น้ำตัวใหญ่หายากชนิดนี้ แต่ความที่เกาะบอนเป็นจุดดำน้ำที่ลึกและมีกระแสน้ำพัดแรง การมาเฝ้ารอชมปลากระเบนยักษ์แห่งท้องทะเลจึงอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะนักดำน้ำจะต้องประคองตัวเองด้วยการเกาะยอดเขาใต้น้ำที่มีความลึกประมาณ 15-23 เมตร ลดหลั่นกันไปเป็นแนวยาว
และภูเขาใต้น้ำของเกาะบอนอันเป็นหลักยึดของนักดำน้ำในการรอคอยเฝ้าชมแมนต้านั้น เป็นหัวแหลม ซึ่งจะมีกระแสน้ำพัดแรง ในสมัยก่อนภูเขาใต้น้ำแห่งนี้มีแต่ความมืดมน ไม่ได้มีความงดงามอื่นใด ถ้าไร้เงาปีกของแมนต้า เรย์ เสน่ห์อันน่าตรึงใจของเกาะบอนก็จะสูญหายไปในทันที แต่ ณ วันนี้ด้วยวิถีทางของธรรมชาติที่ไม่เหมือนเก่า หลังเกิดปะการังฟอกขาว ซึ่งเป็นเสียงโอดครวญจากธรรมชาติถึงผลการทำร้ายจากมนุษย์แล้ว ยอดเขาทะมึนทึมก็เริ่มกลับมามีชีวิตชีวากว่าเก่า
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ที่ผมมีโอกาสได้มาเยือนหมู่เกาะสิมิลัน พบว่า เกาะบอนเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เพราะก้อนหินสีดำใต้ผืนน้ำสีฟ้าครามปกคลุมไปด้วยสีสันสดใสของปะการังอ่อน และแผ่ขยายอาณาจักรครอบคลุมไปแทบจะทั่วทั้งผืนใต้ผืนน้ำของเกาะบอน เหล่าสัตว์น้ำตัวเล็กตัวน้อยที่ไม่เคยมีมาก่อนภายใต้ท้องทะเลแห่งนี้ วันนี้เรากลับได้เห็นฝูงปลาเล็กที่แหวกว่ายเวียนวนอยู่ตามกองหิน ทากปุ่มตัวเล็กตัวน้อยหลากรูปแบบและสีสันก็มีให้เห็น
จึงอยากจะฝากถึงนักดำน้ำทุกคนให้ช่วยกันระวังมากขึ้น เพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่เพียงก้อนหินเปลือยเปล่าอีกต่อไป หากเรายังคงดำน้ำกันแบบตามอำเภอใจ คิดแต่จะเกาะก้อนหินประคองตัวเพื่อรอคอยชมแมนต้า เรย์ เท่านั้น ภาพความมหัศจรรย์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้ไม่นานนี้ อาจจะกลายเป็นตำนานไปได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
....................................
(ชวนเที่ยว : สิมิลัน ทะเลไทยสุดยอดความประทับใจของฉัน โดย...เรื่อง/ภาพ : ธัชดล ปัญญาพานิชกุล)